ระนอง - ชาวหาดส้มแป้น ระนองกว่า 50 คน รวมตัวยืนหนังสือผู้ว่าฯขอความชัดเจนนโยบายแก้ไขปัญหาการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าละอุ่น-ป่าราชกรูด ที่บ้านห้วยหลุง
วันนี้ (4 เม.ย.51) ราษฎรชาวตำบลหาดส้มแป้น อ.เมือง จ.ระนอง ที่ได้รับความเดือดร้อนเรื่องปัญหาที่ทำกิน 50 คนได้รวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดระนอง เพื่อยื่นหนังสือขอทราบความชัดเจนในนโยบาย การแก้ไขปัญหาพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าละอุ่น-ป่าราชกรูด ที่บ้านห้วยหลุง หมู่ที่ 1 ต.หาดส้มแป้น ที่นางกาญจนาภา กี่หมัน ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึดพื้นที่ ที่ถูกบุกรุกแผ้วถางเมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากชาวบ้านไม่สามารถเข้าไปดูแลพืชผลอาสินที่ปลูกไว้ได้ เพราะกลัวจะถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับกุม
แต่เนื่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดระนองติดราชการ จึงได้มอบหมายให้นายยงยศ เมฆอรุณ รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้รับหนังสือ พร้อมนายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร ป้องกันจังหวัด ได้ประชุมร่วมกับตัวแทนชาวบ้าน 5 คน คือ นายนภดล กุลวิจิตร นายชำนาญ พุฒแก้ว นายสุรศักดิ์ คลี่ขยาย นายสว่าง ตังสุหน และนายสมหมาย ดำเอียด ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงได้ข้อยุติ
ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า พื้นที่ที่ชาวบ้านถือครองเป็นป่าเสื่อมสภาพมานานแล้วบางแปลงสร้างแล้วทิ้งไปเพราะไม่มีเงินลงทุน เพราะต้องหาเลี้ยงครอบครัว แล้วได้กลับเข้าไปสร้างใหม่ บางแปลงได้รับผลอาสินแล้ว
เช่น กาแฟ เงาะ มังคุด ทุเรียน แต่ราคาในอดีตตกต่ำจึงได้ตัดโค่นทำลายไปแล้วมาปลูกปาล์มน้ำมัน ยางพารา ทดแทน ทางจังหวัดจะแก้ไขปัญหาอย่างไร เพราะหลังจากที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเข้าตรวจยึดพื้นที่ดังกล่าวแล้วชาวบ้านไม่กล้าเข้าไปดูแลตัดแต่งต้นไม้ กำจัดวัชพืชเพื่อเตรียมใส่ปุ๋ยเพราะกำลังเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว แต่กลัวจะถูกจับกุมดำเนินคดี
นายยงยศ กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดจะนำการแก้ไขปัญหาป่าห้วยหลุงมาเป็นต้นแบบในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการบุกรุกแผ้วถางป่าของจังหวัดระนองในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป ไม่ได้เลือกปฏิบัติพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง โดยจะยึดหลักคุณธรรมควบคู่กับหลักกฎหมายเป็นหลัก เพื่อรักษาผืนป่าไว้ให้ลูกหลาน ตามแนวพระราชเสาวณีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ และตามนโยบายของรัฐบาล หากประชาชนมีปัญหาโด ๆ ก็สามารถมาพบได้ตลอดเวลา และขอให้ตัวแทนของชาวบ้านทั้ง 5 คน ร่วมเป็นกรรมการแก้ไขปัญหาป่าห้วยหลุงด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนสับสนไปเชื่อฟังคนอื่นที่ไม่รู้ข้อมูลจริง
นายสมพร กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาป่าห้วยหลุงในขณะนี้จังหวัดได้ตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 เมษายน 2551 ได้แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน คือ พื้นที่บุกรุกเก่าจะยึดมติ ครม.วังน้ำเขียวเมื่อปี 2541เป็นหลักเพื่อพิสูจน์สิทธิการครอบครอง พร้อมทั้งจับพิกัดดาวเทียมไว้ชัดเจนทุกแปลง ประชาชนเข้าไปทำมาหากินได้ตามปกติ แต่ไม่มีสิทธิ์ในที่ดิน แต่ขอให้เข้าไปหลังวันที่ 15 เมษายน 2551 แต่ถ้าเมื่อไหร่บุกรุกออกนอกเขตจะจับกุมทันที
ส่วนพื้นที่บุกรุกใหม่จะจับกุมดำเนินคดีทันที ตามกฎหมายป่าไม้และกฎหมายอุทยานแห่งชาติ ประชาชนที่เดือดร้อนจริงๆ ทางราชการเห็นใจให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ แต่สำหรับพวกนายทุนและข้าราชการบางคนที่อยู่เบื้องหลัง ตนยอมไม่ได้อย่างเด็ดขาด ซึ่งหลังจากที่ป้องกันจังหวัดระนองได้ชี้แจงให้ชาวบ้านรับทราบแนวทางการแก้ไขปัญหาแล้ว จึงได้ให้ผู้ที่เดือดร้อนลงชื่อไว้เป็นหลักฐานก่อนแยกย้ายกันเดินทางกลับบ้าน
