ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผลสำรวจภาคสนามอสังหาฯ ภูเก็ต พบมูลค่าการลงทุนทะลุ 120,000 ล้านบาทในปี 2551 นี้ บ้านหรู รีสอร์ต มาแรงยอดกว่า 80,000 ล้าน ขณะที่บ้านทั่วๆ ไปมูลค่า 40,000 ล้านบาท ด้านที่ดินเปล่าปีที่แล้วราคาขยับ 30-40% ป่าตองไร่ละ 80 ล้านบาท เผยแนวโน้มโตต่อเนื่องแม้การเมืองและเศรษฐกิจไม่นิ่ง ขณะที่รองผู้ว่าฯ เตือนนักลงทุนตรวจเอกสารสิทธิ์ก่อนตัดสินใจซื้อ
บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด ร่วมกับมูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย จัดสัมมนา เรื่อง “อสังหาริมทรัพย์ กับการเปลี่ยนแปลงราคาที่ดินจังหวัดภูเก็ต” เพื่อนำเสนอรายงานสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ จากการสำรวจภาคสนามในพื้นที่ภูเก็ต โดยมีนายสมิท ปาลวัฒน์วิไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการสัมมนา ซึ่งมีผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตทั้งจากส่วนกลาง ต่างชาติและนักลงทุนในท้องถิ่นเข้าร่วมประมาณ 300 คน ณ โรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้ จ.ภูเก็ต
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ทำการสำรวจภาคสนามธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งประกอบด้วย บ้านที่อยู่อาศัยทั่วๆไป รีสอร์ตหรู คอนโดมิเนียมและที่ดินเปล่ารอบเกาะภูเก็ต เพื่อให้ทราบถึงสถานการณ์ที่แท้จริงที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ในการนำเสนอข้อมูลดังกล่าวเสนอให้กับนักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ที่สนใจเข้ามาลงทุนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ใช้เป็นข้อมูลตัดสินใจในการเข้ามาลงทุนที่จังหวัดภูเก็ต
จากการสำรวจธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พบว่า ในปี 2551 ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตเติบโตอย่างเนื่องจากปี 2550 ทั้งในส่วนของบ้านที่อยู่อาศัยทั่วๆไป และบ้านหรูที่เป็นรีสอร์ตขายให้ชาวต่างชาติ คอนโนมิเนียม มีมูลค่ารวมของตลาดไม่ต่ำกว่า 120,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 2550 ที่มีมูลค่าการลงทุนอยู่ที่ 100,000 ล้านบาท
แบ่งเป็นบ้านที่เป็นรีสอร์ต คอนโดมิเนียมรีสอร์ต ที่มีข้อมูลสำรวจมาตั้งแต่ปี 2547 มีทั้งหมด 101 โครงการ มีมูลค่าการลงทุนไม่ต่ำกว่า 80,000 ล้านบาท หรือประมาณ 4,000 หน่วย เฉลี่ยราคาอยู่ที่หน่วยละ 22 ล้านบาท เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องรอบเกาะภูเก็ตที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้อย่างสวยงาม
บ้านกลุ่มนี้การลงทุนส่วนใหญ่จะมาจากนักลงทุนส่วนกลางและนักลงทุนต่างชาติ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ที่ต้องการบ้านในลักษณะนี้จะเป็นกลุ่มต่างชาติเกือบทั้งหมด ลูกค้าที่เป็นคนไทยมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และตลาดกลุ่มนี้ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากภูเก็ตยังเป็นพื้นที่เป้าหมายพื้นที่หนึ่งที่คนต่างชาติต้องการมีบ้านพักตากอากาศ ประกอบกับภูเก็ตเป็นแบรนด์ ที่มีชื่อเสียงระดับโลกและมีความปลอดภัยจึงทำให้คนต่างชาติเกิดความมั่นใจในการเข้ามาลงทุนและซื้อบ้านอยู่ที่ภูเก็ต
ส่วนบ้านที่เป็นกลุ่มตลาดทั่วไป ทั้งทาวน์เฮาส์ บ้านแฝด บ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม มีมูลค่าการลงทุนประมาณ 4 หมื่นล้านบาท โดยบ้านที่ทำตลาดได้ดีจะอยู่ที่ราคาประมาณ 2-3 ล้านบาท และหากเป็นคอนโดมิเนียมราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท จะทำตลาดได้ดีมาก เนื่องจากกลุ่มลูกค้าของอสังหาฯกลุ่มนี้จะเป็นคนท้องถิ่นภูเก็ต คนจากต่างจังหวัดที่ย้ายเข้ามาทำงานในภูเก็ต และตลาดกลุ่มนี้ยังมีความต้องการอีกมาก ซึ่งจะเห็นด้วยจากโครงการบ้านจัดสรรที่เกิดขึ้นจำนวนมาก แต่สามารถที่จะขายออกได้เกือบทั้งหมด อย่างเมื่อปีที่แล้วมีบ้านระดับนี้เกิดขึ้นประมาณ 3,000 ยูนิต สามารถขายออกไปได้ประมาณ 2,600 ยูนิต
สำหรับที่ดินเปล่ารอบเกาะภูเก็ตนั้น ดร.โสภณ กล่าวว่า จากการสำรวจที่ดินรอบเกาะภูเก็ต พบว่า ในรอบปีทีผ่านมา ราคาที่ดินได้ขยับตัวเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 30-40% โดยที่ดินฝั่งตะวันตกยังเป็นที่ต้องการของนักลงทุนสูงเหมือนเดิม เนื่องจากชายฝั่งตะวันตกของเกาะภูเก็ตมีความสวยงามมากกว่า โดยเฉพาะที่ดินที่ติดริมทะเลราคาและเห็นวิวทะเล เช่น ที่บริเวณหาดป่าตองราคาที่ดินจากเมื่อปีที่แล้วราคาอยู่ที่ไร่ละ 50 ล้านบาท ปีนี้ขยับเป็นไร่ละ 70-80 ล้านบาท ส่วนฝั่งตะวันออกนั้นราคาไม่ขยับมากนัก เนื่องจากความสวยงามของทะเลมีน้อยกว่า
ดร.โสภณ ยังกล่าวถึงแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตว่า ภูเก็ตยังเป็นพื้นที่ที่นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติให้ความสนใจเข้ามาลงทุน ทั้งที่เป็นบ้านระดับทั่วไป และบ้านระดับสูง ทั้งนี้เพราะปัจจัยด้านลบจากภายนอกไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเมือง เศรษฐกิจที่ชะลอตัวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาฯของภูเก็ตมากนัก ทำให้นักลงทุนมั่นใจในการเข้ามาลงทุนที่ภูเก็ต
เตือนตรวจเอกสารสิทธิก่อนซื้อ
นายสมิทธิ์ ปาลวัฒน์วิไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตเติบโตต่อเนื่อง จากการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตดี ซึ่งปัจจุบันนี้โครงการบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียมมีเกิดขึ้นทุกวัน ซึ่งบางพื้นที่มีที่ดินจำกัดก็จะหันไปทำโครงการคอนโดมิเนียมแทนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบ
สิ่งหนึ่งที่ผู้ประกอบการจะต้องระมัดระวังในการเข้ามาพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต คือ เรื่องของกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อจะต้องมีการตรวจสอบให้ดีว่าที่ดินนั้นเป็นที่ดินที่ออกเอกสารสิทธิถูกต้องหรือไม่ อยู่บนที่สูงเกินกว่า 80 เมตรหรือไม่ เพราะเท่าที่มีการตรวจสอบพบว่ามีที่ดินจำนวนมากในภูเก็ตที่ออกเอกสารสิทธิไม่ถูกต้อง ซึ่งเรื่องนี้นักลงทุนจะต้องตรวจสอบให้ดี และนอกจากจะต้องตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดินแล้ว ผู้ที่จะเข้ามาลงทุนจะต้องศึกษาในเรื่องของกฎหมายสิ่งแวดล้อมและกฎหมายผังเมืองด้วย เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตมีเรื่องของสิ่งแวดล้อมคุ้มครองอยู่
บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด ร่วมกับมูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย จัดสัมมนา เรื่อง “อสังหาริมทรัพย์ กับการเปลี่ยนแปลงราคาที่ดินจังหวัดภูเก็ต” เพื่อนำเสนอรายงานสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ จากการสำรวจภาคสนามในพื้นที่ภูเก็ต โดยมีนายสมิท ปาลวัฒน์วิไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการสัมมนา ซึ่งมีผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตทั้งจากส่วนกลาง ต่างชาติและนักลงทุนในท้องถิ่นเข้าร่วมประมาณ 300 คน ณ โรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้ จ.ภูเก็ต
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ทำการสำรวจภาคสนามธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งประกอบด้วย บ้านที่อยู่อาศัยทั่วๆไป รีสอร์ตหรู คอนโดมิเนียมและที่ดินเปล่ารอบเกาะภูเก็ต เพื่อให้ทราบถึงสถานการณ์ที่แท้จริงที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ในการนำเสนอข้อมูลดังกล่าวเสนอให้กับนักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ที่สนใจเข้ามาลงทุนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ใช้เป็นข้อมูลตัดสินใจในการเข้ามาลงทุนที่จังหวัดภูเก็ต
จากการสำรวจธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พบว่า ในปี 2551 ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตเติบโตอย่างเนื่องจากปี 2550 ทั้งในส่วนของบ้านที่อยู่อาศัยทั่วๆไป และบ้านหรูที่เป็นรีสอร์ตขายให้ชาวต่างชาติ คอนโนมิเนียม มีมูลค่ารวมของตลาดไม่ต่ำกว่า 120,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 2550 ที่มีมูลค่าการลงทุนอยู่ที่ 100,000 ล้านบาท
แบ่งเป็นบ้านที่เป็นรีสอร์ต คอนโดมิเนียมรีสอร์ต ที่มีข้อมูลสำรวจมาตั้งแต่ปี 2547 มีทั้งหมด 101 โครงการ มีมูลค่าการลงทุนไม่ต่ำกว่า 80,000 ล้านบาท หรือประมาณ 4,000 หน่วย เฉลี่ยราคาอยู่ที่หน่วยละ 22 ล้านบาท เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องรอบเกาะภูเก็ตที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้อย่างสวยงาม
บ้านกลุ่มนี้การลงทุนส่วนใหญ่จะมาจากนักลงทุนส่วนกลางและนักลงทุนต่างชาติ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ที่ต้องการบ้านในลักษณะนี้จะเป็นกลุ่มต่างชาติเกือบทั้งหมด ลูกค้าที่เป็นคนไทยมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และตลาดกลุ่มนี้ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากภูเก็ตยังเป็นพื้นที่เป้าหมายพื้นที่หนึ่งที่คนต่างชาติต้องการมีบ้านพักตากอากาศ ประกอบกับภูเก็ตเป็นแบรนด์ ที่มีชื่อเสียงระดับโลกและมีความปลอดภัยจึงทำให้คนต่างชาติเกิดความมั่นใจในการเข้ามาลงทุนและซื้อบ้านอยู่ที่ภูเก็ต
ส่วนบ้านที่เป็นกลุ่มตลาดทั่วไป ทั้งทาวน์เฮาส์ บ้านแฝด บ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม มีมูลค่าการลงทุนประมาณ 4 หมื่นล้านบาท โดยบ้านที่ทำตลาดได้ดีจะอยู่ที่ราคาประมาณ 2-3 ล้านบาท และหากเป็นคอนโดมิเนียมราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท จะทำตลาดได้ดีมาก เนื่องจากกลุ่มลูกค้าของอสังหาฯกลุ่มนี้จะเป็นคนท้องถิ่นภูเก็ต คนจากต่างจังหวัดที่ย้ายเข้ามาทำงานในภูเก็ต และตลาดกลุ่มนี้ยังมีความต้องการอีกมาก ซึ่งจะเห็นด้วยจากโครงการบ้านจัดสรรที่เกิดขึ้นจำนวนมาก แต่สามารถที่จะขายออกได้เกือบทั้งหมด อย่างเมื่อปีที่แล้วมีบ้านระดับนี้เกิดขึ้นประมาณ 3,000 ยูนิต สามารถขายออกไปได้ประมาณ 2,600 ยูนิต
สำหรับที่ดินเปล่ารอบเกาะภูเก็ตนั้น ดร.โสภณ กล่าวว่า จากการสำรวจที่ดินรอบเกาะภูเก็ต พบว่า ในรอบปีทีผ่านมา ราคาที่ดินได้ขยับตัวเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 30-40% โดยที่ดินฝั่งตะวันตกยังเป็นที่ต้องการของนักลงทุนสูงเหมือนเดิม เนื่องจากชายฝั่งตะวันตกของเกาะภูเก็ตมีความสวยงามมากกว่า โดยเฉพาะที่ดินที่ติดริมทะเลราคาและเห็นวิวทะเล เช่น ที่บริเวณหาดป่าตองราคาที่ดินจากเมื่อปีที่แล้วราคาอยู่ที่ไร่ละ 50 ล้านบาท ปีนี้ขยับเป็นไร่ละ 70-80 ล้านบาท ส่วนฝั่งตะวันออกนั้นราคาไม่ขยับมากนัก เนื่องจากความสวยงามของทะเลมีน้อยกว่า
ดร.โสภณ ยังกล่าวถึงแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตว่า ภูเก็ตยังเป็นพื้นที่ที่นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติให้ความสนใจเข้ามาลงทุน ทั้งที่เป็นบ้านระดับทั่วไป และบ้านระดับสูง ทั้งนี้เพราะปัจจัยด้านลบจากภายนอกไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเมือง เศรษฐกิจที่ชะลอตัวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาฯของภูเก็ตมากนัก ทำให้นักลงทุนมั่นใจในการเข้ามาลงทุนที่ภูเก็ต
เตือนตรวจเอกสารสิทธิก่อนซื้อ
นายสมิทธิ์ ปาลวัฒน์วิไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตเติบโตต่อเนื่อง จากการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตดี ซึ่งปัจจุบันนี้โครงการบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียมมีเกิดขึ้นทุกวัน ซึ่งบางพื้นที่มีที่ดินจำกัดก็จะหันไปทำโครงการคอนโดมิเนียมแทนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบ
สิ่งหนึ่งที่ผู้ประกอบการจะต้องระมัดระวังในการเข้ามาพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต คือ เรื่องของกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อจะต้องมีการตรวจสอบให้ดีว่าที่ดินนั้นเป็นที่ดินที่ออกเอกสารสิทธิถูกต้องหรือไม่ อยู่บนที่สูงเกินกว่า 80 เมตรหรือไม่ เพราะเท่าที่มีการตรวจสอบพบว่ามีที่ดินจำนวนมากในภูเก็ตที่ออกเอกสารสิทธิไม่ถูกต้อง ซึ่งเรื่องนี้นักลงทุนจะต้องตรวจสอบให้ดี และนอกจากจะต้องตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดินแล้ว ผู้ที่จะเข้ามาลงทุนจะต้องศึกษาในเรื่องของกฎหมายสิ่งแวดล้อมและกฎหมายผังเมืองด้วย เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตมีเรื่องของสิ่งแวดล้อมคุ้มครองอยู่
