กระบี่ -รอง ผวจ.สั่งตรวจสอบพื้นคลองสาธารณะคลองนา ถูกนายทุนปรับพื้นที่ล้ำแนวคลอง
ตามที่ นายบุญเพียร ช่างทองเครือ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 12 ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ ได้เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 23 ที่ผ่านมา ว่า ได้มีนายทุนนำดินไปถมกลบลำคลองสายหลักในหมู่บ้าน เกรงว่า จะทำให้เกิดน้ำท่วมขัง โดยคลองดังกล่าวเป็นคลองสาธารณประโยชน์อยู่ติดถนนเพชรเกษม หมู่ที่ 12 ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ จึงไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงพบชาวบ้านมารวมตัวกันที่ริมคลองดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ก็พบรถแบ็กโฮกำลังปรับถมที่ตามแนวลำคลองดังกล่าว โดยไม่สนใจกลุ่มชาวบ้านที่มารวมตัวกันแต่อย่างใด นอกจากนี้ ก็ยังพบท่อซีเมนต์จำนวนมากวางเรียงราย เพื่อรอฝังกลบทำเป็นท่อระบายน้ำ
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (25 ส.ค) ทาง นายชัยเลิศ ภิญโญรัตนโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายโสภณ สุวรรณคะราช ปลัดอำเภอเมืองกระบี่ นายเศวตฉัตร สุวรรณรัตน์ หัวหน้าศูนย์ดำรงค์ธรรมจังหวัดกระบี่ ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อหาข้อสรุปว่าพื้นที่บริเวณพิพาทมีการบุกรุกของนายทุนหรือไม่
จากการเข้าตรวจสอบ ก็พบข้อเท็จจริงตามที่ได้รับการร้องเรียนว่ามีการนำดินไปถมในลำคลอง แต่ก็ยังไม่สามารถหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้ โดยต้องรอการพิสูจน์หลักฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนว่าพื้นที่คลองสาธารณะนั้น เดิมมีความกว้างเท่าได และยาวเท่าใด ถูกบุกรุกไปเท่าใด
นายชัยเลิศ ภิญโญรัตนโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้กล่าวว่า จากการเข้าตรวจสอบพื้นที่ตามที่ผู้ใหญ่บ้านได้อ้างว่ามีการบุกรุกก็น่าจะเป็นความจริง แต่ทั้งนี้ ก็ต้องพิสูจน์กันด้วยพยานหลักฐานโดยจะเรียกเจ้าของที่ดิน ที่อยู่ติดคลองสาธารณะมาชี้แจงด้วย และหากพิสูจน์ได้ว่ามีการบุกรุกจริงก็จะให้ทางอำเภอเมืองซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ แจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับเจ้าของที่ดินทันที คาดว่าการพิสูจน์หลักฐานคงจะใช้เวลาไม่นานก็จะทราบผล และการเข้าตรวจสอบพื้นที่ไม่มีการกลั่นแกล้งแต่อย่างใด ทำไปตามที่ตัวแทนชาวบ้านได้ร้องเรียน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เดิมที่ชาวบ้านเล่าว่า คลองที่ข้อพิพาทกันอยู่เดิม มีชื่อว่า คลองนา กว้างไม่น้อยกว่า 10 เมตร โดยผู้ที่ครอบที่ดินที่ติดกับคลองสาธารณะเดิม ได้ขายให้กับนายทุนไป ต่อมานายทุนก็ได้ปรับพื้นที่ และพยายามที่จะถมคลองดังกล่าว เพื่อทำการครอบครองทั้งหมด โดยการวางท่อซิเมนต์ไว้ใต้ดินเพื่อให้น้ำไหล่ผ่าน แต่ก็ได้เพียงถมดินเท่านั้นยังไม่ทันได้วางท่อซิเมนต์ก็ถูกชาวบ้านร้องเรียนเสียก่อน และทราบว่าล่าสุดทางนายทุนเจ้าของพื้นที่ก็ได้มีการถมที่อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะเข้าไปตรวจสอบแล้วก็ตาม
ตามที่ นายบุญเพียร ช่างทองเครือ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 12 ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ ได้เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 23 ที่ผ่านมา ว่า ได้มีนายทุนนำดินไปถมกลบลำคลองสายหลักในหมู่บ้าน เกรงว่า จะทำให้เกิดน้ำท่วมขัง โดยคลองดังกล่าวเป็นคลองสาธารณประโยชน์อยู่ติดถนนเพชรเกษม หมู่ที่ 12 ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ จึงไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงพบชาวบ้านมารวมตัวกันที่ริมคลองดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ก็พบรถแบ็กโฮกำลังปรับถมที่ตามแนวลำคลองดังกล่าว โดยไม่สนใจกลุ่มชาวบ้านที่มารวมตัวกันแต่อย่างใด นอกจากนี้ ก็ยังพบท่อซีเมนต์จำนวนมากวางเรียงราย เพื่อรอฝังกลบทำเป็นท่อระบายน้ำ
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (25 ส.ค) ทาง นายชัยเลิศ ภิญโญรัตนโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายโสภณ สุวรรณคะราช ปลัดอำเภอเมืองกระบี่ นายเศวตฉัตร สุวรรณรัตน์ หัวหน้าศูนย์ดำรงค์ธรรมจังหวัดกระบี่ ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อหาข้อสรุปว่าพื้นที่บริเวณพิพาทมีการบุกรุกของนายทุนหรือไม่
จากการเข้าตรวจสอบ ก็พบข้อเท็จจริงตามที่ได้รับการร้องเรียนว่ามีการนำดินไปถมในลำคลอง แต่ก็ยังไม่สามารถหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้ โดยต้องรอการพิสูจน์หลักฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนว่าพื้นที่คลองสาธารณะนั้น เดิมมีความกว้างเท่าได และยาวเท่าใด ถูกบุกรุกไปเท่าใด
นายชัยเลิศ ภิญโญรัตนโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้กล่าวว่า จากการเข้าตรวจสอบพื้นที่ตามที่ผู้ใหญ่บ้านได้อ้างว่ามีการบุกรุกก็น่าจะเป็นความจริง แต่ทั้งนี้ ก็ต้องพิสูจน์กันด้วยพยานหลักฐานโดยจะเรียกเจ้าของที่ดิน ที่อยู่ติดคลองสาธารณะมาชี้แจงด้วย และหากพิสูจน์ได้ว่ามีการบุกรุกจริงก็จะให้ทางอำเภอเมืองซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ แจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับเจ้าของที่ดินทันที คาดว่าการพิสูจน์หลักฐานคงจะใช้เวลาไม่นานก็จะทราบผล และการเข้าตรวจสอบพื้นที่ไม่มีการกลั่นแกล้งแต่อย่างใด ทำไปตามที่ตัวแทนชาวบ้านได้ร้องเรียน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เดิมที่ชาวบ้านเล่าว่า คลองที่ข้อพิพาทกันอยู่เดิม มีชื่อว่า คลองนา กว้างไม่น้อยกว่า 10 เมตร โดยผู้ที่ครอบที่ดินที่ติดกับคลองสาธารณะเดิม ได้ขายให้กับนายทุนไป ต่อมานายทุนก็ได้ปรับพื้นที่ และพยายามที่จะถมคลองดังกล่าว เพื่อทำการครอบครองทั้งหมด โดยการวางท่อซิเมนต์ไว้ใต้ดินเพื่อให้น้ำไหล่ผ่าน แต่ก็ได้เพียงถมดินเท่านั้นยังไม่ทันได้วางท่อซิเมนต์ก็ถูกชาวบ้านร้องเรียนเสียก่อน และทราบว่าล่าสุดทางนายทุนเจ้าของพื้นที่ก็ได้มีการถมที่อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะเข้าไปตรวจสอบแล้วก็ตาม