แพทย์เชี่ยวชาญเวชกรรมป้องกัน ชี้ยิงแก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมเป็นการยิงตรงตัวบุคคล ไม่ใช่การยิงในรัศมีห่างไกล หากโดนชิ้นส่วนของแก๊สน้ำตาจังๆ ได้รับบาดเจ็บได้ หากสูดแก๊สมากปอดอักเสบรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต แต่ไม่ทำให้ขาขาด ห่วงผู้ชุมนุมไม่หลบหนีเพราะไม่รู้แก๊สน้ำตารุนแรงอย่างไร
นพ.ชัยยศ คุณานุสนธิ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสลายการชุมนุมโดยการยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่บริเวณรัฐสภาว่า แก๊สน้ำตามีผลทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังไม่สามารถทำให้ขาขาดได้ หากได้รับปริมาณแก๊สน้ำตามากก็ทำให้เกิดปอดอักเสบรุนแรงและเสียชีวิตได้ในที่สุด อย่างไรก็ตาม ควรมีการสอบถามไปยังผู้บาดเจ็บอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
ทั้งนี้ จากการสังเกตการณ์การสลายการชุมนุมทางโทรทัศน์ พบว่า ในการยิงแก๊สน้ำตาเพื่อให้เกิดกลุ่มควันสลายการชุมนุมในครั้งนี้ เป็นการยิงตรงตัวบุคคล ไม่ใช่ยิงในรัศมีที่ห่างไกลออกไปเหมือนทุกครั้ง และไม่มีรายงานยืนยันอย่างชัดเจนถึงผลกระทบหากได้รับแก๊สน้ำตาอย่างรุนแรงจะเกิดผลอย่างไรบ้าง ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมเอง คงไม่ทราบว่าเช่นกันว่า แก๊สน้ำตามีความรุนแรงมากน้อยอย่าไร จึงไม่ได้มีการหลบหนี ซึ่งในจุดนี้น่าเป็นห่วงอย่างมาก
“การยิงแก๊สน้ำตาครั้งนี้ก็เหมือนกับการใช้มีดปอกผลไม้ โดยปกติมีดไม่สามารถทำให้ร่างกายได้รับบาดเจ็บรุนแรง หรือชีวิตได้ หากไม่ได้นำมีดดังกล่าวมาถูกกับร่างกาย ฉะนั้นการใช้แก๊สน้ำตาครั้งนี้จึงเป็นเรื่องน่าเป็นห่วง ผู้ยิงจะต้องตระหนักมีความระวัง และดูทิศทางของลมด้วย เพราะแม้แต่การใช้น้ำฉีดสลายการชุมนุม แรงอัดของน้ำก็มีความรุนแรง” นพ.ชัยยศกล่าว
นพ.ชัยยศ กล่าวอีกว่า ผลโดยตรงจากแก๊สน้ำตา จะมีอาการแสบร้อน ปวดที่ตา ปาก จมูก และทางเดินหายใจ น้ำตาไหลพราก ตามองไม่เห็น น้ำมูก น้ำลายไหล ไอ หายใจลำบาก ซึ่งจะหายไปภายในไม่ถึง 1 ชั่วโมง ยกเว้นกรณีสัมผัสมากๆ เช่น หากหายใจเข้าไป อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ และระยะยาว ส่งผลต่อตับ ส่วนอันตรายจากชิ้นส่วนของแก๊สน้ำตา เมื่อกระป๋องแตกออกมาแม้แรงอัดไม่มากนัก แต่ก็ทำให้เกิดบาดเจ็บได้เมื่อระเบิดใกล้ตัว
ตรวจสอบรายชื่อผู้บาดเจ็บ - เสียชีวิต จากเหตุตำรวจชั่วไล่ฆ่าประชาชน ที่นี่!!!