นครศรีธรรมราช - ชาวบ้านสุดทนแจ้ง ตำรวจบุกจับ 2 พระ 1 สามเณรและอีก 1 ฆราวาส ร่วมปาร์ตี้น้ำต้มใบกระท่อมคากุฏิ เจ้าอาวาสสึกทันที ควบคุมตัว 10 ชั่วโมงยังไม่สร่างเมา สันนิษฐานเบื้องต้นไม่ใช่แค่ 4 คูณ 100
พ.ต.ท.นิรัตน์ เทพเดช สว.สป.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีพระภิกษุ สามเณรและฆราวาสมั่วสุมจัดปาร์ตี้ยาเสพติดในกุฏิภายในวัดชลเฉนียน หรือวัดชายคลอง ริมถนนศรีธรรมราช ต.ในเมือง อ.เมือง เป็นประจำ จึงนำกำลังตำรวจเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าที่กุฏิหลังหนึ่งมีการเปิดเพลงเสียงในจังหวะเร่าร้อนดังลั่น เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบพบว่าประตูกุฏิปิดไว้แต่ไม่ได้ใส่กลอน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงผลักประตูเข้าไปดู และต้องตะลึงกับภาพภายในกุฏิเมื่อมีพระภิกษุ สามเณร และฆราวาส รวม 4 คน กำลังตั้งวงดื่มน้ำต้มพืชกระท่อมไม่ทราบสูตร โดยแต่ละคนอยู่ในอาการเมามายอย่างหนัก สบงจีวรกระจัดกระจายทั่วกุฏิ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปควบคุมตัวเอาไว้ได้โดยละม่อม พร้อมตรวจยึดน้ำต้มพืชกระท่อมจำนวน 1 ขวดลิตร ขวดพลาสติกน้ำอัดลมยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งใช้บรรจุน้ำต้มพืชกระท่อม ขวดที่ดื่มหมดแล้วอีก 3 ขวด ใบพืชกระท่อม และจานกับแกล้มอีกจำนวนหนึ่ง
เจ้าหน้าที่ควบคุมทั้งหมดให้พระปลัดสมพงษ์ เจ้าอาสาววัดชลเฉนียน ทำการสึกทันที โดยทราบว่าเป็นพระภิกษุ 2 รูป และสามเณร 1 รูป จากนั้นจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คนไปดำเนินคดีที่โรงพักโดยทราบข้อมูลจากรายชื่อภิกษุสามเณรที่สังกัดในวัดคือ พระศุภชัย จันทร์สงค์ อายุ 23 ปี พระบุญเสริม ขวัญศรี อายุ 23 ปี และสามเณร 1 รูปคือสามเณรนิรุต โสมนาม อายุ 15 ปี และนายชัย ปานรักษ์ อายุ 22 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ไม่สามารถสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดได้ เนื่องจากอยู่ในอาการเมามายไม่ได้สติ พูดจาวกไปวนมาไม่รู้เรื่อง แม้แต่ชื่อของตัวเองก็ยังจำไม่ได้ จึงนำเข้าไปควบคุมไว้ในห้องขัง จนกระทั่งถึงตอนเที่ยงของอีกวัน เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบพบว่าทั้งหมดยังไม่สร่างเมาและยังนอนหลับคุดคู้อยู่ในมุมหนึ่งของห้องขัง
ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่า ทั้งหมดไม่ได้ดื่มน้ำต้มพืชกระท่อมสูตร 4 คูณ 100 แต่อาจจะดื่มน้ำต้มกระท่อมสูตรร้ายแรงที่มีส่วนผสมมากกว่าสูตร 4 คูณ 100 โดยอาจจะมียาบ้าหรือบดยากันยุงชนิดขดผสมลงไปด้วย ทำให้มีฤทธิ์กดประสาทอย่างรุนแรง แม้จะถูกจับมานานกว่า 10 ชั่วโมง แต่ผู้ต้องหายังไม่สร่างเมา ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะรอให้ผู้ต้องหาทั้งหมดส่างเมาและอาการเป็นปกติเสียก่อนจึงจะนำตัวมาแจ้งข้อหาและสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อ
ไป
พ.ต.ท.นิรัตน์ เทพเดช สว.สป.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีพระภิกษุ สามเณรและฆราวาสมั่วสุมจัดปาร์ตี้ยาเสพติดในกุฏิภายในวัดชลเฉนียน หรือวัดชายคลอง ริมถนนศรีธรรมราช ต.ในเมือง อ.เมือง เป็นประจำ จึงนำกำลังตำรวจเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าที่กุฏิหลังหนึ่งมีการเปิดเพลงเสียงในจังหวะเร่าร้อนดังลั่น เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบพบว่าประตูกุฏิปิดไว้แต่ไม่ได้ใส่กลอน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงผลักประตูเข้าไปดู และต้องตะลึงกับภาพภายในกุฏิเมื่อมีพระภิกษุ สามเณร และฆราวาส รวม 4 คน กำลังตั้งวงดื่มน้ำต้มพืชกระท่อมไม่ทราบสูตร โดยแต่ละคนอยู่ในอาการเมามายอย่างหนัก สบงจีวรกระจัดกระจายทั่วกุฏิ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปควบคุมตัวเอาไว้ได้โดยละม่อม พร้อมตรวจยึดน้ำต้มพืชกระท่อมจำนวน 1 ขวดลิตร ขวดพลาสติกน้ำอัดลมยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งใช้บรรจุน้ำต้มพืชกระท่อม ขวดที่ดื่มหมดแล้วอีก 3 ขวด ใบพืชกระท่อม และจานกับแกล้มอีกจำนวนหนึ่ง
เจ้าหน้าที่ควบคุมทั้งหมดให้พระปลัดสมพงษ์ เจ้าอาสาววัดชลเฉนียน ทำการสึกทันที โดยทราบว่าเป็นพระภิกษุ 2 รูป และสามเณร 1 รูป จากนั้นจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คนไปดำเนินคดีที่โรงพักโดยทราบข้อมูลจากรายชื่อภิกษุสามเณรที่สังกัดในวัดคือ พระศุภชัย จันทร์สงค์ อายุ 23 ปี พระบุญเสริม ขวัญศรี อายุ 23 ปี และสามเณร 1 รูปคือสามเณรนิรุต โสมนาม อายุ 15 ปี และนายชัย ปานรักษ์ อายุ 22 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ไม่สามารถสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดได้ เนื่องจากอยู่ในอาการเมามายไม่ได้สติ พูดจาวกไปวนมาไม่รู้เรื่อง แม้แต่ชื่อของตัวเองก็ยังจำไม่ได้ จึงนำเข้าไปควบคุมไว้ในห้องขัง จนกระทั่งถึงตอนเที่ยงของอีกวัน เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบพบว่าทั้งหมดยังไม่สร่างเมาและยังนอนหลับคุดคู้อยู่ในมุมหนึ่งของห้องขัง
ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่า ทั้งหมดไม่ได้ดื่มน้ำต้มพืชกระท่อมสูตร 4 คูณ 100 แต่อาจจะดื่มน้ำต้มกระท่อมสูตรร้ายแรงที่มีส่วนผสมมากกว่าสูตร 4 คูณ 100 โดยอาจจะมียาบ้าหรือบดยากันยุงชนิดขดผสมลงไปด้วย ทำให้มีฤทธิ์กดประสาทอย่างรุนแรง แม้จะถูกจับมานานกว่า 10 ชั่วโมง แต่ผู้ต้องหายังไม่สร่างเมา ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะรอให้ผู้ต้องหาทั้งหมดส่างเมาและอาการเป็นปกติเสียก่อนจึงจะนำตัวมาแจ้งข้อหาและสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อ
ไป