พัทลุง - เผยเกษตรกรเมืองลุงตื่นปลูกปาล์มน้ำมันเปรียบได้กับยุคตื่นทอง ส่งผลให้ขาดแคลนกล้าพันธุ์คุณภาพอย่างมาก ขณะที่ราคากล้าพันธุ์ก็ได้พุ่งขึ้นกว่าเท่าตัว หรือจาก 60 บาท/ต้น เป็นกว่า 120 บาท/ต้น เตือนให้ระวังกลุ่มคนที่ยึดโยงเอาแต่ได้เพาะกล้าปาล์มไร้คุณภาพออกจำหน่าย ซึ่งจะสร้างความสูญเสียทั้งต้นทุนและเวลา แนะให้ตรวจใบรับรองคุณภาพแหล่งผลิตก่อนซื้อ
นายไพรวัลณ์ ชูใหม่ นักวิชาการสำนักเกษตรจังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า จากการตื่นตัวของเกษตรกรในพื้นที่ที่หันมาปลูกปาล์มน้ำมันกันมากขึ้นในขณะนี้ จนทำให้ต้นกล้าปาล์มน้ำมันขาดตลาด โดยเฉพาะปาล์มน้ำมันพันธุ์คุณภาพ เนื่องจากขณะนี้มีความต้องการมาก จากราคาต้นกล้าปาล์มเดิมอยู่ที่ 60-70 บาท/ต้น ขณะนี้ราคาต้นกล้าได้ขยับขึ้นไปอยู่ที่ 120 บาท/ต้น ซึ่งต้นกล้าพันธุ์ปาล์มคุณภาพต้องมีอายุ 10-12 เดือน
“สภาวการณ์ปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่ จ.พัทลุงมีการขยายตัวมากในแต่ละปี ขณะนี้มีการปลูกไปแล้วประมาณ 20,000 ไร่ ขณะที่ผลผลิตปาล์มน้ำมันที่ได้ก็ไม่มีปัญหาในการขาย เพราะขณะมีลานเทรับซื้อปาล์มถึง 4 รายอยู่ในพื้นที่ อีกทั้งภาครัฐที่เกี่ยวข้องให้ส่งเสริมอย่างเต็มที่ ทางด้านราคาปาล์มก็อยู่ในเกณฑ์ดี และยืนอยู่ตัวในระดับที่เกษตรกรพอใจ” นายไพรวัลณ์กล่าว
ด้าน นายสุรศักดิ์ สุวรรณวงศ์ เกษตรจังหวัดพัทลุง กล่าวเสริมว่า จาการตื่นตัวของเกษตรกรในการปลูกสร้างปาล์มน้ำมันในพื้นที่ขณะนี้ ส่งผลให้กล้าปาล์มน้ำมันขาดแคลนอย่างหนัก และอาจจะมีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มนำเมล็ดพันธุ์ปาล์มที่ไม่มีคุณภาพไปเพาะจำหน่ายแก่เกษตรกรได้ จึงขอให้เกษตรกรได้ให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อกล้าปาล์ม โดยซื้อจากแหล่งผลิตที่มีใบอนุญาตนำเข้าพันธุ์ปาล์มน้ำมัน หรือมีใบอนุญาตเพาะกล้าที่ได้มาตรฐานจากกรมวิชาการเกษตร
“แหล่งขายกล้าปาล์มจะต้องสามารถแสดงใบรับรองจากแหล่งผลิตพันธุ์ที่เป็นฉบับจริงได้ ซึ่งเมล็ดพันธุ์ปาล์มพันธุ์ดีมีแหล่งที่มา 3 แหล่งคือ จากหน่วยงานของรัฐ เช่น ศูนย์วิจัยปาล์มน้ำมันสุราษฎร์ธานี จากบริษัทเอกชนที่ผลิตพันธุ์ปาล์ม และบริษัทเอกชนที่นำเข้าเมล็ดพันธุ์ปาล์มน้ำมันจากต่างประเทศ” นายสุรศักดิ์ กล่าวและว่า
หากเกษตรกรได้พันธุ์ปาล์มน้ำมันที่เป็นพันธุ์ไม่ดีไปปลูกต้องใช้เวลา 3 ปีจึงจะเห็นผล ทำให้เสียเวลา เสียต้นทุนการผลิต เพราะพันธุ์ปาล์มที่เป็นพันธุ์ปลอมจะให้ผลผลิตต่ำกว่าพันธุ์ดีร้อยละ 10-50 อีกทั้งผลปาล์มที่ได้มีปริมาณน้ำมันน้อยกว่าพันธุ์ดีร้อยละ 35-55 จึงขอให้เกษตรกรที่สนใจปลูกปาล์มน้ำมันหาแหล่งพันธุ์ที่เชื่อถือได้ และเตรียมพื้นที่และวางแผนปลูกให้สอดคล้องกับพันธุ์ปาล์มน้ำมัน ซึ่งกล้าปาล์มที่เหมาะในการปลูกจะต้องมีอายุ 10-12 เดือน หรือไม่เกิน 14 เดือน
แหล่งข่าวจากสำนักงานเกษตรจังหวัดพัทลุงยังระบุอีกว่า เนื่องจากขณะนี้การปลูกปาล์มมี่ผู้สนใจที่จะปลูกปาล์มโดยตื่นตัวกันมาก ทำให้ต้นกล้าปาล์มที่มีคุณภาพเกิดการขาดแคลน จนเกิดมีเบาะแสว่า มีกลุ่มบุคคลได้ทำการเพาะพันธุ์ปาล์มที่ไม่ได้คุณภาพออกขายให้กับเกษตรกร ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายกับสวนปาล์มได้
นายไพรวัลณ์ ชูใหม่ นักวิชาการสำนักเกษตรจังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า จากการตื่นตัวของเกษตรกรในพื้นที่ที่หันมาปลูกปาล์มน้ำมันกันมากขึ้นในขณะนี้ จนทำให้ต้นกล้าปาล์มน้ำมันขาดตลาด โดยเฉพาะปาล์มน้ำมันพันธุ์คุณภาพ เนื่องจากขณะนี้มีความต้องการมาก จากราคาต้นกล้าปาล์มเดิมอยู่ที่ 60-70 บาท/ต้น ขณะนี้ราคาต้นกล้าได้ขยับขึ้นไปอยู่ที่ 120 บาท/ต้น ซึ่งต้นกล้าพันธุ์ปาล์มคุณภาพต้องมีอายุ 10-12 เดือน
“สภาวการณ์ปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่ จ.พัทลุงมีการขยายตัวมากในแต่ละปี ขณะนี้มีการปลูกไปแล้วประมาณ 20,000 ไร่ ขณะที่ผลผลิตปาล์มน้ำมันที่ได้ก็ไม่มีปัญหาในการขาย เพราะขณะมีลานเทรับซื้อปาล์มถึง 4 รายอยู่ในพื้นที่ อีกทั้งภาครัฐที่เกี่ยวข้องให้ส่งเสริมอย่างเต็มที่ ทางด้านราคาปาล์มก็อยู่ในเกณฑ์ดี และยืนอยู่ตัวในระดับที่เกษตรกรพอใจ” นายไพรวัลณ์กล่าว
ด้าน นายสุรศักดิ์ สุวรรณวงศ์ เกษตรจังหวัดพัทลุง กล่าวเสริมว่า จาการตื่นตัวของเกษตรกรในการปลูกสร้างปาล์มน้ำมันในพื้นที่ขณะนี้ ส่งผลให้กล้าปาล์มน้ำมันขาดแคลนอย่างหนัก และอาจจะมีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มนำเมล็ดพันธุ์ปาล์มที่ไม่มีคุณภาพไปเพาะจำหน่ายแก่เกษตรกรได้ จึงขอให้เกษตรกรได้ให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อกล้าปาล์ม โดยซื้อจากแหล่งผลิตที่มีใบอนุญาตนำเข้าพันธุ์ปาล์มน้ำมัน หรือมีใบอนุญาตเพาะกล้าที่ได้มาตรฐานจากกรมวิชาการเกษตร
“แหล่งขายกล้าปาล์มจะต้องสามารถแสดงใบรับรองจากแหล่งผลิตพันธุ์ที่เป็นฉบับจริงได้ ซึ่งเมล็ดพันธุ์ปาล์มพันธุ์ดีมีแหล่งที่มา 3 แหล่งคือ จากหน่วยงานของรัฐ เช่น ศูนย์วิจัยปาล์มน้ำมันสุราษฎร์ธานี จากบริษัทเอกชนที่ผลิตพันธุ์ปาล์ม และบริษัทเอกชนที่นำเข้าเมล็ดพันธุ์ปาล์มน้ำมันจากต่างประเทศ” นายสุรศักดิ์ กล่าวและว่า
หากเกษตรกรได้พันธุ์ปาล์มน้ำมันที่เป็นพันธุ์ไม่ดีไปปลูกต้องใช้เวลา 3 ปีจึงจะเห็นผล ทำให้เสียเวลา เสียต้นทุนการผลิต เพราะพันธุ์ปาล์มที่เป็นพันธุ์ปลอมจะให้ผลผลิตต่ำกว่าพันธุ์ดีร้อยละ 10-50 อีกทั้งผลปาล์มที่ได้มีปริมาณน้ำมันน้อยกว่าพันธุ์ดีร้อยละ 35-55 จึงขอให้เกษตรกรที่สนใจปลูกปาล์มน้ำมันหาแหล่งพันธุ์ที่เชื่อถือได้ และเตรียมพื้นที่และวางแผนปลูกให้สอดคล้องกับพันธุ์ปาล์มน้ำมัน ซึ่งกล้าปาล์มที่เหมาะในการปลูกจะต้องมีอายุ 10-12 เดือน หรือไม่เกิน 14 เดือน
แหล่งข่าวจากสำนักงานเกษตรจังหวัดพัทลุงยังระบุอีกว่า เนื่องจากขณะนี้การปลูกปาล์มมี่ผู้สนใจที่จะปลูกปาล์มโดยตื่นตัวกันมาก ทำให้ต้นกล้าปาล์มที่มีคุณภาพเกิดการขาดแคลน จนเกิดมีเบาะแสว่า มีกลุ่มบุคคลได้ทำการเพาะพันธุ์ปาล์มที่ไม่ได้คุณภาพออกขายให้กับเกษตรกร ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายกับสวนปาล์มได้
