xs
xsm
sm
md
lg

สจ.สงขลาอุ้มผู้ต้องหาฆ่านักข่าว ‘มติชน’ มอบตัว - เผยเรียกชื่อก่อนลั่นไกปลิดชีพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครศรีธรรมราช – ส.อบจ.คนดัง เขตอำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา อุ้มผู้ต้องหามือฆ่านักข่าวมติชนนครศรีธรรมราช เข้ามอบตัวกับผู้ว่าราชการจังหวัด ตำรวจเผยข้อมูลสอบพบเป็นคนลงมือสังหารเรียกชื่อก่อนลั่นไกปลิดชีพในครัว ขณะที่ กมธ.ตำรวจลงพื้นที่ปิดห้องสอบเหตุค้นปืนบ้านนายก อบจ.-ผู้กว้างขวางอีกเพียบ เรียกนายก อบจ.สอบ-ผบก.ภ.นครศรี-นายตำรวจใหญ่แจงข้อมูลลับ “เฉลิมชัย” ประธาน กมธ.งง-ส.ส.ปชป.นครศรีฯ ทุกคนเมินร่วมหลังส่งกลิ่นลาก กมธ.เป็นเครื่องมือ

จากกรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวนได้บุกเข้าไปก่อเหตุสังหารนายอธิวัฒน์ ไชยนุรัตน์ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์มติชน ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช เสียชีวิตในครัวของบ้านเลขที่ 25 ม.1 ต.ไชยมนตรี อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ขณะที่กำลังทำกับข้าวให้บุตรชายและบุตรสาว เมื่อวันที่ 1 ส.ค.2551 โดยตำรวจได้สืบสวนสอบสวนพบว่านายอธิวัฒน์ได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับการทุกจริตในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเกี่ยวกับการเลือกตั้งอย่างหนักหน่วงจนสร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดังกล่าวอย่างรุนแรง และนำไปสู่การลอบสังหารนายอธิวัฒน์ในที่สุด

ต่อมาได้มีการสอบสวนจนสามารถนำเสนอศาลในการขอหมายจับผู้ต้องหาได้จำนวน 2 รายคือ 1.หมายจับที่ 312/2551 ลงวันที่ 28 ส.ค.2551 ให้จับกุมนายศักดิ์ชาย หรือชาย หรือบังโกบ อับดุลอารีย์ อายุ 32 ปี บ้านอยู่ ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช และ 2.หมายจับที่ 313/2551 ลงวันที่ 28 ส.ค.2551 ให้จับกุมนายลำดวน หรือกบ แก้วสีสด อายุ 25 ปี บ้านอยู่ต.บ้านลำนาว อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งไม่กี่วันที่ผ่านมาผู้ต้องหารายที่ 2 คือนายลำดวนได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วพร้อมทั้งให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และไม่ขอประกันตัวเนื่องจากเกรงความไม่ปลอดภัย

ความคืบหน้าวันนี้ (31 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศักดิ์ชาย หรือชาย หรือบังโกบ อับดุลอารีย์ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาในคดีนี้ได้เข้ามอบตัวต่อนายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ห้องประชุมชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยผู้ที่นำตัวนายศักดิ์ชาย เข้ามอบตัวกับนายภาณุ คือ ส.อบจ.คนหนึ่งใน จ.สงขลา ซึ่งเป็นผู้กว้างขวางในแถบลุ่มทะเลสาบสงขลา เป็นที่รู้จักกันดีของ ตร.บช.ภ.9 ซึ่งเป็นไปตามการสืบสวนก่อนหน้านี้ที่พบข้อมูลว่านายศักดิ์ชาย ได้หลบหนีไปซ่อนตัวกับผู้กว้างขวางรายหนึ่งใน อ.สทิงพระ จ.สงขลา

เบื้องต้นนั้น พ.ต.อ.ภูดิส นรสิงห์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนายตำรวจระดับสูงที่เกี่ยวข้องได้ทำบันทึกการรับมอบตัวโดยเป็นที่น่าสังเกตว่านายศักดิ์ชายมีสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา โดยมีทนายความที่นำมาด้วยประกบตัวอยู่ตลอด และออกอาการตื่นเต้นเมื่อมีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมทั้ง ข้าราชการฝ่ายปกครอง ที่เกี่ยวข้องกับการรับมอบตัว ส่วน ส.อบจ.สงขลา ที่พานายศักดิ์ชายมามอบตัวได้ยืนสังเกตการณ์อยู่ภายนอกห้องประชุมอยู่ตลอดเวลา และมีคนสนิทของผู้บริหารท้องถิ่นรายหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช ที่ถูกเชื่อมโยงว่าอยู่เบื้องหลังสังเกตการณ์การทำข่าวของผู้สื่อข่าวรวมทั้งสังเกตความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา

พ.ต.อ.ภูดิส นรสิงห์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า จากการสอบสวนพยานและรวบรวมหลักฐานและนำไปสู่การออกหมายจับนั้นพบว่านายศักดิ์ชายมีหน้าที่ในการลั่นไกสังหารนายอธิวัฒน์ ซึ่งมีการยืนยันว่านายศักดิ์ชายซึ่งรู้จักกับนายอธิวัฒน์มาก่อนได้เข้าไปที่ห้องครัวในขณะที่นายอธิวัฒน์หันหลังให้แล้วเรียกชื่อเล่น

จากนั้นเมื่อนายอธิวัฒน์หันกลับมา นายศักดิ์ชายจึงใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิตแล้วพากันหลบหนีไป ในส่วนนี้มีทั้งพยานเห็นนายศักดิ์ชายทั้งก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ ยืนยันชัดเจนจึงเป็นที่มาของการออกหมายจับ อย่างไรก็ตาม แม้ว่านายศักดิ์ชายจะปฏิเสธในชั้นนี้เป็นสิทธิที่สามารถให้การได้ คดีนี้มีหลักทรัพย์ที่ต้องประกันตัวอย่างน้อย 5 แสนบาท และในชั้นสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่ให้ประกันตัวเมื่อสอบปากคำชั้นนี้แล้วจะส่งฝากขังยังศาลทันที หากผู้ต้องหาจะประกันตัวให้ไปประกันตัวในชั้นศาลเอง ส่วนตำรวจนั้นจะคัดค้านการประกันตัวด้วย ที่เหลือเป็นดุลพินิจของศาล

โดยในเวลาเดียวกันที่ห้องประชุมชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน สส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายสมชาย โล่ถาพรพิพิธ รองประธานคณะกรรมาธิการ พร้อมด้วยคณะกรรมาธิการรวม 15 คน ได้เดินทางเข้ารับฟังและตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีตำรวจได้ใช้อำนาจในการเข้าตรวจค้นบ้านพักของนายวิฑูรย์ เดชเดโช นายก อบจ.นครศรีธรรมราช เมื่อหลายวันก่อน และยึดอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนซึ่งกฎหมายอนุญาตให้มีไว้ในครอบครอง

ทั้งนี้ การเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวนั้นนายวิฑูรย์ ได้ทำเรื่องในนามนายก อบจ.ร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการในทำนองว่าการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่รวมทั้งการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนนั้นมีการจัดฉากของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำเสื่อมเสียเกียรติภูมิ รวมทั้งยืนยันในการประพฤติปฏิบัติของตัวเองอย่างซื้อสัตย์สุจริตตลอดมา ซึ่งการร้องเรียนนั้นเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่เหมาะสมและถือเป็นการกอบกู้ภาพลักษณ์ของนครศรีธรรมราชและของสุจริตชน

ในการเข้ารับฟังนั้น นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ประธานกรรมาธิการ ได้เชิญ ส.ส.นครศรีธรรมราชทั้ง 10 คนจาก 4 เขตเลือกตั้ง แต่ปรากฎว่าไม่มี ส.ส.นครศรีธรรมราช คนใดเข้าร่วมรับฟังเลย ซึ่งได้สร้างความแปลกใจให้กับกรรมาธิการเป็นอย่างมาก และรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล ในการชี้แจงนั้น ปรากกฎว่า นายวิฑูรย์ เดชเดโช นายก อบจ.นครศรีธรรมราช เข้าให้ข้อมูลเป็นฝ่ายแรก

ต่อ พล.ต.ต.สราวุธ พีรานนท์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้เข้าชี้แจงถึงกระบวนการในการตรวจค้นทั้งหมด ซึ่งไม่ได้ค้น เฉพาะบ้านของวิฑูรย์แต่ค้นพร้อมกันถึง 9 จุดที่มีความเชื่อมโยงกันในทางการสืบสวนละเป็นการค้นโดยหมายค้นจากศาล และสามารถตรวจยึดอาวุธปืนได้ราว 30 กระบอกจากทั้ง 9 จุด และมีการเปิดข้อมูลลับในเชิงลึกบางอย่างให้กรรมาธิการรับฟัง โดยไม่เปิดโอกาสให้สื่อมวลเข้ารับฟังในช่วงการชี้แจง

สำหรับการลงพื้นที่ของคณะกรรมาธิการ ซึ่งประธานกรรมาธิการเป็น ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ เช่นกันนั้นก่อนที่จะมีการลงพื้นที่ ผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์รายหนึ่งได้เรียกนายเฉลิมชัยเข้าพบ และระบุว่าการที่จะทำอะไรนั้นต้องคิดก่อนทำ การที่เจ้าหน้าที่ตรวจค้นนั้นบ้านของใครก็ตามหรือจะเป็นคนของใครก็ตาม เพื่อการตรวจสอบความถูกต้องย่อมสามารถทำได้ เพื่อการตรวจสอบบุคคลนั้น

หลังจากนั้น นายเฉลิมชัยได้หาข้อมูลในเชิงลึกจนพบข้อเท็จจริงบางอย่าง แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงกำหนดการในการเดินทางลงพื้นที่ได้ และเมื่อมาถึงพื้นที่ปรากฏว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ทั้งหมด 10 คนในนครศรีธรรมราช ไม่เข้าร่วมการรับฟังข้อมูลครั้งนี้ทุกคน ซึ่งกรรมาธิการบางคนถึงกับเปรยว่า กรรมาธิการกำลังถูกดึงเข้ามาเป็นเครื่องมือของคนบางคน เพื่อข่มขู่และกดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอดคล้องกับการตักเตือนให้ระมัดระวังการทำงานจากผู้ใหญ่ที่ทุกคนให้ความเคารพในพรรคประชาธิปัตย์ที่ตักเตือนให้ระมัดระวังในการทำงานอย่าให้ใครลากไปเป็นเครื่องมือได้


กำลังโหลดความคิดเห็น