ศูนย์ข่าวภูเก็ต -กรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร ระดมความคิดเห็นแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวหนีเข้าเมือง คนภาคใต้ ระบุ ไม่ควรให้ความต้องการด้านเศรษฐกิจมาอยู่เหนือความมั่นคง
วันนี้ (22 ส.ค.) ที่ห้องจามจุรี โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่าที่ร้อยตรีสุเมธ ฤทธาคนี ประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานเปิดการสัมมนา เรื่องการบริหารแรงงานต่างด้าว กับ พระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2551 เพื่อระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับการมองปัญหา เรื่องการบริหารแรงงานต่างด้าว กรณีหลบหนีเข้าเมือง ที่กระทบต่อผลประโยชน์ของชาติ ประชาชน และความมั่นคงของชาติ ตลอดจนเพื่อแสวงหาข้อยุติ เกี่ยวกับมติคณะรัฐมนตรี หรือพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2551 ในการแก้ไขปัญหา และเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรและรัฐบาล และผลักดันให้มีผลในทางปฎิบัติอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป โดยมีหน่วยงานจากภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้เข้าร่วม จำนวนประมาณ 350 คน
ผู้เข้าร่วมประชุมได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะเรื่องของความมั่นคง ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า ไม่ควรให้ความต้องการทางเศรษฐกิจมาอยู่เหนือความมั่นคงของประเทศ มิเช่นนั้นจะทำให้เกิดความเสียหายได้ หน่วยงานราชการก็จะต้องทำความเข้าใจซึ่งกันและกันเองด้วย
ในส่วนของผู้ประกอบการนั้น ต้องการให้ขยายระยะเวลาในการขึ้นทะเบียน หาวิธีการนำแรงงานต่างด้าวที่ไม่ถูกต้องมาเข้าระบบให้ถูกต้อง มาตรการป้องกันการเปลี่ยนนายจ้าง นำมาตรการด้านภาษีมาจูงใจผู้ประกอบการให้ใช้แรงงานที่ถูกต้อง
ว่าที่ร้อยตรีสุเมธ กล่าวว่า จากรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐทุกฝ่ายและผู้ประกอบการ ได้ฟังความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์อย่างมาก และเห็นทางออกเพื่อให้การประกอบการสามารถที่จะดำเนินการไปได้ ในขณะเดียวกัน ก็สามารถควบคุมในเรื่องของความมั่นคงได้เช่นกัน แต่ก็ต้องมีการพูดคุยในรายละเอียดกันอีกครั้ง และจะได้นำข้อมูลทั้งหมดไปประมวลและนำเสนอรัฐบาลต่อไป
ขณะที่ นายเรวัต อารีรอบ ส.ส.ภูเก็ต ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การบริหารแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ตั้งแต่ปี 2539 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน รัฐบาลแต่ละยุคได้ใช้มติคณะรัฐมนตรีเป็นหลักในการบริหาร รวม 14 ฉบับ มีลักษณะเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าตามห้วงเวลา หรือตามสถานการณ์เป็นคราวๆ ไป มีแรงงานต่างด้าว ตามมติคณะรัฐมนตรีล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2550 จำนวน 584,394 คน
ขณะเดียวกัน ปัญหาที่เกิดขึ้น จากการเข้ามาทำงานของแรงงานต่างด้าวคงดำรงอยู่ เช่น ปัญหาด้านความมั่นคง ปัญหาด้านสังคม จิตวิทยา ตั้งแต่ปัญหาสาธารณสุข ปัญหาการปฏิบัติระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง ปัญหาด้านงบประมาณ ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในมิติด้านสิทธิมนุษยชนและการค้าระหว่างประเทศ
ในสมัยรัฐบาลที่ผ่านมา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ผ่านพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2551 มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2551 โดยสาระสำคัญของ พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวครอบคลุมถึงการบริหารงานแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองด้วย เพื่อเป็นการเชื่อมโยงการบริหารแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง โดยมติคณะรัฐมนตรี 14 ฉบับมาสู่ พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2551 ให้สังคมไทยได้เตรียมพร้อมตระหนัก และเรียนรู้การแก้ไขปัญหาร่วมกัน คณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร จึงได้มีมติให้จัดสัมมนาดังกล่าวขึ้น เพื่อพิจารณาหาข้อยุติ เสนอสภาผู้แทนราษฎรและคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณานำไปสู่การปฏิบัติให้บังเกิดผลต่อไป
วันนี้ (22 ส.ค.) ที่ห้องจามจุรี โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่าที่ร้อยตรีสุเมธ ฤทธาคนี ประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานเปิดการสัมมนา เรื่องการบริหารแรงงานต่างด้าว กับ พระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2551 เพื่อระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับการมองปัญหา เรื่องการบริหารแรงงานต่างด้าว กรณีหลบหนีเข้าเมือง ที่กระทบต่อผลประโยชน์ของชาติ ประชาชน และความมั่นคงของชาติ ตลอดจนเพื่อแสวงหาข้อยุติ เกี่ยวกับมติคณะรัฐมนตรี หรือพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2551 ในการแก้ไขปัญหา และเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรและรัฐบาล และผลักดันให้มีผลในทางปฎิบัติอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป โดยมีหน่วยงานจากภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้เข้าร่วม จำนวนประมาณ 350 คน
ผู้เข้าร่วมประชุมได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะเรื่องของความมั่นคง ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า ไม่ควรให้ความต้องการทางเศรษฐกิจมาอยู่เหนือความมั่นคงของประเทศ มิเช่นนั้นจะทำให้เกิดความเสียหายได้ หน่วยงานราชการก็จะต้องทำความเข้าใจซึ่งกันและกันเองด้วย
ในส่วนของผู้ประกอบการนั้น ต้องการให้ขยายระยะเวลาในการขึ้นทะเบียน หาวิธีการนำแรงงานต่างด้าวที่ไม่ถูกต้องมาเข้าระบบให้ถูกต้อง มาตรการป้องกันการเปลี่ยนนายจ้าง นำมาตรการด้านภาษีมาจูงใจผู้ประกอบการให้ใช้แรงงานที่ถูกต้อง
ว่าที่ร้อยตรีสุเมธ กล่าวว่า จากรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐทุกฝ่ายและผู้ประกอบการ ได้ฟังความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์อย่างมาก และเห็นทางออกเพื่อให้การประกอบการสามารถที่จะดำเนินการไปได้ ในขณะเดียวกัน ก็สามารถควบคุมในเรื่องของความมั่นคงได้เช่นกัน แต่ก็ต้องมีการพูดคุยในรายละเอียดกันอีกครั้ง และจะได้นำข้อมูลทั้งหมดไปประมวลและนำเสนอรัฐบาลต่อไป
ขณะที่ นายเรวัต อารีรอบ ส.ส.ภูเก็ต ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การบริหารแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ตั้งแต่ปี 2539 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน รัฐบาลแต่ละยุคได้ใช้มติคณะรัฐมนตรีเป็นหลักในการบริหาร รวม 14 ฉบับ มีลักษณะเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าตามห้วงเวลา หรือตามสถานการณ์เป็นคราวๆ ไป มีแรงงานต่างด้าว ตามมติคณะรัฐมนตรีล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2550 จำนวน 584,394 คน
ขณะเดียวกัน ปัญหาที่เกิดขึ้น จากการเข้ามาทำงานของแรงงานต่างด้าวคงดำรงอยู่ เช่น ปัญหาด้านความมั่นคง ปัญหาด้านสังคม จิตวิทยา ตั้งแต่ปัญหาสาธารณสุข ปัญหาการปฏิบัติระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง ปัญหาด้านงบประมาณ ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในมิติด้านสิทธิมนุษยชนและการค้าระหว่างประเทศ
ในสมัยรัฐบาลที่ผ่านมา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ผ่านพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2551 มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2551 โดยสาระสำคัญของ พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวครอบคลุมถึงการบริหารงานแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองด้วย เพื่อเป็นการเชื่อมโยงการบริหารแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง โดยมติคณะรัฐมนตรี 14 ฉบับมาสู่ พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2551 ให้สังคมไทยได้เตรียมพร้อมตระหนัก และเรียนรู้การแก้ไขปัญหาร่วมกัน คณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร จึงได้มีมติให้จัดสัมมนาดังกล่าวขึ้น เพื่อพิจารณาหาข้อยุติ เสนอสภาผู้แทนราษฎรและคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณานำไปสู่การปฏิบัติให้บังเกิดผลต่อไป
