xs
xsm
sm
md
lg

แนะภูเก็ตจัดเก็บภาษีพิเศษ แก้ขาดงบพัฒนา-สางปัญหา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “พิสิฐ ลี้อาธรรม” ประธานคณะทำงานเศรษฐกิจมหภาค แนะภูเก็ตจัดเก็บภาษีพิเศษและค่าเหยียบแผ่นดิน จากนักท่องเที่ยว แก้ปัญหาขาดแคลนงบประมาณในการพัฒนาและแก้ปัญหาต่างๆ แทนที่จะรอการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลกลางเพียงอย่างเดียว

วันนี้ (11 ส.ค.) คณะทำงานคณะทำงานเศรษฐกิจมหาภาค การเงิน การคลัง สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งนำโดย ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม ประธานคณะทำงานฯ ได้เดินทางมายังจังหวัดภูเก็ต เพื่อดูงาน “ความสัมพันธ์ระหว่างเศรษฐกิจมหภาคของจังหวัดภูเก็ตกับเศรษฐกิจมหาภาคสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต โดยมีนายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชน หอการค้า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวภูเก็ต สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ เป็นต้น เข้าร่วม

ทั้งนี้ เพื่อรวบรวมข้อเท็จจริง ประเด็นปัญหา และข้อเสนอแนะจากการประชุมหารือและดูสภาพความจริงมาใช้เป็นข้อมูลประกอบ ในการจัดทำเป็นความเห็นและข้อเสนอแนะแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตที่ยั่งยืนต่อไป

อย่างไรก็ตาม คณะทำงานเศรษฐกิจมหาภาค การเงิน การคลังฯ ได้สอถามปัญหาต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ตในหลายประเด็นด้วยกัน เช่น การพัฒนาการท่องเที่ยวควบคู่กับการเกษตร การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่มนุษย์สร้างขึ้น การดูแลสิ่งแวดล้อม ปัญหาประชากรแฝง ปัญหาโครงการพัฒนาใหญ่ที่ยังไม่เกิดขึ้น ปัญหาคนต่างชาติในภูเก็ต ปัญหาโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่เพียงพอกับการขยายตัวด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ และโดยเฉพาะปัญหาขาดงบประมาณในการพัฒนาพื้นที่

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมนำเสนอปัญหา และได้ข้อสรุปว่า ภูเก็ตมีปัญหาที่เกิดจากการขยายตัวทางการท่องเที่ยวหลายๆ ปัญหาด้วยกัน แต่ปัญหาทั้งหมดยังไม่ได้รับการแก้ไข เนื่องจากขาดงบประมาณในการพัฒนา

นายภูริต มาศวงษ์ศา อุปนายกฝ่ายการตลาดต่างประเทศ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ในภูเก็ตขณะนี้ไม่เพียงพอในการรองรับประชากรจากต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานในภูเก็ตและนักท่องเที่ยว ที่เข้ามาปีละ 5 ล้านคน ทำให้ภูเก็ตมีปัญหาประชากรแฝงเป็นจำนวนมาก ภูเก็ตมีประชากรตามทะเบียนบ้าน 3 แสนกว่าคน ประชากรแฝงไม่ต่ำกว่า 3 แสนคน นักท่องเที่ยวปีละ 5 ล้านคน เฉลี่ยในแต่ละเดือนภูเก็ตจะมีผู้ที่อยู่อาศัยไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน ทำให้เกิดปัญหาหลายๆ อย่าง ขยะเพิ่มขึ้น การจราจรติดขัด ปัญหาสังคม ปัญหาอาชญากรรม ฯลฯ

รวมทั้งโครงการขนาดใหญ่ที่จะดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาภูเก็ตจำนวนมากๆ ยังไม่เกิดขึ้น ทั้งนี้ปัญหาเกิดจากภูเก็ตไม่ได้รับการดูแลจากรัฐบาลในการจัดสรรงบประมาณพัฒนา เพราะการจัดสรรงบประมาณรัฐบาลดำเนินการเหมือนกันทั้งประเทศ โดยดูจากจำนวนประชากร พื้นที่ ซึ่งภูเก็ตเสียเปรียบมากเพราะมีประชากรตามทะเบียนบ้านแค่ 3 แสนกว่าคนเท่านั้น โดยที่รัฐบาลไม่ได้ดูจากรายได้ที่เกิดขึ้นจากการท่องเที่ยวของภูเก็ต

“ปีงบประมาณนี้เท่าที่ทราบ ภูเก็ตได้รับการจัดสรรงบประมาณในการพัฒนาแค่ 150 กว่าล้านบาทเท่านั้น ซึ่งไม่สามารถดำเนินการอะไรได้เลย แม้แต่จะให้เอกชนเข้ามาลงทุนก็ติดปัญหามากมาย” นายภูริต กล่าวในที่สุด

นายสรธรรม จินดา รองนายกอบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า ภูเก็ตจำเป็นต้องให้รัฐบาลเข้ามาดูแลด้านการท่องเที่ยว โดยการจัดสรรงบประมาณมาดำเนินการในด้านต่างๆ ซึ่งงบประมาณที่ท้องถิ่นมีอยู่นั้นไม่เพียงพอในการพัฒนา งบประมาณของท้องถิ่นส่วนใหญ่จะใช้ไปในเรื่องของการดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน งบที่จะนำมาพัฒนานั้นมีน้อยมาก ตอนนี้ภูเก็ตทำได้แค่การพยุงไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายไปกว่านี้ การจัดสรรงบประมาณของรัฐโดยการพิจารณาจากจำนวนประชากรนั้นไม่น่าที่จะเหมาะสมกับภูเก็ต รัฐบาลน่าที่จะดูจากรายได้ที่เกิดขึ้นจากภูเก็ตและความจำเป็นในการพัฒนาและแก้ปัญหาต่างๆ

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ปัญหาของภูเก็ตที่สะสมจนไม่รับการแก้ไขมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะขาดแคลนงบประมาณในการพัฒนาแก้ไขปัญหา ปีนี้ภูเก็ตมีงบประมาณที่จะมาพัฒนาแค่ 150 กว่าล้านบาทเท่านั้น งบอื่นๆ ที่ขอไปถูกตัดทั้งหมด

ส่วนงบประมาณของท้องถิ่นทั้ง 19 แห่ง รวมกันไม่น่าจะเกิน 2,000 ล้านบาท ซึ่งต้องใช้ในการดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นส่วนใหญ่ ที่เหลือเพื่อการพัฒนาน้อยมาก ส่วนงบที่จะได้รับการจัดสรรมาพัฒนาตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้นั้นไม่มีเลย ทั้งที่โครงการขนาดใหญ่ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้า รถไฟฟ้ารางเบา ถนนสายหลักที่ 2 โครงการก่อสร้างทางลอด-ทางยกระดับตามแยกที่มีการจราจรติดขัด รวมถึงโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต ทางจังหวัดได้มีการศึกษาไว้ทั้งหมดแล้ว รอเพียงให้รัฐบาลหยิบของโครงการมาดำเนินการเท่านั้น

ด้าน ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม ประธานคณะทำงานฯ กล่าวว่า ไม่อยากให้ภูเก็ตรองบประมาณจากรัฐบาลกลางเท่านั้น เพราะการที่จะได้งบประมาณมาพัฒนานั้นยากมาก เนื่องจากการจัดสรรงบประมาณรัฐบาลไม่ค่อยจะให้ความสำคัญ ต่อจังหวัดที่เศรษฐกิจดูอยู่แล้ว แต่จะไปดูแลในจังหวัดที่ยากจนก่อน ซึ่งภูเก็ตจะต้องพึงพาตนเองมากกว่าที่รอการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาล และเห็นว่าภูเก็ตมีช่องทางในการที่จะหารายได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องพึงพางบประมาณจากรัฐบาลกลางทั้งหมด เช่น การจัดเก็บภาษีพิเศษ ภาษีการค้าเพิ่มขึ้นอีก 1-2% รวมไปถึงการจัดเก็บค่าเหยียบแผ่นดินเหมือนที่ลาวดำเนินการ ซึ่งคิดว่านักท่องเที่ยวที่มาภูเก็ตมีกำลังเพียงพอ ที่จะจ่ายค่าเหยียบแผ่นดินและภาษีอื่นๆ ที่เพิ่มสูงขึ้น

ดร.พิสิฐ กล่าวเพิ่มว่า ภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชาวต่างชาติ รวมไปถึงบุคคลสำคัญๆ เข้ามาพักผ่อนเป็นจำนวนมาก ดังนั้น ภูเก็ตจะต้องมีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยว รวมไปถึงการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ที่ถือว่าสำคัญมาก เพราะหากเกิดอะไรขึ้นก็จะสร้างความเสียหายให้กับการท่องเที่ยวของภูเก็ตได้
กำลังโหลดความคิดเห็น