กระบี่ - ปชช.กระบี่ ต้องการให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เห็นด้วยกับ 6 มาตรการ 6 เดือน ฝ่าวิกฤตเพื่อคนไทยทุกคน เพื่อช่วยเหลือประชาชนของรัฐบาล ชี้แค่ทำให้ดูดี
นายไพโรจน์ อนุกูล อายุ 42 ปี อาชีพขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลออกมาตรการ 6 เดือน 6 มาตรการ เป็นการช่วยเหลือประชาชน ตนไม่เห็นด้วย เพราะไม่ได้เป็นการช่วยแก้ไขปัญหาอย่างถาวร ซึ่งสามารถช่วยเหลือประชาชนได้เพียงเบื้องต้นเท่านั้น จึงไม่สามารถสรุปได้ว่าประชาชนที่หาเช้ากินค่ำจะลืมตาอ้าปากได้ จากมาตราการที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ในขณะนี้ การลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าของครัวเรือน สำหรับครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน ภาครัฐจะลดภาระค่าใช้จ่าย 2 กรณี คือ หากใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 80 หน่วยต่อเดือน ภาครัฐจะรับภาระค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด
และกรณีใช้ไฟฟ้าเกินกว่า 80 หน่วยต่อเดือน แต่ไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน ภาครัฐจะรับภาระค่าใช้จ่ายให้ครึ่งหนึ่งของค่าไฟฟ้าทั้งหมด ซึ่งประชาชนได้รับประโยชน์เพียงระยะสั้นเท่านั้น มีส่วนน้อยมากที่ประชาชนจะใช้ไม่เกิน 80 หน่วย ส่วนใหญ่แล้วเกินทั้งนั้น ถึงแม้รัฐบาลจะประกาศออกมาว่ารัฐบาลจะจ่ายค่าไฟฟ้าให้ครึ่งสำหรับประชาชนที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 80 หน่วยก็ตาม เงินที่เหลือก็สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันอย่างอื่นได้อีก เท่าที่ติดตามข่าวสารมารัฐบาลชุดนี้จะมุ่งที่จะช่วยเหลือนักธุรกิจและพวกพ้องนักการเมือง ด้วยกันทั้งสิ้น
นายพรพัฒน์ สวัสดิ์พิชัย อายุ 31 ปี พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า ตนเองไม่เห็นด้วยกับ 6 มาตรการ ที่ทางรัฐบาลดำเนินการมาทั้งหมด ทั้งในส่วนมาตรการอื่นๆ ก็ไม่ได้ช่วยเหลือประชาชนอะไรมากนัก ถามว่า รัฐบาลจะเอาเงินถุงเงินถังมาจากไหน มาจ่ายให้กับประชาชนทั่วทั้งประเทศไทย ถามว่า รัฐบาลชุดนี้มีหนี้สินหรือไม่ คิดว่ามีแล้วยังออกมาตรการ เพิ่มหนี้สินให้กับรัฐบาลอีก แทนที่จะหามาตรการแก้ไขปัญหาในระยะยาว เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศได้รับประโยชน์ทั้งด้านเศรษฐกิจ และค่าครองชีพ ให้มีความสมดุลกับรายรับรายจ่ายในปัจจุบัน รัฐบาลชุดนี้กำลังเรียกประชานิยมจากประชาชนทั่วทั้งประเทศ เป็นการสร้างเครือข่ายประชานิยมให้กับรัฐบาล แต่เป็นการสร้างประชานิยมที่ประชาชนจะเดือดร้อนในอนาคตทุกสาขาอาชีพ และตกไปสู่ลูกหลานของคนไทยทุกคน ทำไมรัฐบาลชุดนี้ไม่คิดที่จะแก้ไขปัญหาในระยะยาวเสียที
นายอภิสิทธิ์ เชษฐเผ่าพันธ์ อายุ 57 ปี อาชีพค้าขาย เปิดเผยว่า การลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าของครัวเรือน สำหรับครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน ภาครัฐจะลดภาระค่าใช้จ่าย 2 กรณี คือ หากใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 80 หน่วยต่อเดือน ภาครัฐจะรับภาระค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด และกรณีใช้ไฟฟ้าเกินกว่า 80 หน่วยต่อเดือน แต่ไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน ภาครัฐจะรับภาระค่าใช้จ่ายให้ครึ่งหนึ่งของค่าไฟฟ้าทั้งหมด เห็นด้วยเพราะประชาชนได้รับประโยชน์ แต่ไม่ใช่วีธีการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้เป็นรูปธรรม และเป็นการหาเสียงของกลุ่มนักการเมืองที่หวังประโยชน์ทางการเมืองเท่านั้น ไม่ได้หวังที่จะช่วยเหลือประชาชนอย่างจริงจัง 6 มาตรการที่รัฐบาลประการประกาศใช้ในการช่วยเหลือประชาชน เพื่อลดภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน เป็นการสร้างกระแสให้กับรัฐบาลดูดีเท่านั้น
เพราะปัจจุบันรัฐบาลยังมีปัญหาที่สะสมอยู่หลายเรื่อง ที่จะต้องให้คำตอบแก่ประชาชนทั่วทั้งประเทศ ถึงการปกครองประเทศ ทำไมถึงมีความรุนแรงเกิดขึ้นในประเทศไทย อย่างเช่นที่จังหวัดอุดรธานี และหลายๆ จังหวัดทั่วทุกภาค รัฐบาลไม่เคยให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้แต่ครั้งเดียว 6 มาตรการที่รัฐบาลประกาศใช้ในระยะเวลา 6 เดือนนั้นดีจริงหรือ ประชาชนได้รับประโยชน์แค่ไหน ทำไมรัฐบาลไม่แก้ไขปัญหาให้ตรงจุดและได้ผลในระยะยาว เช่นการแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันที่มีราคาสูงขึ้น ให้ลดลงราคาสูงภาวะปกติ ยังดีกว่ามาตรการที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้
นายไพโรจน์ อนุกูล อายุ 42 ปี อาชีพขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลออกมาตรการ 6 เดือน 6 มาตรการ เป็นการช่วยเหลือประชาชน ตนไม่เห็นด้วย เพราะไม่ได้เป็นการช่วยแก้ไขปัญหาอย่างถาวร ซึ่งสามารถช่วยเหลือประชาชนได้เพียงเบื้องต้นเท่านั้น จึงไม่สามารถสรุปได้ว่าประชาชนที่หาเช้ากินค่ำจะลืมตาอ้าปากได้ จากมาตราการที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ในขณะนี้ การลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าของครัวเรือน สำหรับครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน ภาครัฐจะลดภาระค่าใช้จ่าย 2 กรณี คือ หากใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 80 หน่วยต่อเดือน ภาครัฐจะรับภาระค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด
และกรณีใช้ไฟฟ้าเกินกว่า 80 หน่วยต่อเดือน แต่ไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน ภาครัฐจะรับภาระค่าใช้จ่ายให้ครึ่งหนึ่งของค่าไฟฟ้าทั้งหมด ซึ่งประชาชนได้รับประโยชน์เพียงระยะสั้นเท่านั้น มีส่วนน้อยมากที่ประชาชนจะใช้ไม่เกิน 80 หน่วย ส่วนใหญ่แล้วเกินทั้งนั้น ถึงแม้รัฐบาลจะประกาศออกมาว่ารัฐบาลจะจ่ายค่าไฟฟ้าให้ครึ่งสำหรับประชาชนที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 80 หน่วยก็ตาม เงินที่เหลือก็สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันอย่างอื่นได้อีก เท่าที่ติดตามข่าวสารมารัฐบาลชุดนี้จะมุ่งที่จะช่วยเหลือนักธุรกิจและพวกพ้องนักการเมือง ด้วยกันทั้งสิ้น
นายพรพัฒน์ สวัสดิ์พิชัย อายุ 31 ปี พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า ตนเองไม่เห็นด้วยกับ 6 มาตรการ ที่ทางรัฐบาลดำเนินการมาทั้งหมด ทั้งในส่วนมาตรการอื่นๆ ก็ไม่ได้ช่วยเหลือประชาชนอะไรมากนัก ถามว่า รัฐบาลจะเอาเงินถุงเงินถังมาจากไหน มาจ่ายให้กับประชาชนทั่วทั้งประเทศไทย ถามว่า รัฐบาลชุดนี้มีหนี้สินหรือไม่ คิดว่ามีแล้วยังออกมาตรการ เพิ่มหนี้สินให้กับรัฐบาลอีก แทนที่จะหามาตรการแก้ไขปัญหาในระยะยาว เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศได้รับประโยชน์ทั้งด้านเศรษฐกิจ และค่าครองชีพ ให้มีความสมดุลกับรายรับรายจ่ายในปัจจุบัน รัฐบาลชุดนี้กำลังเรียกประชานิยมจากประชาชนทั่วทั้งประเทศ เป็นการสร้างเครือข่ายประชานิยมให้กับรัฐบาล แต่เป็นการสร้างประชานิยมที่ประชาชนจะเดือดร้อนในอนาคตทุกสาขาอาชีพ และตกไปสู่ลูกหลานของคนไทยทุกคน ทำไมรัฐบาลชุดนี้ไม่คิดที่จะแก้ไขปัญหาในระยะยาวเสียที
นายอภิสิทธิ์ เชษฐเผ่าพันธ์ อายุ 57 ปี อาชีพค้าขาย เปิดเผยว่า การลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าของครัวเรือน สำหรับครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน ภาครัฐจะลดภาระค่าใช้จ่าย 2 กรณี คือ หากใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 80 หน่วยต่อเดือน ภาครัฐจะรับภาระค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด และกรณีใช้ไฟฟ้าเกินกว่า 80 หน่วยต่อเดือน แต่ไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน ภาครัฐจะรับภาระค่าใช้จ่ายให้ครึ่งหนึ่งของค่าไฟฟ้าทั้งหมด เห็นด้วยเพราะประชาชนได้รับประโยชน์ แต่ไม่ใช่วีธีการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้เป็นรูปธรรม และเป็นการหาเสียงของกลุ่มนักการเมืองที่หวังประโยชน์ทางการเมืองเท่านั้น ไม่ได้หวังที่จะช่วยเหลือประชาชนอย่างจริงจัง 6 มาตรการที่รัฐบาลประการประกาศใช้ในการช่วยเหลือประชาชน เพื่อลดภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน เป็นการสร้างกระแสให้กับรัฐบาลดูดีเท่านั้น
เพราะปัจจุบันรัฐบาลยังมีปัญหาที่สะสมอยู่หลายเรื่อง ที่จะต้องให้คำตอบแก่ประชาชนทั่วทั้งประเทศ ถึงการปกครองประเทศ ทำไมถึงมีความรุนแรงเกิดขึ้นในประเทศไทย อย่างเช่นที่จังหวัดอุดรธานี และหลายๆ จังหวัดทั่วทุกภาค รัฐบาลไม่เคยให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้แต่ครั้งเดียว 6 มาตรการที่รัฐบาลประกาศใช้ในระยะเวลา 6 เดือนนั้นดีจริงหรือ ประชาชนได้รับประโยชน์แค่ไหน ทำไมรัฐบาลไม่แก้ไขปัญหาให้ตรงจุดและได้ผลในระยะยาว เช่นการแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันที่มีราคาสูงขึ้น ให้ลดลงราคาสูงภาวะปกติ ยังดีกว่ามาตรการที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้