xs
xsm
sm
md
lg

กินผักภูเก็ตจี้ “ม้าทรง” ห้ามใช้อาวุธรุนแรง - มั่นใจนักเที่ยวจีน-สิงคโปร์เข้าร่วม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ตพร้อมแล้วจัดงานประเพณีถือศีลกินผักจี้ม้าทรงใช้อุปกรณ์แต่ในตำนานห้ามใช้ความรุนแรง คาดกินผักปีนี้ภูเก็ตใช้พืชผักผลไม้มากกว่า 1 แสนกิโลกรัม ขณะที่ชมรมอ้ามหน่วยงานเกี่ยวข้องยังมั่นใจนักท่องเที่ยวจีน-สิงคโปร์กลับเข้าภูเก็ตแน่กินผักปีนี้

วันนี้ (12 ก.ย.) นายทวิชาติ อินทรฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต กล่าวในการแถลงข่าวความพร้อมการจัดงานประเพณีถือศีลกินผักประจำปี 2551 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ตว่า งานประเพณีถือศีลกินผักที่จังหวัดภูเก็ตได้มีการปฏิบัติติดต่อกันมานานกว่า 200ปีแล้ว สำหรับการจัดงานประเพณีถือศีลกินผักในครั้งนี้มีศาลเจ้าในพื้นที่เข้าร่วมจำนวน 17 แห่ง คาดว่าจะมีประชาชน-นักท่องเที่ยวเข้าร่วมจำนวนมาก โดยเฉพาะในส่วนของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน และสิงคโปร์ที่จะเดินทางมาร่วมเป็นประจำทุกปี ซึ่งในปีนี้แม้ว่าจะมีปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวแต่ศาลเจ้าต่างๆก็ยังเชื่อมั่นว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากจีน และสิงคโปร์กลับเข้ามาร่วมงานประเพณีกินผักที่จังหวัดภูเก็ตอย่างแน่นอน

ขณะที่นายประเสริฐ ฟักทองผล ประธานชมรมอ้ามภูเก็ต กล่าวว่า ด้วยจังหวัดภูเก็ต สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต และชมรมอ้ามภูเก็ต กำหนดจัดงานประเพณีถือศีลกินผัก ประจำปี 2551 ในระหว่างวันที่ 29 กันยายน - วันที่ 7 ตุลาคม 2551 โดยการลดละ จากการเบียดเบียนกันไม่ว่าจะด้วยวาจา กิริยา การกระทำ หรือแม้แต่จะคิด ผู้ถือศีลต้องควบคุมจิตให้สงบ บำเพ็ญศีลสมทาน บริโภคแต่อาหารประเภทผักและผลไม้ ยกเว้นไม่กระทำกิจใดๆ อันนำมาซึ่งความเบียดเบียนเดือดร้อนให้แก่สัตว์ทั้งปวง โดยในปีนี้มีศาลเจ้าต่างๆ เข้าร่วมจำนวน 17 แห่ง คาดว่าจะใช้พืชผักในการประกอบอาหารในช่วงดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 100,000 กิโลกรัม ข้าวสารไม่ต่ำกว่า 100 ตัน

“จากการประชุมร่วมกันของทางจังหวัดและคณะกรรมการศาลเจ้าต่างๆ ได้มีการเน้นย้ำเรื่องของการใช้อาวุธตามตำนาน การใช้ประทัดซึ่งเน้นประทัดแพ หากมีการนำประทัดประเภทอื่นๆ มาใช้ เช่น บ๊ะจ่าง ไข่ไก่ เป็นต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะมีการดำเนินการอย่างเข้มงวด ส่วนเรื่องการควบคุมราคาสินค้าที่จำเป็นต้องใช้ในช่วงเทศกาลทางพาณิชย์จังหวัดจะมีการออกตรวจป้ายราคาสินค้าและชั่งตวงวัดก่อนและหลังประเพณี ตลอดจนตรวจสอบราคาผักผลไม้ รวมไปถึงราคาอาหารตามร้านค้าต่างๆ ซึ่งจะต้องมีป้ายบอกราคา”

ขณะที่การแห่พระรอบเมืองได้มีการประสานกับศาลเจ้าต่างๆ ให้มีการรณรงค์ให้ม้าทรงใช้อาวุธทิ่มแทงหรือทรมานร่างกายที่มีอยู่ในตำนานเท่านั้น ไม่ให้ใช้อาวุธที่มีขนาดใหญ่ หรืออุปกรณ์ที่แตกต่างไปจากตำนาน รวมถึงความสะอาดของอาวุธที่ใช้ โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในการจัดทำคู่มือแจกให้กับม้าทรงในการดูแลรักษาความสะอาดและรักษาสุขภาพตัวเอง

นายประเสริฐ กล่าวด้วยว่า ปีนี้ทางชมรมอ้ามกำหนดให้มีกิจกรรมพิเศษ โดยศาลเจ้าต่างๆ จะประกอบพิธีสวดมนต์ถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่บริเวณเวทีกลางสะพานหินในวันที่ 30 กันยายน พร้อมกันนี้จะมีการจุดพลุ จำนวน 284 นัด ซึ่งแต่ละนัดจะมีความหมายแตกต่างกัน รวมทั้งยังมีมังกรพ่นไฟ 2 ตัวด้วย

ต่อคำถามที่ว่าในปีนี้จะมีผู้มาร่วมประเพณีมากน้อยเพียงใด นายประเสริฐ กล่าวว่า สำหรับชาวภูเก็ตทั่วไปนั้นก็จะมีการถือศีลกินผักกันเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว ส่วนของชาวต่างชาติในกลุ่มเอเชียซึ่งเป็นชาวจีนโพ้นทะเลก็เชื่อว่ายังคงมีการเดินทางเข้ามาร่วมประเพณีเช่นเดิม เช่น จีน สิงคโปร์ ไต้หวัน เป็นต้น เข้าร่วมเป็นจำนวนมากเหมือนกับทุกๆ ปีที่ผ่านมา เพราะนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะมาร่วมถือศีลกินผักด้วย ส่วนของนักท่องเที่ยวกลุ่มยุโรปนั้นไม่มั่นใจ เนื่องจากส่วนใหญ่จะมาเพื่อร่วมชมประเพณี

ขณะที่นายธีรวุธ ศรีตุลารักษ์ ประธานมูลนิธิศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยเต้าโบ้เก้ง กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ว่า มีความคืบหน้าร้อยละ 90 ทั้งการจัดเตรียมสถานที่ อุปกรณ์ เครื่องครัว และการปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ให้สวยงาม ซึ่งเชื่อมั่นว่าจากสภาวะการเมืองในขณะนี้จะส่งผลให้คนจำนวนมากหันมาถือศีลกินผักทำบุญกันมากขึ้น เนื่องจากเป็นวิถีทางแห่งการดำเนินชีวิตไปสู่ความสุข สงบ ร่มเย็นทั้งทางใจและกาย ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือต่างชาติ
กำลังโหลดความคิดเห็น