นครศรีธรรมราช – ตำรวจ สภ.เชียรใหญ่ รวบ 2 หนุ่มใหญ่ บุกงัดกฎิเจ้าอาวาสวัดดัง องเชียรใหญ่ ฉกเงินกฐินกว่า 5 หมื่นบาท หลังจากชาวบ้านเห็นคนร้ายมีพิรุธแจ้งตำรวจจับได้ยกชุด พบประวัติก่อคดีอื้อ
วันนี้ (19 พ.ย.) พ.ต.ท.ไชยยันต์ บัณฑิต สารวัตรเวร สภ.เชียรใหญ่ นครศรีธรรมราช ได้นำตัวผู้ต้องหา 2 คน คือ นายประสิทธิ์ ทิพย์สุวรรณ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126 ม.3 ต.นาหมอบุญ อ.จุฬาภรณ์ นครศรีธรรมราช และ นายบำเพ็ญ ไหมสุวรรณ อายุ 24 ปี คนพื้นที่ อ.จุฬาภรณ์ นครศรีธรรมราช คดีลักทรัพย์มาสอบปากคำ หลังจาก พ.ต.ท.สมชาย เสนปาน สวป., พ.ต.ต.บรรจบ สงณรงค์ สวส.นำกำลังตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ที่ ต.นาหมอบุญ อ.จุฬาภรณ์ เมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ พฤติกรรมของคนร้ายทั้งสองคนนั้น พ.ต.ท.ไชยยันต์ บัณฑิต สารวัตรเวร สภ.เชียรใหญ่ กล่าวว่า เมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานที่ผ่านมา (18 พ.ย.) ชาวบ้านซึ่งอยู่บริเวณรอบวัดเชียรใหญ่ ม.5 ต.เชียรใหญ่ อ.เชียรใหญ่ ได้โทรศัพท์มาแจ้งว่าพบรถ จยย.มีผู้ชาย 2 คนขับขี่ออกจากวัดเชียรใหญ่แบบมีพิรุธและได้มีการจดหมายเลขทะเบียนรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวให้กับตำรวจขอให้ตำรวจมาตรวจสอบที่วัดเชียรใหญ่ด้วย ทางตำรวจจึงได้นำกำลังรุดไปยังวัดเชียรใหญ่เมื่อไปถึงได้ตรวจสอบพบว่าที่กุฎิของพระใบฎีกาสุภาพ ประทุมวัณโน รักษาการณ์เจ้าอาวาสประตูเปิดอยู่
เมื่อเข้าตรวจสอบพบร่องรอยการถูกงัดแงะ จึงมีการตรวจดูภายในกุฏิพบว่าเงินสดในย่ามของรักษาการเจ้าอาวาส ซึ่งเป็นเงินทอดกฐินจำนวนเกือบ 6 หมื่นบาทหายไป และชาวบ้านโดยเฉพาะคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง ได้ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุพบเห็นผู้ชาย 2 คน ท่าทางมีพิรุธลุกลี้ลุกลนขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในวัดและขับออกไปในเวลาไม่นานนัก และสังเกตเห็นว่าที่มือของผู้ชาย 1 ใน 2 มีร่องรอยถลอกจึงคิดว่าชายทั้ง 2 มาไม่ดีแน่เลยได้จดทะเบียนรถจักรยานยนต์ของคนร้ายเอาไว้เพื่อมอบให้ตำรวจตรวจสอบ
พ.ต.ท.ไชยยันต์ กล่าวอีกว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าทั้ง 2 เป็นคนร้ายจึงนำกำลังไปติดตามไปจับกุมตัวได้ที่บ้านพัก อ.จุฬาภรณ์ ซึ่งคนร้ายทั้ง 2 คนก็กำลังแบ่งเงินที่ได้มาจากขโมยมาพอดี และจากการสอบปากคำทั้ง 2 คนรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยเฉพาะนายประสิทธิ์ นั้นมีประวัติเป็นผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์มาหลายคดี ล่าสุดพึ่งพ้นโทษในคดีลักทรัพย์ได้ไม่กี่วันก็ออกมาก่อเหตุอีก ส่วนนายบำเพ็ญ เป็นน้องเขยนายประสิทธิ์ ก็รับสารภาพว่าทำไปเพราะมีหนี้สินเยอะ
อย่างไรก็ตาม ได้หลังมีการจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้แล้วก็ได้ประสานไปยังสถานีตำรวจภูธรพื้นที่ต่างๆ ที่เคยมีคดีคนร้ายบุกเข้าลักทรัพย์ตามวัดวาอารามต่างๆ เพราะมั่นใจว่าคนร้ายที่จับได้นี้อาจจะเป็นแก๊งที่ก่อเหตุก็ได้ จึงขอให้มาดูตัวเพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป ส่วนคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างที่แจ้งเบาะแสะตำรวจทางตำรวจก็จะมีการมอบรางวัลเพื่อเป็นการขอบคุณด้วย
วันนี้ (19 พ.ย.) พ.ต.ท.ไชยยันต์ บัณฑิต สารวัตรเวร สภ.เชียรใหญ่ นครศรีธรรมราช ได้นำตัวผู้ต้องหา 2 คน คือ นายประสิทธิ์ ทิพย์สุวรรณ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126 ม.3 ต.นาหมอบุญ อ.จุฬาภรณ์ นครศรีธรรมราช และ นายบำเพ็ญ ไหมสุวรรณ อายุ 24 ปี คนพื้นที่ อ.จุฬาภรณ์ นครศรีธรรมราช คดีลักทรัพย์มาสอบปากคำ หลังจาก พ.ต.ท.สมชาย เสนปาน สวป., พ.ต.ต.บรรจบ สงณรงค์ สวส.นำกำลังตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ที่ ต.นาหมอบุญ อ.จุฬาภรณ์ เมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ พฤติกรรมของคนร้ายทั้งสองคนนั้น พ.ต.ท.ไชยยันต์ บัณฑิต สารวัตรเวร สภ.เชียรใหญ่ กล่าวว่า เมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานที่ผ่านมา (18 พ.ย.) ชาวบ้านซึ่งอยู่บริเวณรอบวัดเชียรใหญ่ ม.5 ต.เชียรใหญ่ อ.เชียรใหญ่ ได้โทรศัพท์มาแจ้งว่าพบรถ จยย.มีผู้ชาย 2 คนขับขี่ออกจากวัดเชียรใหญ่แบบมีพิรุธและได้มีการจดหมายเลขทะเบียนรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวให้กับตำรวจขอให้ตำรวจมาตรวจสอบที่วัดเชียรใหญ่ด้วย ทางตำรวจจึงได้นำกำลังรุดไปยังวัดเชียรใหญ่เมื่อไปถึงได้ตรวจสอบพบว่าที่กุฎิของพระใบฎีกาสุภาพ ประทุมวัณโน รักษาการณ์เจ้าอาวาสประตูเปิดอยู่
เมื่อเข้าตรวจสอบพบร่องรอยการถูกงัดแงะ จึงมีการตรวจดูภายในกุฏิพบว่าเงินสดในย่ามของรักษาการเจ้าอาวาส ซึ่งเป็นเงินทอดกฐินจำนวนเกือบ 6 หมื่นบาทหายไป และชาวบ้านโดยเฉพาะคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง ได้ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุพบเห็นผู้ชาย 2 คน ท่าทางมีพิรุธลุกลี้ลุกลนขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในวัดและขับออกไปในเวลาไม่นานนัก และสังเกตเห็นว่าที่มือของผู้ชาย 1 ใน 2 มีร่องรอยถลอกจึงคิดว่าชายทั้ง 2 มาไม่ดีแน่เลยได้จดทะเบียนรถจักรยานยนต์ของคนร้ายเอาไว้เพื่อมอบให้ตำรวจตรวจสอบ
พ.ต.ท.ไชยยันต์ กล่าวอีกว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าทั้ง 2 เป็นคนร้ายจึงนำกำลังไปติดตามไปจับกุมตัวได้ที่บ้านพัก อ.จุฬาภรณ์ ซึ่งคนร้ายทั้ง 2 คนก็กำลังแบ่งเงินที่ได้มาจากขโมยมาพอดี และจากการสอบปากคำทั้ง 2 คนรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยเฉพาะนายประสิทธิ์ นั้นมีประวัติเป็นผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์มาหลายคดี ล่าสุดพึ่งพ้นโทษในคดีลักทรัพย์ได้ไม่กี่วันก็ออกมาก่อเหตุอีก ส่วนนายบำเพ็ญ เป็นน้องเขยนายประสิทธิ์ ก็รับสารภาพว่าทำไปเพราะมีหนี้สินเยอะ
อย่างไรก็ตาม ได้หลังมีการจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้แล้วก็ได้ประสานไปยังสถานีตำรวจภูธรพื้นที่ต่างๆ ที่เคยมีคดีคนร้ายบุกเข้าลักทรัพย์ตามวัดวาอารามต่างๆ เพราะมั่นใจว่าคนร้ายที่จับได้นี้อาจจะเป็นแก๊งที่ก่อเหตุก็ได้ จึงขอให้มาดูตัวเพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป ส่วนคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างที่แจ้งเบาะแสะตำรวจทางตำรวจก็จะมีการมอบรางวัลเพื่อเป็นการขอบคุณด้วย
