นครศรีธรรมราช - ประชาธิปัตย์หยาม “สมชาย” ตีสองหน้าไล่จับแกนนำพันธมิตรฯ ยิ่งกระตุ้นให้เกิดความรุนแรงโดยไม่จำเป็น สะท้อนรัฐบาลแตกยับ เผย “สมชาย-ปู่ชัย” งัดข้อชัดหลังแนวตั้ง ส.ส.ร.3 “ชัย” บรรจุร่าง “หมอเหวง” เข้าสภา
วันนี้ (5 ต.ค.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการจับกุม พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ว่า รัฐบาลต้องตั้งหลักให้ดีไม่เช่นนั้นนายรัฐมนตรีจะถูกมองว่าเป็นคนที่ตีสองหน้า ด้านหนึ่งไม่ปรามสถานการณ์ ส่วนคนที่ออกหมายจับนั้นมีขั้นตอนทางกฎหมายอยู่แล้ว และอยู่ในขั้นของศาลอุทธรณ์ ตำรวจสามารถที่จะชะลอรอดูคำสั่งศาลได้ ที่ผ่านมาเดือนสองเดือนไม่มีการดำเนินการใดๆ การใช้มาตรการเข้าจับกุมไล่มาเรื่อยๆเป็นการกระตุ้นสถานการณ์ให้รุนแรงโดยไม่จำเป็น เหมือนกับความตั้งใจของนายกรัฐมนตรีที่จะทำการปฏิรูปการเมืองตามแนวทางของนักวิชาการแล้ว ต่างก็ตกลงกัน 4 ฝ่าย เป็นที่ตกลงว่าจะตั้ง ส.ส.ร.3 แต่ดูเหมือนว่าจะยากแล้ว
“เวลานี้มองได้อย่างเดียวว่ารัฐบาลไม่มีความเป็นเอกภาพ คนที่กุมนโยบายในส่วนของรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นพลเอกชวลิต นายสมชาย หรือคนที่กุมอำนาจ สำนักงานตร.แห่งชาติ ไปคนละทิศทางกับการปฏิรูปการเมืองกับแต่จะใช้วิธีการที่ตรงข้ามสะท้อนให้เห็นความแตกแยกของพลังประชาชนในนโยบายสมานฉันท์ เสถียรภาพของรัฐบาลหมดไปแล้วก่อนที่จะแถลงนโยบายด้วยซ้ำ และเป็นความแตกแยกของนโยบายรัฐบาล ความขัดแย้งมีการช่วงชิงการนำ นายสมชายกับกลุ่มรัฐมนตรีเข้ามาใหม่ กลุ่มแก๊งต่างๆ ยังแตกแยกกันไม่จบ จนจับทิศทางไม่ถูกประชาชนหวังพึ่งอะไรไม่ได้ในตอนนี้”
นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่าการบรรจุร่างรัฐธรรมนูญของ คปพร.เข้ามาพร้อมกับตั้ง ส.ส.ร.3 ยิ่งแสดงให้เห็นได้ชัดว่า นายชัย ชิดชอบ กำลังขัดแย้งกับนายกรัฐมนตรี เป็นความขัดแย้งที่เป็นผลมาจากความแตกแยกของการตั้งครม.ที่เป็นสายของกลุ่มที่ประสานยประโยชน์ไม่ลงตัวบางส่วน แนวทางสภาจึงแตกแยกกันเอง ตั้งแต่ภาพขององค์ประชุมไม่ครบ ประธานสภาบรรจุระเบียบวาระแก้ รธน.ฉบับหมอเหวง โดยอ้างว่าเป็นมาตรซานของตัวเอง รัฐบาลเองกุมเสียงรัฐบาลในการที่จะโหวตรับหรือไม่รับร่างของหมอเหวง
วันนี้ (5 ต.ค.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการจับกุม พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ว่า รัฐบาลต้องตั้งหลักให้ดีไม่เช่นนั้นนายรัฐมนตรีจะถูกมองว่าเป็นคนที่ตีสองหน้า ด้านหนึ่งไม่ปรามสถานการณ์ ส่วนคนที่ออกหมายจับนั้นมีขั้นตอนทางกฎหมายอยู่แล้ว และอยู่ในขั้นของศาลอุทธรณ์ ตำรวจสามารถที่จะชะลอรอดูคำสั่งศาลได้ ที่ผ่านมาเดือนสองเดือนไม่มีการดำเนินการใดๆ การใช้มาตรการเข้าจับกุมไล่มาเรื่อยๆเป็นการกระตุ้นสถานการณ์ให้รุนแรงโดยไม่จำเป็น เหมือนกับความตั้งใจของนายกรัฐมนตรีที่จะทำการปฏิรูปการเมืองตามแนวทางของนักวิชาการแล้ว ต่างก็ตกลงกัน 4 ฝ่าย เป็นที่ตกลงว่าจะตั้ง ส.ส.ร.3 แต่ดูเหมือนว่าจะยากแล้ว
“เวลานี้มองได้อย่างเดียวว่ารัฐบาลไม่มีความเป็นเอกภาพ คนที่กุมนโยบายในส่วนของรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นพลเอกชวลิต นายสมชาย หรือคนที่กุมอำนาจ สำนักงานตร.แห่งชาติ ไปคนละทิศทางกับการปฏิรูปการเมืองกับแต่จะใช้วิธีการที่ตรงข้ามสะท้อนให้เห็นความแตกแยกของพลังประชาชนในนโยบายสมานฉันท์ เสถียรภาพของรัฐบาลหมดไปแล้วก่อนที่จะแถลงนโยบายด้วยซ้ำ และเป็นความแตกแยกของนโยบายรัฐบาล ความขัดแย้งมีการช่วงชิงการนำ นายสมชายกับกลุ่มรัฐมนตรีเข้ามาใหม่ กลุ่มแก๊งต่างๆ ยังแตกแยกกันไม่จบ จนจับทิศทางไม่ถูกประชาชนหวังพึ่งอะไรไม่ได้ในตอนนี้”
นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่าการบรรจุร่างรัฐธรรมนูญของ คปพร.เข้ามาพร้อมกับตั้ง ส.ส.ร.3 ยิ่งแสดงให้เห็นได้ชัดว่า นายชัย ชิดชอบ กำลังขัดแย้งกับนายกรัฐมนตรี เป็นความขัดแย้งที่เป็นผลมาจากความแตกแยกของการตั้งครม.ที่เป็นสายของกลุ่มที่ประสานยประโยชน์ไม่ลงตัวบางส่วน แนวทางสภาจึงแตกแยกกันเอง ตั้งแต่ภาพขององค์ประชุมไม่ครบ ประธานสภาบรรจุระเบียบวาระแก้ รธน.ฉบับหมอเหวง โดยอ้างว่าเป็นมาตรซานของตัวเอง รัฐบาลเองกุมเสียงรัฐบาลในการที่จะโหวตรับหรือไม่รับร่างของหมอเหวง