ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - แม่ทัพภาค 2 เผยไทยตรึงกำลังทหารกว่า 100 นาย บนเขาพระวิหารเฝ้าระวังสังเกตการณ์ทำพิธีทอดกฐินในวัดพื้นที่ทับซ้อนของคณะภรรยา “ฮุนเซน” นายกฯ กัมพูชา ล่าสุด ยังไม่พบความผิดปกติ ชี้การกระทำเช่นนี้ของฝ่ายกัมพูชาส่อเจตนาแสดงความเป็นเจ้าของพื้นที่ ย้ำระดับพื้นที่ได้ท้วงติงไปแล้ว ระบุ เมื่อทำพิธีทอดกฐินเสร็จกัมพูชาต้องออกจากพื้นที่ทั้งหมดทันทีในวันนี้ และปฏิบัติตามข้อตกลงคือให้เหลือกำลังทหารเท่ากันทั้ง 2 ฝ่าย
วันนี้ (12 พ.ย.) ที่สโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) เปิดเผยถึงกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาจัดทอดกฐินที่วัดแก้วสิกขาคีรีสาระ ในพื้นที่ทับซ้อนชายแดนไทย-กัมพูชา บนเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยมีภรรยา ของสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เดินทางมาร่วมเป็นประธานทอดกฐิน ว่า จากการรายงานสถานการณ์ในพื้นที่ ทราบว่า วันนี้ ภริยา สมเด็จฮุนเซน ขึ้นมาทอดกฐินที่วัดดังกล่าว โดยเมื่อวานนี้ทางฝ่ายกัมพูชาได้นิมนต์พระสงฆ์กัมพูชาขึ้นมาที่วัดดังกล่าวอีกจำนวน 60 รูป
ในส่วนของฝ่ายไทยมีกำลังทหารกองกำลังสุรนารี (กกล.สุรนารี) อยู่ในบริเวณวัดและพื้นที่โดยรอบเขาพระวิหารอยู่แล้วจำนวนกว่า 100 นาย ซึ่งมีรอง ผบ.กองกำลังสุรนารี ดูแลอำนวยการและคอยประสานงานกับฝ่ายกัมพูชาอยู่แล้ว ซึ่งจากการได้รับรายงานล่สุดยังไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด
พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทหารไทยที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวเป็นการใช้กำลังตามข้อตกลงร่วมกันของทั้ง 2 ฝ่าย ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาก็มีการจัดกำลังทหารเข้ามาดูแลพื้นที่ร่วมกันในจำนวนที่เท่ากัน และจุดนี้เป็นจุดประสานงานของทั้ง 2 ฝ่ายมาตลอดอยู่แล้ว
“การจัดทอดกฐินของฝ่ายกัมพูชาครั้งนี้ โดยส่วนตัวเห็นว่าฝ่ายกัมพูชาน่าจะอยากแสดงความเป็นเจ้าของพื้นที่ ซึ่งวัดดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นที่ทับซ้อนที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดนอย่างชัดเจน แต่การทอดกฐินทั้ง 2 ฝ่าย ก็สามารถจะทำในวัดดังกล่าวได้ เพียงแต่ฝ่ายเราไม่ได้ทำ แต่ฝ่ายเขากลับทำและเขาทำเช่นนี้มาเป็นครั้งที่ 2 จากครั้งแรกที่มีการทำพิธีฉลองปราสาทพระวิหารได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และมาครั้งนี้ก็ถือเอาประเพณีช่วงที่มีการทอดกฐินขึ้นมาจัดกิจกรรมอีก” พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าว
พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 เคยทำหนังสือทวงติงไปยังฝ่ายกัมพูชาเกี่ยวกับการที่จะเข้ามากระทำการใดๆ ในพื้นที่ทับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นการกระทำพิธีทางศาสนาหรือการทอดกฐิน ก็ได้ทำการท้วงติงไปตลอด และได้มีการพูดคุยประสานกับฝ่ายภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชามาตลอดเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อฝ่ายกัมพูชาเข้ามาทำกิจกรรมทอดกฐินในพื้นที่พิพาท จะต้องปฏิบัติตามข้อตกลงคือภายในวันนี้ ทุกอย่างต้องเข้าสู่ภาวะปกติและทุกคนต้องกลับออกจากพื้นที่พิพาท จะคงเหลือไว้เพียงกำลังทหารจำนวนเท่าๆ กันเหมือนที่เคยเป็นมาเท่านั้น
หากทางฝ่ายกัมพูชาจะใช้โอกาสนี้เพื่อนำกำลังทหารขึ้นมายึดพื้นที่จะเกิดการเผชิญหน้ากันขึ้นระหว่างทหารไทยกับกัมพูชาหรือไม่ นั้น พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าวว่า ฝ่ายไทยเรามีทหารดูแลพื้นที่ดังกล่าวอยู่แล้ว และมีตัวแทนในการเจรจา คือ รอง ผบ.กองกำลังสุรนารี หากเป็นเช่นนี้จริงคงต้องพูดคุยและเจรจากันก่อนจึงจะดำเนินการอย่างอื่นต่อไป
สำหรับการปรับลดกำลังทหารในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชานั้น หลังการประชุมระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย-กัมพูชา ในวันนี้ (12 พ.ย.) ที่ จ.เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา คงจะมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งผลการหารือจะนำเสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติต่อไป
“สถานการณ์โดยรวมด้านชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าสุดจนถึงขณะนี้ ทุกอย่างยังเป็นไปด้วยความปกติ ด้านปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ยังคงเปิดให้ประชาชนทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้าชมความงามของปราสาทเช่นเคยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง” พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าว