เชียงราย- ประธานชมรม กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน 17 จังหวัดภาคเหนือ และประธานชมรม กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน จ.เชียงราย ชี้ รัฐบาลสั่งตำรวจยิงแก๊สน้ำตา สลายม็อบพันธมิตรฯจนมีผู้บาดเจ็บถึงขั้นขาขาดและเสียชีวิตนั้น ถือเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรง รุนแรงสะเทือนใจคนไทยทั้งประเทศอย่างมาก อยากให้ไตร่ตรองใช้สันติวิธีมาเจรจา ยอมลดฐิติถอดหัวโขนเข้าคุยกัน เชื่อว่าประเทศไทย ยังมีทางรอดได้
นายอินหวัน บั้งเงิน ประธานชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน 17 จังหวัดภาคเหนือ และประธานชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน จ.เชียงราย เปิดเผยถึงกรณีรัฐบาลสั่งใช้กำลังตำรวจยิงแก๊สน้ำตา สลายม็อบพันธมิตรฯจนมีผู้ชุมุนมบาดเจ็บถึงขั้นขาขาดและเสียชีวิตนั้น ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรง รุนแรงสะเทือนใจคนไทยทั้งประเทศอย่างมาก ซึ่งตนในฐานะประธานชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่ ดูแล้วรับไม่ได้ ไม่คิดว่าประเทศไทยจะต้องมาประสบเหตุการณ์เช่นนี้อีกครั้ง
จากการติดตามสถานการณ์ผ่านสื่อมวลชน พบว่า เจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ ใช้กำลังเกินไป ลักษณะการยิงแก๊สน้ำตา ก็เป็นการยิงใส่ผู้ชุมนุมไม่ได้ยิงใส่ถนน เหตุการณ์นี้ควรจะต้องมีผู้ออกมาแสดงความรับผิดชอบโดยเร็วที่สุด เพราะภาพที่ออกไปทั้งผู้ชุมนุมที่ขาขาด หรือผู้เสียชีวิต ที่ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นใดๆ ที่มีการแพร่ภาพออกไปทั่วโลก ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยเสียหายไปหมดแล้ว ผลกระทบไม่ได้มีอยู่แค่ส่วนกลาง แต่ลามมายังภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทยด้วย
“การจะใช้มาตรการสลายม็อบตามประเทศทั่วโลก มีการแจ้งล่วงหน้า ทำกันเป็นระบบ ให้เกิดการเจรจากันก่อน หากไม่ได้ผลก็ค่อยปฏิบัติการจริง แต่การสลายม็อบด้วยแก๊สน้ำตา 2-3 ครั้งนี้ แม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้รับบาดเจ็บก็ตาม แต่ต้องมองให้ถี่ถ้วนว่าฝ่ายประชาชนผู้ชุมนุม มาชุมุนมด้วยมือเปล่าปราศจากอาวุธ การแทรกแซงของกลุ่มมือที่สาม อาจเป็นไปได้ ที่จะนำอาวุธประเภทเครื่องยิงลูกระเบิด เข้ามาปลอมปนยิงใส่ผู้ชุมนุมจนมีผู้ขาขาด ซึ่งแม้ตำรวจจะมาชี้แจงว่าแก๊สน้ำตาไม่มีความแรง ขนาดทำให้ขาขาดได้ก็ตาม แต่ก็ยังมีข้อเคลือบแคลงจากหลายฝ่ายอยู่”" นายอินหวัน กล่าว
นายอินหวัน กล่าวด้วยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด มองในฐานะผู้นำท้องถิ่นภาคเหนือ เห็นแล้วสงสารทั้ง 2 ฝ่ายเป็นอย่างยิ่ง ไม่อยากให้คนไทยรบกันเอง ฆ่าฟันกันเอง อยากให้แต่ละฝ่ายถอยกันคนละก้าว โดยเฉพาะฝ่ายรัฐบาล ที่มีอำนาจการสั่งการในมือ อยากให้ไตร่ตรองในทุกคำสั่งให้มากกว่านี้ อย่ามองชีวิตผู้ชุมนุมคือผักปลา แต่เป็นมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อเหมือนกัน มีบาดเจ็บล้มตายเหมือนกัน ใช้สันติวิธีมาเจรจา ยอมลดฐิติถอดหัวโขนเข้าคุยกัน เชื่อว่า ประเทศไทยยังมีทางรอดได้
นายอินหวัน บั้งเงิน ประธานชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน 17 จังหวัดภาคเหนือ และประธานชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน จ.เชียงราย เปิดเผยถึงกรณีรัฐบาลสั่งใช้กำลังตำรวจยิงแก๊สน้ำตา สลายม็อบพันธมิตรฯจนมีผู้ชุมุนมบาดเจ็บถึงขั้นขาขาดและเสียชีวิตนั้น ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรง รุนแรงสะเทือนใจคนไทยทั้งประเทศอย่างมาก ซึ่งตนในฐานะประธานชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่ ดูแล้วรับไม่ได้ ไม่คิดว่าประเทศไทยจะต้องมาประสบเหตุการณ์เช่นนี้อีกครั้ง
จากการติดตามสถานการณ์ผ่านสื่อมวลชน พบว่า เจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ ใช้กำลังเกินไป ลักษณะการยิงแก๊สน้ำตา ก็เป็นการยิงใส่ผู้ชุมนุมไม่ได้ยิงใส่ถนน เหตุการณ์นี้ควรจะต้องมีผู้ออกมาแสดงความรับผิดชอบโดยเร็วที่สุด เพราะภาพที่ออกไปทั้งผู้ชุมนุมที่ขาขาด หรือผู้เสียชีวิต ที่ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นใดๆ ที่มีการแพร่ภาพออกไปทั่วโลก ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยเสียหายไปหมดแล้ว ผลกระทบไม่ได้มีอยู่แค่ส่วนกลาง แต่ลามมายังภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทยด้วย
“การจะใช้มาตรการสลายม็อบตามประเทศทั่วโลก มีการแจ้งล่วงหน้า ทำกันเป็นระบบ ให้เกิดการเจรจากันก่อน หากไม่ได้ผลก็ค่อยปฏิบัติการจริง แต่การสลายม็อบด้วยแก๊สน้ำตา 2-3 ครั้งนี้ แม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้รับบาดเจ็บก็ตาม แต่ต้องมองให้ถี่ถ้วนว่าฝ่ายประชาชนผู้ชุมนุม มาชุมุนมด้วยมือเปล่าปราศจากอาวุธ การแทรกแซงของกลุ่มมือที่สาม อาจเป็นไปได้ ที่จะนำอาวุธประเภทเครื่องยิงลูกระเบิด เข้ามาปลอมปนยิงใส่ผู้ชุมนุมจนมีผู้ขาขาด ซึ่งแม้ตำรวจจะมาชี้แจงว่าแก๊สน้ำตาไม่มีความแรง ขนาดทำให้ขาขาดได้ก็ตาม แต่ก็ยังมีข้อเคลือบแคลงจากหลายฝ่ายอยู่”" นายอินหวัน กล่าว
นายอินหวัน กล่าวด้วยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด มองในฐานะผู้นำท้องถิ่นภาคเหนือ เห็นแล้วสงสารทั้ง 2 ฝ่ายเป็นอย่างยิ่ง ไม่อยากให้คนไทยรบกันเอง ฆ่าฟันกันเอง อยากให้แต่ละฝ่ายถอยกันคนละก้าว โดยเฉพาะฝ่ายรัฐบาล ที่มีอำนาจการสั่งการในมือ อยากให้ไตร่ตรองในทุกคำสั่งให้มากกว่านี้ อย่ามองชีวิตผู้ชุมนุมคือผักปลา แต่เป็นมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อเหมือนกัน มีบาดเจ็บล้มตายเหมือนกัน ใช้สันติวิธีมาเจรจา ยอมลดฐิติถอดหัวโขนเข้าคุยกัน เชื่อว่า ประเทศไทยยังมีทางรอดได้