อุบลราชธานี- ตร.เมืองดอกบัวโชว์ผลงาน บุกรวบตัวอดีตพระลูกวัด มือสังหารเจ้าคณะอำเภอเมืองฝ่ายมหานิกาย เมื่อ 6 ส.ค.เผยปมสังหารแค้นถูกไล่ออกจากวัด เพราะพาพระ-เณรมั่วสุมเสพสุราของมึนเมา และต้องการชิงทรัพย์
จากกรณีคนร้ายใช้ขาไมโคโฟนแบบตั้งโต๊ะตีศรีษะ และท้ายทอยเจ้าคุณกิตติญาณโสภณ เจ้าอาวาสวัดมณีวนาราม หรือ วัดป่าน้อย และเป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองอุบลราชธานี มรณภาพคากุฏิ เบื้องต้นสงสัยคนใกล้ชิดที่ท่านเจ้าคุณ เคยให้ความช่วยเหลือประสงค์ต่อทรัพย์ หรือจากความขัดแย้งภายในวัด โดยเหตุเกิดเมื่อบ่ายวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (12ส.ค.) พล.ต.ต.อัศวิน ณรงค์พันธ์ รอง ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.สมพิศ ชนะมี ผบก.จังหวัดอุบลราชธานี และชุดสืบสวนคดีดังกล่าวได้แถลงข่าวการจับกุมนายเกรียงไกร หรือหนุ่ม สิงหาสินธุ์ อายุ 27 ปี มีภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 151 หมู่ 2 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันพักอยู่กับเพื่อนที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ในซอยถนนพิชิตรังสรรค์ ต.ในเมือง ซึ่งอยู่ข้างวัดมณีวนารามที่เกิดเหตุ
ระหว่างเข้าควบคุมตัว นายเกรียงไกร ชุดสืบสวนยึดได้เสื้อยืดและกางเกง ที่พยานระบุเห็นนายเกรียงไกรสวนใส่ในวันเกิดเหตุมาให้แผนกพิสูจน์หลักฐาน ตรวจหาคราบเลือดของคนตายด้วย
ชุดสืบสวนระบุปมปัญหาที่นำไปสู่การสังหาร เกิดจาก นายเกรียงไกร เคยบวชเป็นพระ จำพรรษาอยู่ในกุฏิใกล้ที่เกิดเหตุ แต่ถูกให้สึกเพราะมีพฤติกรรมชวนพระ-เณร ในวัดดื่มสุรา หลังสึกจากพระ นายเกรียงไกร ยังวนเวียนลักลอบเข้ามาพักอาศัยที่กุฏิเดิม
ต่อมาท่านเจ้าคุณกิตติญาณโสภณ ทราบเรื่อง จึงให้พระลูกวัดนำกุญแจไปปิดประตูห้องไว้ ทำให้นายเกรียงไกรต้องออกไปขออาศัยอยู่ในห้องเช่าใกล้วัดเกิดเหตุ แต่ยังคงเข้ามาป้วนเปี้ยนขอความช่วยเหลือจากพระ-เณรในวัดประจำ
กระทั่งวันเกิดเหตุนายเกรียงไกร ทราบว่า เจ้าคุณกิตติญาณโสภณ ให้พระลูกวัดไปเบิกเงินจากธนาคาร มาจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายประจำเดือน จึงลอบเข้าไปในกุฏิหวังขโมยเงิน แต่เจ้าคุณกิตติญาณโสภณตื่นขึ้นมาพบ นายเกรียงไกรตัดสินใจใช้ขาไมโคโฟน ที่วางอยู่ใกล้มือ ทุบตีทำร้ายจนเจ้าคุณกิตติญาณโสภณมรณภาพคากุฏิ แล้วล้วงเอาเงินสดจากกระเป๋าใส่สตางค์ที่อยู่ในย่ามไปจำนวน 4,000 บาทเศษ
ระหว่างกำลังจะรื้อค้นเอาทรัพย์สินในกุฏิต่อ ปรากฏว่า พระลูกวัดที่เจ้าคุณกิตติญาณโสภณใช้ไปซื้อตะปูกลับเข้ามาในกุฏิ นายเกรียงไกรจึงตัดสินใจวิ่งหลบหนีออกไปจากที่เกิดเหตุ จนกระทั่งถูกตามจับได้ดังกล่าว
หลังจากพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานแวดล้อมได้ครบถ้วน จึงขอออกหมายจับตัวนายเกรียงไกรต่อศาลจังหวัดอุบลราชธานี และบุกเข้าจับกุมตัวนายเกรียงไกรไว้ได้ พร้อมกับตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นเพื่อความสะดวก ในการที่จะกระทำผิดอย่างอื่น หรือเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน เบื้องต้นนายเกรียงไกรผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ จึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี
ขณะเดียวกัน ชุดสืบสวนยังเชื่อว่าการสังหารเจ้าคุณกิตติญาณโสภณ นอกจากนายเกรียงไกรจะเป็นมือสังหารแล้ว อาจมีคนอื่นร่วมรู้เห็นสนับสนุนให้นายเกรียงไกรแอบเข้ามาขโมยทรัพย์สิน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เมื่อพบมีใครเข้าข่ายรู้เห็นเป็นใจให้นายเกรียงไกรกระทำความผิด ก็จะทำการจับกุมเพิ่มเติมต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.สมพิศ ชนะมี ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน จ.อุบลราชธานี มีวัดหลายแห่งถูกคนร้ายลอบเข้ามาขโมยทรัพย์สินมีค่าหลายครั้ง เพราะเป็นที่เก็บรักษาทรัพย์สินทางพุทธศาสนา เจ้าหน้าที่จะนิมนต์บรรดาพระคุณเจ้าตามวัดสำคัญ เพื่อหารือกำหนดมาตรการป้องกันคนร้ายฉวยโอกาสเข้าโจรกรรม โดยเฉพาะตามวัดที่มีพระพุทธรูปโบราณเก็บไว้ จะขอให้ทางวัดทำการติดตั้งสัญญาณกันขโมย เหมือนตามธนาคารและร้านจำหน่ายทองรูปพรรณ เพื่อป้องกันเหตุไว้ล่วงหน้าด้วย