นครศรีธรรมราช – น้ำป่าเทือกเขาหลวงไหลทะลักอย่างรุนแรงเข้าท่วมโรงพยาบาลท่าศาลา นครศรีฯ ส่งผลให้แพทย์และพยาบาลรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งอพยพผู้ป่วยหนักออกไปจาก รพ.และเข้ารักษาตัวต่อที่ รพ.มหาราช โดยด่วน ด้านประชาชนเดือดร้อนจำนวนมาก บ้านเรือนถูกน้ำท่วมจนมิดหลังคา
วันนี้ (12 พ.ย.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาหลังจากเกิดภาวะฝนตกอย่างหนักตลอดทั้งคืนโดยเฉพาะแนวเทือกเขาหลวง ซึ่งพาดผ่านแนวเหนือ-ใต้ ตอนกลางของจังหวัดนครศรีธรรมราช และในช่วงเช้ามืด ปรากฏว่าได้มีน้ำป่าไหลทะลักลงมาจากเทือกเขาหลวงอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง ส่งผลให้พื้นที่ฝั่งตะวันออกของเทือกเขาหลวงคือ อ.สิชล อ.ท่าศาลา และ อ.เมืองบางส่วน เกิดภาวะอุทกภัยอย่างรุนแรง ประชาชนเดือดร้อนจำนวนมาก หลายพื้นที่บ้านเรือนประชาชนถูกท่วมจนมิดหลังคา
โดยเฉพาะที่ อ.ท่าศาลา นั้นปริมาณน้ำได้ไหลเข้าท่วมโรงพยาบาลท่าศาลาอย่างหนัก ทำให้แพทย์และพยาบาลรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งอพยพผู้ป่วยหนักออกไปจาก รพ.และเข้ารักษาตัวต่อที่ รพ.มหาราช นครศรีธรรมราช และโรงพยาบาลนั้นเปิดทำการได้เพียงบางส่วนเท่านั้น ซึ่งล่าสุดนั้นได้ปิดให้บริการงานผู้ป่วยนอก รับเฉพาะผู้ป่วยงานอุบัติเหตุและฉุกเฉินเท่านั้น
ช่วงสายของวันเดียวกัน ว่าที่ร้อยตรีฐิตวัฒน์ เชาวลิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายสุชาติ สุวรรณกาศ ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราช และนางเพ็ญศรี แก้วคุ้มภัย ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมทั้งหน่วยงานสนับสนุนการปฏิบัติงานด้านบรรเทาสาธารณภัย ได้นำอุปกรณ์หลายรายการ โดยเฉพาะเรือท้องแบนเข้าให้การช่วยเหลือการเคลื่อนย้ายวัสดุสิ่งของต่างๆ รวมทั้งคลังเวชภัณฑ์ที่ต้องเคลื่อนย้ายหนีน้ำ ขณะที่ปริมาณน้ำนั้นได้เพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน ในพื้นที่เกษตรกรรมริมถนนสายท่าศาลา-นบพิตำ สวนยางพาราและสวนปาล์มของเกษตรกรจำนวนหลายพันไร่จมอยู่ใต้น้ำ ซึ่งทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เคลื่อนย้ายเครื่องจักรกลหนักออกขุดลอก และเปิดช่องทางน้ำ เพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่เกษตรกรรม รวมทั้งพื้นที่ชุมชนต่างๆ อย่างเร่งด่วน
ส่วนความเสียหายในพื้นที่ อ.ท่าศาลา และ อ.สิชล ล่าสุดนั้นยังไม่สามารถประเมินได้คาดว่าจะมีสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะวัวควายสูญหายไปกับกระแสน้ำจำนวนมาก
ขณะที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช สรุปความเสียหายล่าสุดถึงขณะนี้ มีพื้นที่ประสบภัยแล้ว 9 อำเภอ 47 ตำบล 338 หมู่บ้าน ประกอบด้วย อำเภอขนอม นบพิตำ เฉลิมพระเกียรติ ชะอวด สิชล พรหมคีรี ท่าศาลา ร่อนพิบูลย์ และลานสกา ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 33,897 ครัวเรือน รวม 128,450 คน
พื้นที่ทางการเกษตรเสียหายแล้วกว่า 16,000 ไร่ บ่อปลาบ่อกุ้ง กว่า 300 บ่อ สัตว์เลี้ยงอีกกว่า 5,000 ตัว
ส่วนการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ได้อพยพประชาชนและสัตว์เลี้ยงไปอยู่ยังที่ปลอดภัย พร้อมทั้งจัดเตรียมอาหารสัตว์สำรองไว้ที่ศูนย์วิจัยและถ่ายทอดเทคโนโลยีนครศรีธรรมราช และศูนย์วิจัยพัฒนาอาหารสัตว์สุราษฎร์ธานี โดยพร้อมให้การสนับสนุนทันทีที่มีการร้องขอ