ภูเก็ตนำรถแบ็กโฮรื้อคันดินนายทุน-เปิดทางน้ำเข้าป่าชายเลน

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เทศบาลตำบลรัษฎา สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 23 (ภูเก็ต) พร้อมด้วยชาวบ้านชุมชนกู้กู นำรถรถแบ็คโฮรื้อคันดินในพื้นที่ป่าชายเลนเพื่อให้น้ำทะเลไหลเข้าพื้นที่ได้หลังนายทุนเข้าไปบุกรุกทำคันดินขนาดกว้างกว่า 5 เมตรในพื้นที่ป่าชายเลนนอกเอกสารสิทธิ์ครอบครองที่ดิน

วันนี้ (9 เม.ย.) นายสุรทิน เลี่ยนอุดม นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลรัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยนายยุทธศิลป์ สวรรณวงศ์ หัวหน้าสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 23 (ภูเก็ต) กำลังเจ้าหน้า รวมทั้งชาวบ้านบ้านกู้กูหมู่ที่ 3 ต.รัษฎา รวมกันนำรถแบ็กโฮ 1 คัน เข้ารื้อคันดินที่สร้างขวางการขึ้นลงของน้ำทะเล เพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้าไปในพื้นที่ป่าชายเลน เนื้อที่ประมาณ 20 ไร่เศษ ทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศป่าชายเลนและต้นโกงกางตายจำนวนมาก บริเวณบ้านกู้กูหมู่ที่ 3 ต.รัษฎา

สำหรับคันดินดังกล่าวสร้างลักษณะคล้ายถนนเข้าไปในพื้นที่ป่าชายเลนกว้างประมาณ 5 เมตร ยาวประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งเป็นการสร้างต่อออกไปจากที่ดินที่มีการอ้างเอกสารสิทธิ และ สค.1 ครอบครอง ของเจ้าของที่ดินรายหนึ่ง

นายสุรทิน กล่าวว่า การเข้าดำเนินการรื้อคันดินดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 มี.ค ที่ผ่านมา คณะทำงานตามคำสั่งจังหวัดภูเก็ตที่ 109/2551 ลงวันที่ 24 ม.ค.51 ได้ร่วมประชุมกับแกนนำนำชาวบ้านประมาณ 50 คนเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาทรัพยากรป่าชายเลนในพื้นหมู่ที่ 3 ต.รัษฎา ถูกทำลาย

รวมทั้งได้ร่วมกันตรวจสอบที่ดินป่าชายเลนที่มีการอ้างเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินเลขที่ 35691 และ สค.1 จำนวน 2 แปลงเนื้อที่ประมาณ 50 กว่าไร่ ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ที่ดิน จากสำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่ามีพื้นที่ป่าชายเลนที่อยู่นอกโฉนด และ สค.1 ถูกทำลายไปประมาณ 20 ไร่ด้วย

ทางคณะกรรมการจึงมีมติให้ อบต.รัษฎา นำเครื่องจักรเข้าไปทำการรื้อคันดินที่ปิดกั้นทางน้ำออกเพื่อเป็นการฟื้นฟูสภาพพื้นที่ป่าชายเลนทั้ง 20 ไร่ ที่ได้รับความเสียหายให้กลับมามีสภาพเหมือนเดิมต่อไป และวันนี้ (9 เม.ย.) ก็ได้นำเครื่องจักรเข้ามาทำการเปิดทางน้ำเพื่อให้น้ำไหลเข้าไปในพื้นที่ป่าชายเลนแล้ว และหลังจากนี้ก็จะมีการปลูกต้นป่าโกงกางในพื้นที่เพิ่มด้วย

ด้าน นายยุทธศิลป์ กล่าวว่า พื้นที่ป่าชายเลนดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นพื้นที่ที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเลนครองชีเหล้าและที่ผ่านมาเมื่อประมาณเดือน พ.ย.2550 ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้วที่สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ในทำผิดข้อหาทำลายแผ้วถางป่าไม้ตามมาตร 14 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติและมาตร 54 พ.ร.บ.ป่าไม้