xs
xsm
sm
md
lg

ฝูงบินปะการังเพื่อทะเลคืบหน้าจมลำแรก 24 พ.ย.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต -โครงการวาง “ฝูงบินปะการังเพื่อทะเล” คืบหน้า คาดจมเครื่องบินลำแรกได้ 24 พ.ย.51

นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวในการประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการ “ฝูงบินปะการังเพื่อทะเล” เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำแหล่งใหม่ของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งจัดขึ้นที่ ห้องประชุม POC ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ว่าขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว หลังจากที่ได้มีการมอบหมายงานให้ฝ่ายต่างๆ ทำหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินการ ซึ่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ได้ตอบรับที่จะเดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดแล้ว

ทั้งนี้ พิธีเปิดจะมีขึ้นในวันที่ 29 พ.ย.2551 ที่บริเวณหาดลายัน อ่าวบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และในขณะเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติแล้วมนุษย์ นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน ให้ความสนใจที่จะมาร่วมโครงการในครั้งนี้อีกด้วย โดยทางจังหวัดจะทำหนังสือเรียนเชิญต่อไป

ส่วนการขนย้ายซากเครื่องบินเพื่อนำไปทำฝูงบินปะการัง ได้มีการกำหนดรายละเอียดในการขนย้ายเรียบร้อยแล้ว จะเริ่มขนย้ายซากเครื่องบินก่อนจำนวน 9 ลำ จากด้านหลังท่าเทียบเรือน้ำลึก ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต มาอยู่ด้านหน้าเพื่อประกอบฐานที่บริเวณด้านหน้าท่าเทียบเรือ โดยจะเริ่มดำเนินการในระหว่างวันที่ 16- 22 พ.ย.51 และจะมีขนซากเครื่องบินลงเรือเพื่อขนย้ายไปยังจุดที่จะวางในวันที่ 23 พ.ย.2551 และจะเริ่มจมเครื่องบินวันแรกในวันที่ 24 พ.ย. 2551 โดยจะมีการจมเครื่องบินตามจุดต่างๆที่กำหนดไว้ หลังจากนั้นจะมีการจมอย่างต่อเนื่องจนครบทั้ง 9 ลำ ส่วนลำที่ 10 นั้นจะมีการจมในวันที่ 29 พ.ย.2551 ซึ่งเป็นวันที่มีการเปิดงานฝูงบินปะการังเพื่อทะเลอย่างเป็นทางการ

สำหรับโครงการฝูงบินปะการรังเพื่อทะเลเกิดขึ้นจากความร่วมมือของหลายๆหน่วยงาน ที่ต้องการสร้างแหล่งดำน้ำแห่งใหม่ให้กับจังหวัดภูเก็ต ภายหลังจากที่ชายฝั่งทะเลอันดามันได้รับผลกระทบจากคลื่นสึนามิ ทำให้แนวปะการังบริเวณชายฝั่งได้รับความเสียหาย จำนวนแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำในประเทศไทยลดลง และปะการังบางส่วนที่เหลืออยู่อยู่ในสภาพเสื่อมโทรม จึงได้มีความคิดที่จะสร้างแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำขึ้นมาใหม่ โดยการนำซากเครื่องบินที่ปลดประจำการแล้วมาทำเป็นฝูงบินปะการัง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพิ่มอัตราของนักท่องเที่ยวดำน้ำให้มีมากขึ้น และสร้างความสมอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ำในทะเล ลดความเสียหายและกระจายความหนาแน่นของกิจกรรมการท่องเที่ยว ออกจากแนวปะการังธรรมชาติ รวมทั้งสร้างรายได้ และสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดภูเก็ต ซึ่งจุดดำน้ำแห่งใหม่จะกลายเป็นแหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียงระดับโลกอนาคต
กำลังโหลดความคิดเห็น