ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เร่งหาเบาะแสล่าตัวผู้ก่อเหตุลอบวางระเบิด 7 จุดใน จ.สงขลา พร้อมวางกำลังคุมเข้มรักษาความปลอดภัยระดับสูงสุด
ภายหลังจากเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด 7 จุดใน จ.สงขลา ในพื้นที่สองอำเภอคือ อำเภอเมืองสงขลา 5 จุดและอำเภอหาดใหญ่ 2 จุด เมื่อคืนที่ผ่านมาส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสองคน โดยในพื้นที่อำเภอเมืองสงขลาเจ้าหน้าที่ได้วางมาตรการคุมเข้มเพื่อรักษาความปลอดภัยในเขตตัวเมืองของทั้งสองอำเภอในระดับสูงสุด โดยในพื้นที่อำเภอเมืองสงขลาได้มีการวางกำลังจุดตรวจจุดสกัดทั้ง 4 มุมเมืองที่เป็นเส้นทางเข้าออกตัวเมืองสงขลา ประกอบด้วยจุดตรวจสวน 72 พรรษา จุดตรวจบ่อยาง จุดตรวจบ้านทุ่งใหญ่ และจุดตรวจเส้นทางสงขลา-จะนะ ในขณะที่พื้นที่อำเภอหาดใหญ่ ได้มีวางจุดตรวจบนเส้นทางขาเข้าบนถนนสายหลักทั้งถนนกาญจนวานิช และถนนเพชรเกษม
พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเพื่อประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยระบุว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นทั้ง 7 จุดนั้นคนร้ายต้องการป่วนเพื่อให้สถานการณ์เกิดความวุ่นวาย มากกว่าที่จะมุ่งทำลายหรือสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ขณะนี้ได้มีการเรียกกำลังจากหน่วยข้างเคียงเข้ามาเสริมอย่างเต็มที่ทั้งจากศูนย์ปฏิบัติการตำรวจส่วนหน้า หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด เจ้าหน้าที่วิทยาการ ตชด.และทหารพรานเพื่อรักษาความปลอดภัยทั้งสองอำเภอ รวมถึงในพื้นที่ 4 อำเภอชายแดนสงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงที่อาจจะเกิดการก่อเหตุร้ายขึ้นได้สั่งการให้เตรียมพร้อมเฝ้าระวังเหตุตลอด 24 ชั่วโมง
รวมทั้งตรวจสอบหลักฐานต่าง ๆ ที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุ ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุนั้นยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นกลุ่มใด และยังไม่มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนแต่อย่างใด โดยหลังจากนี้จะตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ โดยเฉพาะร้านดอกเตอร์คูล ถนนชลาทัศน์ให้เตรียมพร้อมเฝ้าระวังเหตุตลอด เมืองสงขลา และตัวเมืองหาดใหญ่ซึ่งน่าจะได้เบาะแสเกี่ยวกับคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุซึ่งสามารถบันทึกภาพขณะเกิดเหตุระเบิดไว้ได้ซึ่งน่าจะได้เบาะแสเกี่ยวกับคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ อย่างไรก็ตามในส่วนของร้าน 7 อิเลเว่นซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายของการก่อเหตุในครั้งนี้หลังเกิดเหตุได้ปิดให้บริการชั่วคราวทุกแห่งที่อยู่ตัวเมืองสงขลา และตัวเมืองหาดใหญ่
อย่างไรก็ตามมีรายงานจากชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดว่า ระเบิดที่คนร้ายใช้จากการตรวจสอบในเบื้องต้นคาดว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องซึ่งประกอบในกล่องขนาดเล็ก หรือซองบุหรี่ ลักษณะเดียวกันกับที่เคยใช้ก่อเหตุในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แม้จะมีสะเก็ดระเบิดเช่นลวดเหล็ก แต่อานุภาพไม่ได้รุนแรงรัศมีการระเบิดอยู่ในวงจำกัด จึงมีผู้บาดเจ็บน้อยมากแม้จะนั่งอยู่ใกล้กับรัศมีของระเบิด โดยทางเจ้าหน้าที่วิทยาการ ชุดอีโอดี กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานจากเศษชิ้นส่วนของระเบิดมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง