ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้ต้องหาปล้นธนาคารนาหม่อม เข้ามอบตัวกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา เพื่อแสดงบริสุทธิ์ หลังมีภาพแพร่ออกไปว่าเป็นผู้ต้องหาปล้นธนาคาร พร้อมปฏิเสธทุกข้อหา-ตำรวจยันว่าไม่ผิดตัวมีหลักฐานชัดเจนทั้งพยานวัตถุจากกล้องวงจรปิดและพยานบุคคล นำส่งศาลทหาร มทบ.42 วันนี้
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (24 ก.ย.) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา เขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา พร้อมชุดพนักงานสอบสวน ซึ่งนำโดย พ.ต.อ.วีระสิทธิ์ เพชรคล้าย รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา ได้ทำการสอบสวน พ.ต.จักรพงษ์ สมบูรณ์ นายทหารฝ่ายยุทธการ กองกำลังสันติสุข กองพลทหารราบที่ 15 ซึ่งเดินทางมาติดต่อขอมอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์พร้อมด้วยนายทหารพระธรรมนูญ
หลังมีการแพร่ภาพคนร้ายปล้นธนาคารไทยธนาคาร สาขานาหม่อม ออกไปเป็นใบหน้าคล้ายตนเอง และจากการสอบสวนปากคำทางตำรวจได้แจ้งข้อหา ชิงทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธหรือวัตถุระเบิด มีวัตถุระเบิด ใช้พาหนะในการกระทำผิด เพื่อพาทรัพย์นั้นไปให้พ้นจากการจับกุม เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และพยายามฆ่าเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งผู้ต้องหาได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีความมั่นใจในหลักฐานที่มีอยู่ ทั้งพยานวัตถุและพยานบุคคลที่ยืนยันชัดเจนจากภาพถ่ายของคนร้าย ที่ตำรวจนำไปให้ดูก่อนที่จะออกหมายจับ หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะนำผู้ต้องหาส่งไปยังศาลทหารที่ มณฑลทหารบกที่ 42 ค่ายเสนาณรงค์ หาดใหญ่ต่อไป
พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ในขณะนี้ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นผู้ไปก่อเหตุ ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องนำหลักฐานทั้งภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดของธนาคาร และพยานบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์มายืนยันกัน รวมทั้งจากกล้องวงจรปิดของห้างสรรพสินค้า ที่ผู้ต้องหาเข้าไปซื้อของหลังก่อเหตุ ซึ่งเกี่ยวพันกันในวันเวลาที่ก่อเหตุ
ชุดพนักงานสอบสวน นำโดย พ.ต.อ.วีรสิทธิ์ เพชรคล้าย รอง ผบก.ภ.จว.สงขลาได้ดำเนินการสอบสวนมาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุจนมีหลักฐานชัดเจน และสามารถนำภาพคนร้ายออกมาได้
จากพยานหลักฐานที่ทางตำรวจมีอยู่ และจากการสอบปากคำผู้ต้องหา ซึ่งขณะนี้เราได้แจ้งข้อหาไปแล้ว เขาปฏิเสธ แต่ทางเราเชื่อมั่นในหลักฐานว่า น่าจะเป็นคนเดียวกัน และพยานก็ดูภาพถ่าย แล้วยืนยันว่าเป็นคนเดียวกัน ในส่วนข้อหาได้ตั้งข้อหา ชิงทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธหรือวัตถุระเบิด มีวัตถุระเบิด ใช้พาหนะในการกระทำผิด เพื่อพาทรัพย์นั้นไปให้พ้นจากการจับกุม เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและพยายามฆ่าเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่
พล.ต.ต.วิรุฬ กล่าวต่ออีกว่า ถึงแม้ว่าผู้ต้องหาผู้ต้องหาจะปฏิเสธ เราก็มีความมั่นใจในหลักฐานของเราที่มีอยู่ หลังจากนี้ก็จะหาหลักฐานเพิ่มเติมเข้ามาประกอบในการกระทำความผิด ในส่วนของการดำเนินคดีทางด้านศาลทหาร เมื่อเราแจ้งข้อหาผู้ต้องหาที่เป็นทหารเราก็จะนำส่งศาลทหาร โดยเราจะทำการสอบสวนเบื้องต้นให้เสร็จเขาจะให้การหรือไม่ให้การก็เป็นสิทธิของเขา ตำรวจเราก็จะนำส่งไปที่ศาลทหาร ที่ มทบ.42 ค่ายเสนาณรงค์ หาดใหญ่ เหมือนกับพลเรือนทั่วไป เพียงแต่ว่า เราจะต้องส่งให้คนละศาลกันเท่านั้นเอง แต่การปฏิบัติเหมือนกันหมด เขาจะใช้ทนายหรือไม่ก็แล้วแต่อันนั้นเป็นสิทธิของเขา ในส่วนของตำรวจเองก็จะเดินหน้าในส่วนของพยานหลักฐานเพื่อส่งฟ้องศาลต่อไป ยืนยันว่า ไม่ผิดตัวแน่นอน
