พัทลุง – เกษตรกรพัทลุงทยอยขาย “ควายน้ำ” หนี หลังพบว่านายทุนและชาวบ้านยังคงบุกรุกป่าพรุทะเลน้อยซึ่งเป็นพื้นที่เลี้ยงควายอย่างต่อเนื่อง ร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหา หวั่น “ควายน้ำ” สูญพันธุ์ซ้ำรอย “ช้างแคระ”
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุง ว่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย ในพื้นที่ในจังหวัดพัทลุง สงขลา นครศรีธรรมราช ยังคงมีนายทุน ชาวบ้านบุกรุกแผ้วถางจุดไฟเผา จับจอง พร้อมทั้งนำรถแบ็กโฮขุดปรับพื้นที่ปลูกฟาร์มน้ำมัน และทำนาข้าวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่รอยต่อ ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง และ ต.ไม้ขาว อ.ระโนด จ.สงขลา โดยชาวบ้านระบุหากไม่รีบแก้ไข พื้นที่เลี้ยงควายน้ำ กว่า 5,000 ไร่ในทุ่งคลองนางเรียม เกษตรกรไม่สามารถร่วมกันใช้ประโยชน์ โดยนำควายปล่อยทุ่งมาเลี้ยงได้
นายสุทิน แก้วกล้า อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/8 ม.5 ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เจ้าของฝูงควายที่เลี้ยงปล่อยทุ่งคลองนางเรียม เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย กล่าวว่า ตนมีควายที่เลี้ยงปล่อยทุ่งอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวเกือบ 50 ตัว โดยได้รับการสืบทอดมาจากพ่อมากว่า 20 ปี ซึ่งในแต่ละปีสามารถสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวได้ ส่งลูกเล่าเรียนจนสามารถเลี้ยงตัวเองได้
แต่มาระยะหลังจากที่ทางรัฐบาลได้ส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมัน และราคาข้าวเปลือกที่มีราคาสูงขึ้น ทำให้มีนายทุน-ชาวบ้าน แผ้วถางจับจองพื้นที่โดยการนำรถแบ็กโฮมาขุดร่องปลูกปาล์มน้ำมัน และปรับเป็นที่ทำนา จนทำให้เกษตรกรที่มีอาชีพเลี้ยงควายได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ไม่สามารถต้อนควายมาเลี้ยงได้ เนื่องจากเกรงกลุ่มนายทุนแจ้งความดำเนินคดี จนทำให้ควายที่เลี้ยงเกษตรกรเลี้ยงอยู่ประมาณเกือบ 2,500 ตัว ต้องอยู่ด้วยความยากลำบาก และบางรายเริ่มทยอยขายออกไปในเหมาจ่ายตัวละ 6,000 บาท ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวหากทางผู้ว่าราชการจังหวัด หรือหน่วยงานที่รับผิดไม่รีบแก้ไข คาดว่า ควายน้ำปล่อยทุ่งคงจะหมดไปจากทะเลน้อยอย่างแน่นอน เหมือกับช้างแคระที่สูญพันธุ์ไปจากทะเลน้อย เมื่อ 50 ปีก่อน
ส่วน นายวิชิต บัวแดง เลขาธิการสมาคมอนุรักษ์ควายไทย กล่าวว่า ควายของเกษตรกรที่เลี้ยงในพื้นที่ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย มีอยู่เกือบ 4,000 ตัว หากวันนี้ทางราชการ จังหวัดยังไม่แก้ไขและปล่อยให้พื้นที่ถูกบุกรุก จับจองจากนายทุนอย่างต่อเนื่อง คาดว่า อีกไม่นาน เกษตรกรไม่สามารถเลี้ยงควายปล่อยทุ่งเป็นอาชีพได้ และควายที่เคยเห็นอยู่เต็มทุ่ง ที่คอยไว้ให้นักท่องเที่ยวมาชมในวิถีชีวิตความเป็นอยู่ในระบบนิเวศน์ของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยก็หมดไป
ทางด้าน นายเพิ่มศักดิ์ คงแก้ว หัวหน้าสำนักงานเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า ปัญหาการบุกรุกพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย พบยังมีการบุกรุกจากนายทุน โดยการใช้ช่องว่างของกฎหมายเข้าครอบครองพื้นที่ และที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินคดีผู้ที่บุกรุกแล้วหลายราย และสั่งระงับ อยู่ระหว่างการตรวจสอบหลักฐานหลายแปลง แต่ปัญหาก็ยังไม่หมดไป ซึ่งก็ยังน่าเป็นห่วงในการบุกรุก และการแก้ปัญหาการรุกพื้นที่ของทะเลน้อยในวันนี้ อยากให้หลายฝ่ายร่วมกันแก้ปัญหาทั้งทางเขต ทางจังหวัด ตำรวจ รวมถึงชาวบ้านในพื้นที่เอง