ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติลงดูปัญหาบุกรุกที่ป่าชายเลนคลองบางชีเหล้า-ท่าจีน ในตำบลรัษฎา เตรียมเชิญหน่วยงานเกี่ยวข้องมาชี้แจงข้อมูลผู้เติม
เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันนี้ (7 ม.ค.) นายวสันต์ พานิช กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมคณะได้ลงมารับฟังปัญหากรณีการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนคลองบางชีเหล้า-ท่าจีน หมู่ที่ 3 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต หลังจากที่ชาวบ้านได้ทำการร้องเรียนว่าที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่ดินป่าสงวน แต่มีนายทุนรายหนึ่งได้ทำการออกโฉนดเนื้อที่ 21 ไร่ และอยู่ระหว่างการนำ สค.1 ไปขอออกโฉนดเพิ่มเติมอีก 20 ไร่ พร้อมกันนี้ยังได้มีการนำเครื่องจักรขนาดใหญ่เข้าไปทำการบุกรุกแผ้วถางเนื้อที่เกินกว่าที่ระบุไว้ รวมแล้วประมาณ 100 ไร่
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ชาวบ้านในพื้นที่ได้เข้าร้องเรียนกับทางจังหวัดภูเก็ต ก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งได้ข้อสรุปว่าให้สำนักงานที่ดินจังหวัดทำเรื่องคัดค้านการนำ สค.1 ไปออกโฉนด และขอให้เพิกถอนโฉนดที่มีอยู่ โดยได้ส่งเรื่องดังกล่าวไปยังกรมที่ดินเพื่อพิจารณาแล้วเมื่อกลางเดือนธันวาคม ที่ผ่านมา
นายวสันต์ ได้กล่าวภายหลังดูข้อมูลที่ได้รับจากชาวบ้าน และลงดูพื้นที่จริงแล้วว่า จะเชิญหน่วยงานเกี่ยวข้องมาชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนที่เป็นข้อสงสัย และจะขอแผนที่ทางอากาศของกรมทหาร มาพิสูนจ์ด้วยเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน ว่า
ก่อนหน้านี้ที่ดินแปลงมีการเคยใช้ประโยชน์มาก่อนหรือไม่ หรือว่าเป็นพื้นที่ป่าชายเลน ส่วนจะเป็นโฉนด หรือ สค.1 บินหรือไม่นั้นต้องดูข้อมูลเอกสารเปรียบเทียบของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องก่อน เช่น สำนักงานที่ดิน ป่าชายเลน และสำนักงานป่าไม้
ทางด้าน นายสมหมาย เจริญสุข ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า หลังจากนี้ก็ยังคงดำเนินการติดตามความคืบหน้ากับทางจังหวัด ซึ่งได้มีการยื่นเรื่องไว้ตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว รวมทั้งการติดตามผลการดำเนินคดีของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งได้มีการแจ้งความดำเนินคดีไว้เช่นกัน แต่ปัจจุบันได้มีการเรียกชาวบ้านไปสอบปากคำเพียง 1 ปากเท่านั้น
เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันนี้ (7 ม.ค.) นายวสันต์ พานิช กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมคณะได้ลงมารับฟังปัญหากรณีการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนคลองบางชีเหล้า-ท่าจีน หมู่ที่ 3 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต หลังจากที่ชาวบ้านได้ทำการร้องเรียนว่าที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่ดินป่าสงวน แต่มีนายทุนรายหนึ่งได้ทำการออกโฉนดเนื้อที่ 21 ไร่ และอยู่ระหว่างการนำ สค.1 ไปขอออกโฉนดเพิ่มเติมอีก 20 ไร่ พร้อมกันนี้ยังได้มีการนำเครื่องจักรขนาดใหญ่เข้าไปทำการบุกรุกแผ้วถางเนื้อที่เกินกว่าที่ระบุไว้ รวมแล้วประมาณ 100 ไร่
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ชาวบ้านในพื้นที่ได้เข้าร้องเรียนกับทางจังหวัดภูเก็ต ก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งได้ข้อสรุปว่าให้สำนักงานที่ดินจังหวัดทำเรื่องคัดค้านการนำ สค.1 ไปออกโฉนด และขอให้เพิกถอนโฉนดที่มีอยู่ โดยได้ส่งเรื่องดังกล่าวไปยังกรมที่ดินเพื่อพิจารณาแล้วเมื่อกลางเดือนธันวาคม ที่ผ่านมา
นายวสันต์ ได้กล่าวภายหลังดูข้อมูลที่ได้รับจากชาวบ้าน และลงดูพื้นที่จริงแล้วว่า จะเชิญหน่วยงานเกี่ยวข้องมาชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนที่เป็นข้อสงสัย และจะขอแผนที่ทางอากาศของกรมทหาร มาพิสูนจ์ด้วยเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน ว่า
ก่อนหน้านี้ที่ดินแปลงมีการเคยใช้ประโยชน์มาก่อนหรือไม่ หรือว่าเป็นพื้นที่ป่าชายเลน ส่วนจะเป็นโฉนด หรือ สค.1 บินหรือไม่นั้นต้องดูข้อมูลเอกสารเปรียบเทียบของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องก่อน เช่น สำนักงานที่ดิน ป่าชายเลน และสำนักงานป่าไม้
ทางด้าน นายสมหมาย เจริญสุข ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า หลังจากนี้ก็ยังคงดำเนินการติดตามความคืบหน้ากับทางจังหวัด ซึ่งได้มีการยื่นเรื่องไว้ตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว รวมทั้งการติดตามผลการดำเนินคดีของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งได้มีการแจ้งความดำเนินคดีไว้เช่นกัน แต่ปัจจุบันได้มีการเรียกชาวบ้านไปสอบปากคำเพียง 1 ปากเท่านั้น
