กระบี่ - ภาคเอกชนกระบี่ ชี้ นโยบายรัฐบาลไม่ชอบธรรม ในการนำมาบริหารประเทศ เหตุการณ์กระทำไม่ตรงกับนโยบาย พร้อมจี้รัฐบาลรับผิดชอบเหตุการณ์นองเลือด ทำให้พันธมิตรฯเจ็บ-ตาย
นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ประธานหอการค้าจังหวัดกระบี่ กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551 รัฐบาลภายใต้การนำของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ที่มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทำให้เกิดการนองเลือดอีกทั้งมีผู้บาดเจ็บนับ 100 ราย และมีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณหน้ารัฐสภา ทั้งที่ผู้ที่ชุมนุมซึ่งเป็นพันธมิตรฯทำการประท้วงแบนสันติวิธี โดยไม่อาวุธที่จะไปต่อสู้กับตำรวจ
นายวัฒนา ได้กล่าวด้วยว่า การเข้าสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อที่จะให้ ส.ส.และส.ว.ได้เข้าไปประชุมในสภาเพื่อแถลงนโยบายเท่านั้น ด้วยวิธีการยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มผู้ประท้วง ซึ่งมันก็มีความจำเป็นแต่ว่าการสลายการชุมนุม จนทำให้มีผู้บาดเจ็บถึงขั้นบาดเจ็บและเสียชีวิตนั้น เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง อย่างน้อยรัฐบาลก็น่าจะเลือกหนทางที่จะทำให้ความสูญเสียนั้นน้อยลง หรือไม่ให้เกิดความสูญเสียเลยก็ทำได้
ทั้งนี้ เพราะจากการที่รัฐบาลไปแถลงนโยบายในรัฐสภา แต่ในขณะเดียวกันภายนอกรัฐสภาเกิดการนองเลือดและมีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้น ความสง่างามของรัฐบาลโดย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี มีความเหมาะแค่ไหน ซึ่งเท่ากับว่า รัฐบาลขาดความชอบธรรมจากการใช้กำลังเกิดเหตุ เพราะว่าผู้ชุมนุมมาชุมนุมด้วยสันติวิธี แต่ตนไม่ได้หมายความว่า จะเข้าข้างพันธมิตรฯ หรือฝ่ายรัฐบาล แต่พูดในเรื่องของความจริงที่เกิดขึ้น ถึงแม้ว่าการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯบางครั้งก็รุนแรงแต่นั้นก็มีปัจจัยร่วม
แต่รัฐบาลซึ่งบริหารประเทศ และถือกฎหมายอยู่ในมือทำเกินความจำเป็น ซึ่งมันเป็นภาพลบของรัฐบาลที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน ทำให้เกิดความสูญเสียกับภาคประชาชน รัฐบาลจะบอกว่าทำถูกต้องแล้วก็ฟังไม่ขึ้น สุดท้ายแล้วรัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันนี้รัฐบาลต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชนที่สูญเสียอวัยวะ และทุพพลภาพ สูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ที่ได้บาดเจ็บและเสียชีวิต น่าจะมีผู้ออกแสดงความรับผิดชอบ ซึ่งยังไม่เห็นฝ่ายรัฐบาลหรือผู้มีอำนาจออกมาแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด
ประธานหอการค้าจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า จากการแถลงนโนยายของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ที่แถลงออกมาต่อสภาเมื่อวานนี้ไม่มีใครไปดูลายละเอียดของเนื้อหานโยบายที่รัฐบาลแถลงออกมา เพราะเป็นเรื่องเล็กน้อย เมื่อเทียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับกลุ่มพันธมิตรที่ล้มตายและบาดเจ็บอยู่ที่หน้ารัฐสภา และมีบางนโยบายรัฐบาล ได้แถลงว่าจะใช้สันติวิธีในการแก้ไขปัญหาเพื่อลดความขัดแย้ง
“ท่านพูดอยู่ในสภาแต่พฤติกรรมตรงกันข้ามกับภายนอกรัฐสภา ที่มีการยิ่งแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลพูดไม่ตรงกับการปฏิบัติ ฉะนั้น คิดว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่มีความชอบธรรมในการที่นายกเข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน เนื่องจากเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินบนความสูญเสียและนองเลือดของประชาชน”
ประธานหอฯกระบี่ กล่าวอีกว่า นโยบายที่รัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา ไม่อาจจะลงละเอียดได้ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แต่ในเบื้องต้นความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ซึ่งรัฐบาลบอกว่าจะใช้หลักประนีประนอม หรือใช้สันติวิธีในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ซึ่งตรงนี้ไม่ตรงกับสิ่งที่นายกฯพูดออกไป และไม่ตรงกับนโยบายที่ท่านแถลงนโยบายเอาไว้เสียแล้ว
ส่วนนโยบายอื่นนั้น ก็ไม่น่าจะปฏิบัติได้อย่างชอบธรรม ในเมื่อท่านพยายามสร้างความชอบธรรมของรัฐสภาประกาศความชอบธรรม ในการบริหารราชการแผ่นดิน ในขณะที่เกิดความสูญเสียนอกรัฐสภาไม่น่าจะมีความถูกต้องและชอบธรรม ในการแถลงนโยบายในครั้งนี้
นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ประธานหอการค้าจังหวัดกระบี่ กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551 รัฐบาลภายใต้การนำของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ที่มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทำให้เกิดการนองเลือดอีกทั้งมีผู้บาดเจ็บนับ 100 ราย และมีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณหน้ารัฐสภา ทั้งที่ผู้ที่ชุมนุมซึ่งเป็นพันธมิตรฯทำการประท้วงแบนสันติวิธี โดยไม่อาวุธที่จะไปต่อสู้กับตำรวจ
นายวัฒนา ได้กล่าวด้วยว่า การเข้าสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อที่จะให้ ส.ส.และส.ว.ได้เข้าไปประชุมในสภาเพื่อแถลงนโยบายเท่านั้น ด้วยวิธีการยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มผู้ประท้วง ซึ่งมันก็มีความจำเป็นแต่ว่าการสลายการชุมนุม จนทำให้มีผู้บาดเจ็บถึงขั้นบาดเจ็บและเสียชีวิตนั้น เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง อย่างน้อยรัฐบาลก็น่าจะเลือกหนทางที่จะทำให้ความสูญเสียนั้นน้อยลง หรือไม่ให้เกิดความสูญเสียเลยก็ทำได้
ทั้งนี้ เพราะจากการที่รัฐบาลไปแถลงนโยบายในรัฐสภา แต่ในขณะเดียวกันภายนอกรัฐสภาเกิดการนองเลือดและมีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้น ความสง่างามของรัฐบาลโดย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี มีความเหมาะแค่ไหน ซึ่งเท่ากับว่า รัฐบาลขาดความชอบธรรมจากการใช้กำลังเกิดเหตุ เพราะว่าผู้ชุมนุมมาชุมนุมด้วยสันติวิธี แต่ตนไม่ได้หมายความว่า จะเข้าข้างพันธมิตรฯ หรือฝ่ายรัฐบาล แต่พูดในเรื่องของความจริงที่เกิดขึ้น ถึงแม้ว่าการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯบางครั้งก็รุนแรงแต่นั้นก็มีปัจจัยร่วม
แต่รัฐบาลซึ่งบริหารประเทศ และถือกฎหมายอยู่ในมือทำเกินความจำเป็น ซึ่งมันเป็นภาพลบของรัฐบาลที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน ทำให้เกิดความสูญเสียกับภาคประชาชน รัฐบาลจะบอกว่าทำถูกต้องแล้วก็ฟังไม่ขึ้น สุดท้ายแล้วรัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันนี้รัฐบาลต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชนที่สูญเสียอวัยวะ และทุพพลภาพ สูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ที่ได้บาดเจ็บและเสียชีวิต น่าจะมีผู้ออกแสดงความรับผิดชอบ ซึ่งยังไม่เห็นฝ่ายรัฐบาลหรือผู้มีอำนาจออกมาแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด
ประธานหอการค้าจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า จากการแถลงนโนยายของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ที่แถลงออกมาต่อสภาเมื่อวานนี้ไม่มีใครไปดูลายละเอียดของเนื้อหานโยบายที่รัฐบาลแถลงออกมา เพราะเป็นเรื่องเล็กน้อย เมื่อเทียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับกลุ่มพันธมิตรที่ล้มตายและบาดเจ็บอยู่ที่หน้ารัฐสภา และมีบางนโยบายรัฐบาล ได้แถลงว่าจะใช้สันติวิธีในการแก้ไขปัญหาเพื่อลดความขัดแย้ง
“ท่านพูดอยู่ในสภาแต่พฤติกรรมตรงกันข้ามกับภายนอกรัฐสภา ที่มีการยิ่งแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลพูดไม่ตรงกับการปฏิบัติ ฉะนั้น คิดว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่มีความชอบธรรมในการที่นายกเข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน เนื่องจากเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินบนความสูญเสียและนองเลือดของประชาชน”
ประธานหอฯกระบี่ กล่าวอีกว่า นโยบายที่รัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา ไม่อาจจะลงละเอียดได้ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แต่ในเบื้องต้นความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ซึ่งรัฐบาลบอกว่าจะใช้หลักประนีประนอม หรือใช้สันติวิธีในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ซึ่งตรงนี้ไม่ตรงกับสิ่งที่นายกฯพูดออกไป และไม่ตรงกับนโยบายที่ท่านแถลงนโยบายเอาไว้เสียแล้ว
ส่วนนโยบายอื่นนั้น ก็ไม่น่าจะปฏิบัติได้อย่างชอบธรรม ในเมื่อท่านพยายามสร้างความชอบธรรมของรัฐสภาประกาศความชอบธรรม ในการบริหารราชการแผ่นดิน ในขณะที่เกิดความสูญเสียนอกรัฐสภาไม่น่าจะมีความถูกต้องและชอบธรรม ในการแถลงนโยบายในครั้งนี้
