สตูล – เกษตรกรครวญกล้ายางพาราจมน้ำตาย เหตุฝนตกหนักจนน้ำท่วม วอนรัฐช่วย ขณะที่ชาวบ้านเดือนร้อนน้ำกินน้ำใช้ น้ำท่วมขังนาน 4 วันบ่อน้ำในหมู่บ้านจมใช้การไม่ได้
วันนี้ (9 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝนที่ตกติดต่อกันเป็นเวลานานถึง 4 วัน ทำให้ระดับน้ำที่ท่วมขังยังคงทรงตัวในพื้นที่ อ.ละงู 6 ตำบล 47 หมู่บ้าน จ.สตูล โดยเฉพาะระดับน้ำในลำคลองละงู สายสำคัญของหมู่บ้านที่เอ่อล้นตลิ่ง เข้าท่วมสวนยางพารา และสวนปาล์มน้ำมันของเกษตรกรได้รับความเสียหายและบางส่วนยืนต้นตายรวมทั้งนาข้าวถึง 300 ไร่
นายอดินันต์ โต๊ะเพ็ง อายุ 35 ปี เกษตรกรสวนยางพารา บ้านเลขที่ 16 หมู่ที่ 13 บ.ทุ่งพัฒนา ต.ละงู กล่าวว่า ต้นอ่อนยางพาราที่เพิ่งลงแปลงได้เพียง 3 เดือน จำนวน 7 ไร่ ใช้เงินในการลงทุนปุ๋ยและพันธุ์มากกว่า 60,000 บาท ต้องพังเสียหายไปในพริบตาเมื่อน้ำที่ท่วมขังในสวนนานกว่า 4 วันแล้ว ทำให้ต้นกล้ายางพารายืนต้นตาย เพราะแช่น้ำนานเกินไป และไม่มีทีท่าว่าระดับน้ำจะลดเมื่อไหร่เพราะท้องฟ้ายังคงมืดครึ้มอีก
นายอดินันต์ บอกด้วยว่า โดยปกติไม่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมมานานกว่า 4 ปีแล้ว และเพิ่งมาเกิดน้ำท่วมใหญ่และนานก็ปีนี้ อย่างไรก็ตาม ขอให้ทางภาครัฐช่วยเหลือพันธุ์กล้าปาล์มให้เกษตรกรซึ่งจะเป็นการแบ่งเบาภาระเกษตรกรได้พอสมควร
ขณะที่ระดับน้ำที่ท่วมขังนานเป็นวันที่ 4 แล้วนั้น ความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ 6 ตำบลของอำเภอละงูที่ประสบอุทกภัย ในด้านน้ำกิน น้ำใช้ เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่จะใช้น้ำจากบ่อในการอุปโภคบริโภค เมื่อเกิดน้ำท่วมขังน้ำในบ่อของชาวบ้านก็ท่วมปิดบ่อน้ำกินน้ำใช้ไปด้วย
นางสะหนา องศารา ชาวบ้านหมู่ 13 บ.ทุ่งพัฒนา ต.ละงู บอกว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ในพื้นที่นี้จะใช้น้ำบ่อดื่มกินและใช้ในชีวิตประจำวัน เมื่อน้ำท่วมขังก็จำเป็นต้องใช้ไปพลางก่อน แม้น้ำจะมีกลิ่นสาบบ้างและมีสีขุ่นมัว แต่น้ำดื่มก็ออกหาซื้อข้างนอกแก้ปัญหาไปพลาง และได้แต่หวังว่าน้ำจะลดลงใน 2-3 วัน แต่ปีนี้น้ำท่วมขังแห้งช้ามากเพราะเชื่อว่าน้ำทะเลหนุนทำให้น้ำในคลองละงูที่มาจากเขาบรรทัดเอ่อล้นและแห้งช้าขึ้น
ขณะที่ทางการอำเภอละงู สาธารณสุขอำเภอละงู ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูล ได้ช่วยกันเร่งสำรวจความเสียหายและช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างทั่วถึง แม้สภาพอากาศในระยะนี้ยังน่าเป็นห่วงว่าฝนอาจจะกลับมาตกซ้ำได้อีกครั้งตามที่อุตุนิยมวิทยารายงานให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมจนถึงวันที่ 19 ก.ย.