อุบลราชธานี -เกิดเหตุเศร้าในวงการศาสนา เมื่อคนร้ายแอบย่องเข้าไปใช้ขาตั้งไมโครโฟนทุบหัวฆ่าเจ้าคุณกิตติญาณโสภณ เจ้าคณะอำเภอเมืองอุบลราชธานี มรณภาพคากุฏิ เบื้องต้นสันนิษฐานสาเหตุมาจากคนร้ายต้องการชิงทรัพย์หรือเรื่องขัดแย้งส่วนตัว และเรื่องภายในวัด
เมื่อเวลา 14.45 น.วันนี้ (6 ส.ค.) ร.ต.ท.เชิดชัย ถนอมชีพ ร้อยเวร สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้รับแจ้งมีพระชั้นผู้ใหญ่ถูกฆ่าตายในกุฏิที่พักด้านทิศเหนือของวัดมณีวนาราม หรือ วัดป่าน้อย ถ.นครบาล ต.ในเมือง อ.เมือง จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.สมพิศ ชนะมี ผบก. พ.ต.อ.ไอศูรย์ สิงหนาถ รอง ผบก. พ.ต.ท.เด่นพงษ์ วรรณพงษ์ ผกก. พ.ต.ท.ศรัญ นิลวรรณ ไปยังที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นกุฏิ 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้แบบเก่า และเป็นที่พักของเจ้าคุณกิตติญาณโสภณ อายุ 73 ปี เจ้าอาวาสวัดที่เกิดเหตุ และเป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองอุบลราชธานี
สภาพศพถูกตีด้วยขาใช้ตั้งไมโครโฟนที่กลางศีรษะและท้ายทอยรวม 3 แผล เป็นแผลเหวอะหวะนอนเสียชีวิตในสภาพหงายหน้าสวมเพียงอังสะ และสบงไม่ห่มจีวร คาดเสียชีวิตมาประมาณ 1 ชั่วโมง จากการตรวจสอบภายในกุฏิไม่พบร่องรอยการรื้อค้นทรัพย์สินใดๆ มีเพียงขาตั้งไมค์ของกุฏิทิ้งไว้ข้างศพ
จากการสอบสวนพระณรงค์กิติปุนโน หรือ หลวงปู่ยาว พระลูกวัดที่พบศพ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าคุณกิตติญาณโสภณ ลงไปฉันท์เพลตามปกติ หลังจากนั้น สั่งให้พระลูกวัดไปหาซื้อตะปูมาตีฝาผนังกุฏิที่ชำรุดเสียหาย และได้เดินกลับเข้าไปในกุฏิเพียงองค์เดียว หลังจากพระลูกวัดกลับจากซื้อตะปูได้มาหาที่กุฏิ และพบเจ้าคุณกิตติญาณโสภณถูกตีด้วยขาไมโครโฟนเสียชีวิตแล้ว
จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุการบุกฆ่าพระผู้ใหญ่รูปนี้ที่แน่ชัด แต่สันนิษฐานว่า อาจมาจากคนร้ายต้องการชิงทรัพย์ หรือเป็นความขัดแย้งส่วนตัว และความขัดแย้งภายในวัด
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า หลังเกิดเหตุมีการควบคุมตัวคนสติไม่สมประกอบที่เดินอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุไปสอบปากคำ แต่ไม่พบพิรุธ จึงได้ปล่อยตัวออกมา สำหรับประวัติของเจ้าคุณกิตติญาณโสภณ เดิมเคยจำพรรษาอยู่ที่วัดหลวง มีฉายาว่า พระมหาแสง
ต่อมาได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดเกิดเหตุ เพื่อบริหารวัดแทนเจ้าอาวาสรูปเดิมที่มรณภาพไป และมาถูกฆ่าดังกล่าว
เมื่อเวลา 14.45 น.วันนี้ (6 ส.ค.) ร.ต.ท.เชิดชัย ถนอมชีพ ร้อยเวร สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้รับแจ้งมีพระชั้นผู้ใหญ่ถูกฆ่าตายในกุฏิที่พักด้านทิศเหนือของวัดมณีวนาราม หรือ วัดป่าน้อย ถ.นครบาล ต.ในเมือง อ.เมือง จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.สมพิศ ชนะมี ผบก. พ.ต.อ.ไอศูรย์ สิงหนาถ รอง ผบก. พ.ต.ท.เด่นพงษ์ วรรณพงษ์ ผกก. พ.ต.ท.ศรัญ นิลวรรณ ไปยังที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นกุฏิ 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้แบบเก่า และเป็นที่พักของเจ้าคุณกิตติญาณโสภณ อายุ 73 ปี เจ้าอาวาสวัดที่เกิดเหตุ และเป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองอุบลราชธานี
สภาพศพถูกตีด้วยขาใช้ตั้งไมโครโฟนที่กลางศีรษะและท้ายทอยรวม 3 แผล เป็นแผลเหวอะหวะนอนเสียชีวิตในสภาพหงายหน้าสวมเพียงอังสะ และสบงไม่ห่มจีวร คาดเสียชีวิตมาประมาณ 1 ชั่วโมง จากการตรวจสอบภายในกุฏิไม่พบร่องรอยการรื้อค้นทรัพย์สินใดๆ มีเพียงขาตั้งไมค์ของกุฏิทิ้งไว้ข้างศพ
จากการสอบสวนพระณรงค์กิติปุนโน หรือ หลวงปู่ยาว พระลูกวัดที่พบศพ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าคุณกิตติญาณโสภณ ลงไปฉันท์เพลตามปกติ หลังจากนั้น สั่งให้พระลูกวัดไปหาซื้อตะปูมาตีฝาผนังกุฏิที่ชำรุดเสียหาย และได้เดินกลับเข้าไปในกุฏิเพียงองค์เดียว หลังจากพระลูกวัดกลับจากซื้อตะปูได้มาหาที่กุฏิ และพบเจ้าคุณกิตติญาณโสภณถูกตีด้วยขาไมโครโฟนเสียชีวิตแล้ว
จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุการบุกฆ่าพระผู้ใหญ่รูปนี้ที่แน่ชัด แต่สันนิษฐานว่า อาจมาจากคนร้ายต้องการชิงทรัพย์ หรือเป็นความขัดแย้งส่วนตัว และความขัดแย้งภายในวัด
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า หลังเกิดเหตุมีการควบคุมตัวคนสติไม่สมประกอบที่เดินอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุไปสอบปากคำ แต่ไม่พบพิรุธ จึงได้ปล่อยตัวออกมา สำหรับประวัติของเจ้าคุณกิตติญาณโสภณ เดิมเคยจำพรรษาอยู่ที่วัดหลวง มีฉายาว่า พระมหาแสง
ต่อมาได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดเกิดเหตุ เพื่อบริหารวัดแทนเจ้าอาวาสรูปเดิมที่มรณภาพไป และมาถูกฆ่าดังกล่าว