อุบลราชธานี - ธิบดีกรมที่ดินจี้ จนท.ที่ดินจังหวัดเร่งออกเอกสารใช้ถือครองที่ดินค้างเก่าและใหม่ให้หมดภายในปีนี้ เพื่อให้ประชาชนนำเอกสารไปใช้ประโยชน์และปรับภาพลักษณ์การทำงานของที่ดิน พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่ถือเอกสารแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน หรือ สค.1 รีบเปลี่ยนเป็นโฉนด ก่อนกฎหมายที่ดินฉบับใหม่บังคับใช้ในเดือน ก.พ.2553 เพราะจะทำให้ประชาชนยุ่งยากและเสียค่าใช้จ่ายดำเนินการเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 มี.ค.) นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ อธิบดีกรมที่ดิน ได้มาเร่งรัดเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดอุบลราชธานี ให้สำรวจรังวัดออกโฉนดที่ดินค้างเก่าของจังหวัดกว่า 7,000 แปลง ให้กับประชาชนทั้งหมดภายในปีนี้ เพื่อให้ประชาชนมีเอกสารใช้ทำประโยชน์ตามความต้องการ และเป็นการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณะของสำนักงานที่ดินในสายตาประชาชนให้ดีขึ้น
สำหรับการรังวัดออกโฉนดที่ดินทั้งประเทศ ปัจจุบันมีที่ดินขอออกโฉนดใหม่จำนวน 2 แสนแปลง และเป็นที่ดินค้างเก่าจากปีที่แล้วอีก 1 แสนแปลง ซึ่งกรมที่ดินจะดำเนินการออกโฉนดที่ดินค่างเก่า รวมทั้งการออกโฉนดใหม่ให้ได้กว่า 2 แสนแปลงในปีนี้
อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวต่อว่า สำหรับความล่าช้าการออกโฉนด เพราะหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในการออกเอกสารกับกรมที่ดินทำงานล่าช้า ซึ่งกรมที่ดินได้ประสานขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่จากต่างหน่วยงานเร่งทำงานให้เร็วขึ้น เพราะขณะนี้กรมที่ดินมีนโยบายให้ประชาชนที่ถือเอกสารแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน หรือ สค.1 ยื่นเรื่องตรวจสอบรังวัดแนวเขตที่ดิน เพื่อออกโฉนดก่อนเดือนกุมภาพันธ์ 2553 เพราะหลังจากนั้นจะมีการบังคับใช้กฎหมายการถือครองที่ดินฉบับใหม่ หากประชาชนต้องการเปลี่ยนเอกสารการถือครองที่ดินแบบ สค.1 ต้องยื่นฟ้องต่อศาล เพื่อให้ศาลเป็นผู้สั่งให้มีการตรวจสอบแนวเขตที่ดินก่อนออกเป็นโฉนด จะทำให้ประชาชนยุ่งยากในขั้นตอนการขอออกโฉนดที่ดิน รวมทั้งต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าปกติหลายเท่าตัว
จึงขอฝากเตือนประชาชนที่ถือครองเอกสารแจ้งการครอบครองที่ดิน หรือ สค.1 รีบมายื่นเรื่องขอออกโฉนดที่ดินก่อนกฏหมายฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ในปี 2553
สำหรับจังหวัดอุบลราชธานี มีประชาชนถือครองแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน หรือ สค.1 มากกว่า 30,000 แปลงด้วย