ศูนย์ข่าวภูเก็ต – อสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตยังดี สำนักงานที่ดินภูเก็ตเผยยอดรายได้จากค่าธรรมเนียมและภาษีอากร ปี 51กว่า 1,627 ล้านบาท
นายวิโรจน์ เตชะจันตะ เจ้าพนักงานที่ดิน จ.ภูเก็ต กล่าวถึงการจัดเก็บค่าธรรมเนียมและภาษีอากร รวมทั้งการให้บริการจัดทำนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ในปีงบประมาณ 2551 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2550 - กันยายน 2551 ว่า ในส่วนของสำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ได้มีการบริการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ดังนี้ ประเภทมีทุนทรัพย์จำนวน 25,010 ราย เฉลี่ยวันละ 94 ราย ประเภทไม่มีเงินทุนทรัพย์จำนวน 25,204 ราย เฉลี่ยวันละ 95 ราย และสามารถทำการจัดเก็บรายได้ค่าธรรมเนียมและภาษีอากร รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,627,423,525.45 บาท
สำหรับรายได้ที่ทำการจัดเก็บได้ สำนักงานที่ดินจังหวัดได้นำส่งให้องค์กรปกครองท้องถิ่นรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 453,398,692 บาท ส่งให้สรรพากรพื้นที่เป็นเงิน 1169,970,815 บาท และนำส่งเป็นเงินรายได้แผ่นดินจำนวน 4054,018.45 บาท
อย่างไรก็ตาม รายได้จากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมและภาษีในปีงบประมาณ 2551 เมื่อเปรียบเทียบในช่วงเดียวกันกับปีงบประมาณ 2550 พบว่า มียอดการจัดเก็บที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากในปีงบประมาณ 2551 รัฐบาลมีนโยบายปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมลงทำให้รายได้การจัดเก็บลดลง ส่วนแนวโน้มของโครงการอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตนั้นพบว่ายังมีโครงการที่ยื่นขอจัดสรรอยู่ แต่ไม่หวือหวาเหมือนที่ผ่านมา เนื่องจากผู้ประกอบการรอดูสถานการณ์
นายวิโรจน์ ยังได้กล่าวถึงปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการเกี่ยวกับการให้บริการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม รวมทั้งการออกเอกสารสิทธิในที่ดินการแบ่งแยกที่ดิน ว่า ปัจจุบันปริมาณงานด้านการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมด้านออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน การแบ่งแยกที่ดิน ของสำนักงานที่ดินในเขตจังหวัดภูเก็ตขึ้นมาก ไม่สามารถสมดุลกับอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่ ทำให้ปัจจุบันมีงานค้างดำเนินการเกี่ยวกับการออกโฉนดที่ดินโดยการเดินสำรวจ และงานออกโฉนดที่ดินเฉพาะรายเป็นจำนวนมาก ประกอบกับพื้นที่ในเขตจังหวัดภูเก็ตมีทั้งป่าชายเลน ป่าไม้ถาวร ป่าสงวนแห่งชาติและแนวเขตที่สาธารณะประโยชน์ไม่ชัดเจน ทำให้ยากแก่การดำเนินการออกโฉนดที่ดิน
นายวิโรจน์ ยังได้กล่าวต่อไปถึงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินตามโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน ว่า ในงบประมาณปี พ.ศ.2546 ได้มีการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินตามโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนของรัฐบาล ระยะที่ 1 ดำเนินการรังวัดที่ดินระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2546 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2546 รังวัดได้ 940 แปลง สามารถแจกโฉนดที่ดินได้ 19 แปลง คงค้าง 927 แปลง และไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ เนื่องจากที่ดินไม่มีหลักฐานแจ้งการครอบครองและตั้งอยู่ในเขตป่า
ระยะที่ 2 ดำเนินการรังวัดที่ดินระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2547 ถึง 30 กันยายน 2547 โดยทำการรังวัดได้ 1, 886 แปลง สามารถแจกโฉนดที่ดินได้ 1,016 แปลง อยู่ระหว่างดำเนินการจำนวน 870 แปลง
นายวิโรจน์ เตชะจันตะ เจ้าพนักงานที่ดิน จ.ภูเก็ต กล่าวถึงการจัดเก็บค่าธรรมเนียมและภาษีอากร รวมทั้งการให้บริการจัดทำนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ในปีงบประมาณ 2551 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2550 - กันยายน 2551 ว่า ในส่วนของสำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ได้มีการบริการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ดังนี้ ประเภทมีทุนทรัพย์จำนวน 25,010 ราย เฉลี่ยวันละ 94 ราย ประเภทไม่มีเงินทุนทรัพย์จำนวน 25,204 ราย เฉลี่ยวันละ 95 ราย และสามารถทำการจัดเก็บรายได้ค่าธรรมเนียมและภาษีอากร รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,627,423,525.45 บาท
สำหรับรายได้ที่ทำการจัดเก็บได้ สำนักงานที่ดินจังหวัดได้นำส่งให้องค์กรปกครองท้องถิ่นรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 453,398,692 บาท ส่งให้สรรพากรพื้นที่เป็นเงิน 1169,970,815 บาท และนำส่งเป็นเงินรายได้แผ่นดินจำนวน 4054,018.45 บาท
อย่างไรก็ตาม รายได้จากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมและภาษีในปีงบประมาณ 2551 เมื่อเปรียบเทียบในช่วงเดียวกันกับปีงบประมาณ 2550 พบว่า มียอดการจัดเก็บที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากในปีงบประมาณ 2551 รัฐบาลมีนโยบายปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมลงทำให้รายได้การจัดเก็บลดลง ส่วนแนวโน้มของโครงการอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตนั้นพบว่ายังมีโครงการที่ยื่นขอจัดสรรอยู่ แต่ไม่หวือหวาเหมือนที่ผ่านมา เนื่องจากผู้ประกอบการรอดูสถานการณ์
นายวิโรจน์ ยังได้กล่าวถึงปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการเกี่ยวกับการให้บริการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม รวมทั้งการออกเอกสารสิทธิในที่ดินการแบ่งแยกที่ดิน ว่า ปัจจุบันปริมาณงานด้านการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมด้านออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน การแบ่งแยกที่ดิน ของสำนักงานที่ดินในเขตจังหวัดภูเก็ตขึ้นมาก ไม่สามารถสมดุลกับอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่ ทำให้ปัจจุบันมีงานค้างดำเนินการเกี่ยวกับการออกโฉนดที่ดินโดยการเดินสำรวจ และงานออกโฉนดที่ดินเฉพาะรายเป็นจำนวนมาก ประกอบกับพื้นที่ในเขตจังหวัดภูเก็ตมีทั้งป่าชายเลน ป่าไม้ถาวร ป่าสงวนแห่งชาติและแนวเขตที่สาธารณะประโยชน์ไม่ชัดเจน ทำให้ยากแก่การดำเนินการออกโฉนดที่ดิน
นายวิโรจน์ ยังได้กล่าวต่อไปถึงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินตามโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน ว่า ในงบประมาณปี พ.ศ.2546 ได้มีการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินตามโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนของรัฐบาล ระยะที่ 1 ดำเนินการรังวัดที่ดินระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2546 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2546 รังวัดได้ 940 แปลง สามารถแจกโฉนดที่ดินได้ 19 แปลง คงค้าง 927 แปลง และไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ เนื่องจากที่ดินไม่มีหลักฐานแจ้งการครอบครองและตั้งอยู่ในเขตป่า
ระยะที่ 2 ดำเนินการรังวัดที่ดินระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2547 ถึง 30 กันยายน 2547 โดยทำการรังวัดได้ 1, 886 แปลง สามารถแจกโฉนดที่ดินได้ 1,016 แปลง อยู่ระหว่างดำเนินการจำนวน 870 แปลง
