ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ประกอบการอสังหาฯ ภูเก็ต ร้อง “ยามเฝ้าแผ่นดิน” ถูกกลุ่ม 18 มงกุฎ อ้างเป็นตัวแทนจากพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล และรัฐมนตรีกระทรวงหนึ่ง แต่งตั้งให้มาตรวจสอบเกี่ยวกับโครงการอสังหาริมทรัพย์ และการทำลายทรัพยากรฯ ในจังหวัดภูเก็ต ตบทรัพย์นักลงทุนทั้งคนไทย และต่างชาติ แต่ละรายเป็นตัวเลขถึง 6 หลัก บอก “มาหาเงินให้นาย”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ได้เข้าร้องเรียนกับสมาชิกกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต และผู้สื่อข่าว “ผู้จัดการรายวัน” ที่สำนักงานศูนย์ข่าวว่า ขณะนี้มีบุคคลกลุ่มหนึ่งเดินทางมาจากส่วนกลาง ได้อ้างชื่อพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล และรัฐมนตรีท่านหนึ่ง มาเรียกร้องเอาเงินจากผู้ประกอบการในจังหวัดภูเก็ต ทั้งชาวต่างชาติ และคนไทย เป็นจำนวนตัวเลขถึง 6 หลัก
ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาฯ ดังกล่าวเล่าให้ฟังอีกว่า ทีมงานชุดนี้มีประมาณ 6 คน บางคนมีหนังสือแต่งตั้งอย่างเป็นทางการมอบหมายให้มาดู และดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งเรื่องที่ดิน ป่าไม้ ป่าชายเลน ชายฝั่ง ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต แต่ไม่แน่ใจว่า หนังสือแต่งตั้งที่นำมาแสดง เป็นของจริงหรือของปลอม โดยมีข้าราชการที่เกี่ยวข้องคนหนึ่งให้ความร่วมมือ โดยครั้งแรกได้มีการจัดประชุม หลังจากนั้นก็เดินทางไปตรวจสถานที่ก่อสร้างต่างๆ ทั้งโรงแรม โครงการบ้านหรู รวมทั้งมารีน่า ทั่วทั้งเกาะภูเก็ต ที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติ
หลังจากนั้น ทีมงานชุดนี้จะใช้วิธีการพูดเกี่ยวกับความผิดของผู้ประกอบการ เช่น ที่ดินที่ตั้งโครงการมีปัญหาออกเอกสารสิทธิไม่ถูกต้อง ออกทับที่ป่า และอื่นๆ สุดท้ายจะจบด้วยการอ้างว่า เพื่อไม่ให้ธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ต้องติดขัด และเสียเวลา ก็จะขออาสาไปดำเนินการแก้ปัญหาให้ แต่ต้องขอค่าเสียเวลา และเท่าที่ได้พูดคุยระหว่างผู้ประกอบการอสังหาฯ ด้วยกัน ทราบว่า มีการจ่ายเงินให้ทุกราย เมื่อมีการมาขอก็จัดการให้โดยจ่ายเป็นค่าตอบแทนในการเดินทาง ซึ่งค่าเดินทางที่จ่ายไปนั้น มีการต่อรองราคากันค่อนข้างสูง ตัวเลขอยู่ที่ 5-6 หลักขึ้นไป ที่ต้องยอมจ่ายนั้นเพื่อไม่ให้ธุรกิจชะงัก บางรายเป็นการตัดความรำคาญ บางรายก็ไม่ให้เอาผิด ถ้ารวมกันแล้วน่าจะเป็นเงินหลายสิบล้านบาท
ผู้ประกอบการรายเดียวกันเล่าให้ฟังอีกว่า การเข้ามาของทีมงานชุดนี้ จะเข้าไปในทุกธุรกิจทั้งที่ถูกต้อง และไม่ถูกต้องโดยมีเจ้าหน้าที่ของรัฐในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเข้าไปยืนยันว่า ที่ดินแปลงนี้ออกไม่ถูกต้อง ทับที่หลวง ทับที่ป่าไม้ และมีการพูดกันตรงๆว่า “มาหาเงินให้นาย” พฤติกรรมของบุคคลกลุ่มนี้ เป็นการทำลาย เศรษฐกิจ และบรรยากาศการลงทุน ทำให้ต้นทุนการลงทุนสูงขึ้นไปอีก ทั้งเกิดความชะงักงันของธุรกิจ ทีมงาน 18 มงกุฎชุดนี้มาปฏิบัติการอยู่ที่ภูเก็ตประมาณ 2เดือนแล้ว
“เอกสารหลักฐานเกี่ยวกับที่ดินที่ออกมานั้น เป็นเอกสารที่ออกโดยทางราชการ จะถูกต้อง หรือไม่ถูกต้อง ก็ต้องดำเนินการกันตามกฎหมาย ถ้าผิดก็ว่ากันไปตามผิด ถูกก็ว่ากันไปตามถูก แต่ไม่ใช่มาทำกันแบบนี้ ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้เข้าหารือ และแจ้งกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นการส่วนตัวไว้แล้ว” ผู้ประกอบการอสังหาฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ได้เข้าร้องเรียนกับสมาชิกกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต และผู้สื่อข่าว “ผู้จัดการรายวัน” ที่สำนักงานศูนย์ข่าวว่า ขณะนี้มีบุคคลกลุ่มหนึ่งเดินทางมาจากส่วนกลาง ได้อ้างชื่อพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล และรัฐมนตรีท่านหนึ่ง มาเรียกร้องเอาเงินจากผู้ประกอบการในจังหวัดภูเก็ต ทั้งชาวต่างชาติ และคนไทย เป็นจำนวนตัวเลขถึง 6 หลัก
ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาฯ ดังกล่าวเล่าให้ฟังอีกว่า ทีมงานชุดนี้มีประมาณ 6 คน บางคนมีหนังสือแต่งตั้งอย่างเป็นทางการมอบหมายให้มาดู และดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งเรื่องที่ดิน ป่าไม้ ป่าชายเลน ชายฝั่ง ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต แต่ไม่แน่ใจว่า หนังสือแต่งตั้งที่นำมาแสดง เป็นของจริงหรือของปลอม โดยมีข้าราชการที่เกี่ยวข้องคนหนึ่งให้ความร่วมมือ โดยครั้งแรกได้มีการจัดประชุม หลังจากนั้นก็เดินทางไปตรวจสถานที่ก่อสร้างต่างๆ ทั้งโรงแรม โครงการบ้านหรู รวมทั้งมารีน่า ทั่วทั้งเกาะภูเก็ต ที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติ
หลังจากนั้น ทีมงานชุดนี้จะใช้วิธีการพูดเกี่ยวกับความผิดของผู้ประกอบการ เช่น ที่ดินที่ตั้งโครงการมีปัญหาออกเอกสารสิทธิไม่ถูกต้อง ออกทับที่ป่า และอื่นๆ สุดท้ายจะจบด้วยการอ้างว่า เพื่อไม่ให้ธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ต้องติดขัด และเสียเวลา ก็จะขออาสาไปดำเนินการแก้ปัญหาให้ แต่ต้องขอค่าเสียเวลา และเท่าที่ได้พูดคุยระหว่างผู้ประกอบการอสังหาฯ ด้วยกัน ทราบว่า มีการจ่ายเงินให้ทุกราย เมื่อมีการมาขอก็จัดการให้โดยจ่ายเป็นค่าตอบแทนในการเดินทาง ซึ่งค่าเดินทางที่จ่ายไปนั้น มีการต่อรองราคากันค่อนข้างสูง ตัวเลขอยู่ที่ 5-6 หลักขึ้นไป ที่ต้องยอมจ่ายนั้นเพื่อไม่ให้ธุรกิจชะงัก บางรายเป็นการตัดความรำคาญ บางรายก็ไม่ให้เอาผิด ถ้ารวมกันแล้วน่าจะเป็นเงินหลายสิบล้านบาท
ผู้ประกอบการรายเดียวกันเล่าให้ฟังอีกว่า การเข้ามาของทีมงานชุดนี้ จะเข้าไปในทุกธุรกิจทั้งที่ถูกต้อง และไม่ถูกต้องโดยมีเจ้าหน้าที่ของรัฐในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเข้าไปยืนยันว่า ที่ดินแปลงนี้ออกไม่ถูกต้อง ทับที่หลวง ทับที่ป่าไม้ และมีการพูดกันตรงๆว่า “มาหาเงินให้นาย” พฤติกรรมของบุคคลกลุ่มนี้ เป็นการทำลาย เศรษฐกิจ และบรรยากาศการลงทุน ทำให้ต้นทุนการลงทุนสูงขึ้นไปอีก ทั้งเกิดความชะงักงันของธุรกิจ ทีมงาน 18 มงกุฎชุดนี้มาปฏิบัติการอยู่ที่ภูเก็ตประมาณ 2เดือนแล้ว
“เอกสารหลักฐานเกี่ยวกับที่ดินที่ออกมานั้น เป็นเอกสารที่ออกโดยทางราชการ จะถูกต้อง หรือไม่ถูกต้อง ก็ต้องดำเนินการกันตามกฎหมาย ถ้าผิดก็ว่ากันไปตามผิด ถูกก็ว่ากันไปตามถูก แต่ไม่ใช่มาทำกันแบบนี้ ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้เข้าหารือ และแจ้งกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นการส่วนตัวไว้แล้ว” ผู้ประกอบการอสังหาฯ กล่าว