xs
xsm
sm
md
lg

กรมควบคุมมลพิษพร้อมรับมือหมอกควันข้ามแดน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต -กรมควบคุมมลพิษ รับมือสถานการณ์ปัญหามลพิษหมอกควันข้ามแดนจากไฟป่าในประเทศอินโดนีเซีย สู่ภาคใต้ฝั่งอันดามัน หลังพบแนวโน้มเดือนก.ย. มีหมอกควันเข้ามาก เผยสถานการหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือปี 50 สร้างความเสียหายให้กับการท่องเที่ยวกว่า 2 หมื่นล้านบาท

พลตรีอินทรัตน์ ยอดบางเตย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวภายหลังการเป็นประธานเปิดการประชุม การเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ปัญหามลพิษหมอกควันข้ามแดน จากไฟป่าในประเทศอินโดนีเซียสู่ภาคใต้ฝั่งอันดามันของประเทศไทย ซึ่งกรมควบคุมมลพิษ จัดขึ้น ที่โรงแรมเซ็นทารา กะรนรีสอร์ท จ.ภูเก็ต เพื่อเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหามลพิษหมอกควันข้ามแดน รวมทั้งการเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเป็นการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการรับมือต่อสถานการณ์หมอกควัน เพื่อลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นให้เหลือน้อยที่สุด

ทั้งนี้ มีหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เช่น ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เป็นต้น เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า เนื่องจาก กรมควบคุมมลพิษพิจารณาว่า การแพร่กระจายของหมอกควันจากประเทศอินโดนีเซียมายังประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน ในช่วงที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว และปัญหาด้านสุขภาพของประชาชน จึงได้มีการจัดสัมมนาเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวขึ้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม รับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวที่จะเกิดขึ้น

"ปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นผลมาจากการเกิดไฟไหม้ป่า ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งในเรื่องนี้ก็ได้มีการประสานกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะสิงคโปร์ ซึ่งได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือ โดยเฉพาะในช่วงประมาณเดือนกันยายนนี้"

พลตรีอินทรัตน์ กล่าวถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น จากการเกิดหมอกควันในช่วงที่ผ่านมา ว่า ในพื้นที่ จ.ภูเก็ตยังไม่ได้มีการประเมินความเสียหาย แต่ในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งได้รับผลกระทบเช่นกันมีความเสียหายเกิดขึ้นเมื่อปี 2550 จำนวนประมาณ 20,000 ล้านบาท และนอกจากผลกระทบทางด้านการท่องเที่ยวแล้ว ยังส่งผลกระทบในด้านสุขภาพด้วย จึงได้เชิญหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขเข้าร่วมในการประชุมวางแผนด้วย

ในขณะที่นางมิ่งขวัญ วิชยารังสฤษดิ์ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวถึงสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ภาคใต้ ว่า ในปี 2549 ภาคใต้ได้รับกระทบจากมลพิษหมอกควันข้ามแดนตั้งแต่เดือนกรกฎาคม แต่อย่างไรก็ตามปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก ยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ยกวันวันที่ 16 กรกฎาคม 2549 ที่ปริมาณฝุ่นละอองมีค่าเท่ากับ 127 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งขณะนี้ก็เริ่มที่จะเข้าสู่ฤดูแล้ง จึงจำเป็นที่จะต้องมีการสร้างความรู้ความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

จากที่ได้มีการคาดการณ์ว่าในช่วงหลังเดือนกันยายน จะการเกิด EI Nino ได้ เนื่องจากมีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีอิทธิพลจนถึงสิ้นเดือนกันยายน พื้นที่ส่วนใหญ่ของภูมิภาคคาดการณ์ว่ามีปริมาณน้ำฝนลดลง เนื่องจากเข้าสู่ฤดูแล้ง และคาดว่าสภาพอากาศจะแล้งกว่าช่วงเดียวกันในปี 2550 และคาดการณ์สถานการณ์หมอกควัน ในภูมิภาคปัจจุบันถึงกันยายนนี้ Hotspot ในสุมาตรา บอร์เนียว และมาเลเซียเพิ่มจำนวนขึ้น เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ฤดูแล้ง จึงค่อนข้างที่จะน่าห่วง

อย่างไรก็ตาม นางมิ่งขวัญ กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า ได้มีการแจ้งให้หน่วยงานท้องถิ่นเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรับมือต่อสถานการณ์หมอกควันที่อาจเกิดขึ้น มีการจัดส่งหน่วยตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบเคลื่อนที่ไปยังจังหวัดตรังและสตูล เพิ่มเติมจาก 5 สถานีที่มีอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ได้แก่ สุราษฎร์ธานี สงขลา ภูเก็ต ยะลาและนราธิวาส เพื่อติดตามตรวจสอบปริมาณฝุ่นอย่างใกล้ มีการรายงานข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์ www.pcd.go.th

นอกจากนี้จากการที่ได้มีการดำเนินงานตามข้อตกลงอาเซียน เรื่องมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน การดำเนินงานตามมติที่ประชุมรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม 5 ประเทศ ประกอบด้วย บรูไน สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซียและไทย เรื่องมลพิษหมอกควันข้ามแดน และการประชุมคณะทำงานภายใต้รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม 5 ประเทศ และประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม 5 ประเทศ เรื่องมลพิษหมอกควันข้ามแดน และการประชุมคณะทำงานภายใต้รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม 5 ประเทศ ครั้งที่ 6 ในช่วงประมาณเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น