xs
xsm
sm
md
lg

ชาวสงขลาขานรับนั่งรถไฟฟรี - ติงโรค ศก.อาจดื้อยาจากการแจกของฟรี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – ชาวสงขลา เห็นด้วยกับการให้บริการรถไฟชั้น 3 ฟรี ฝ่าวิกฤตเพื่อคนไทย แบ่งเบาภาระ แต่อาจจะเป็นยาพิษหากประชาชนเรียกร้องหลังจากหมดโควตา 6 เดือน

การให้บริการรถไฟชั้น 3 ฟรีทุกเส้นทางทั่วประเทศโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็น 1 ใน 6 มาตรการ 6 เดือน ฝ่าวิกฤตเพื่อไทยทุกคนที่รัฐบาลนำมาใช้เพื่อแบ่งเบาภาระของประชาชนในยุคที่ค่าครองชีพสูงขึ้น ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณในมาตรการนี้ทั้งสิ้นกว่า 46,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ เพราะรถไฟถือเป็นการคมนาคมสาธารณที่มีประชาชนใช้บริการมากที่สุด เนื่องจากอัตราค่าบริการถูกกว่าค่าโดยสารประเภทอื่นหากเทียบกับการเดินทางในระยะทางที่เท่ากัน และยังครอบคลุมพื้นที่ทั่วทุกภาคของประเทศ และนี่คือบริการสาธารณะซึ่งเป็นที่พึ่งของประชาชนผู้มีรายได้น้อยอย่างแท้จริง

รถไฟสายใต้เป็นอีกหนึ่งเส้นทางสายหลักที่มีจำนวนผู้ใช้บริการค่อนข้างหนาแน่น ปัจจุบันมีขบวนรถไฟทั้งขาขึ้นและขาล่องสายใต้ระหว่างสถานีกรุงเทพฯ-หาดใหญ่ และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งหมด 3 ขบวนต่อวัน ที่ให้บริการรถไฟตั้งแต่ชั้น 1 ชั้น 2 และชั้น 3 ประกอบด้วยขบวนรถเร็ว 2 ขบวน ขบวนรถด่วน 1 ขบวน โดยอัตราค่าโดยสารชั้น 3 ของขบวนรถเร็วปลายทางหาดใหญ่ 259 บาท ปลายทางสุไหงโก-ลก 290 บาท ในขณะที่อัตราค่าโดยสารชั้น 3 รถด่วนปลายทางหาดใหญ่ 370 บาท ปลายทางสุไหงโก-ลก 339 บาท

ทันทีที่รัฐบาลแถลงมาตรการบริการรถไฟชั้น 3 ฟรีทั่วประเทศดูเหมือนว่าจะโดนใจผู้ใช้บริการรถไฟ และมีเสียงสะท้อนออกมาในแง่บวกแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แค่ 6 เดือน ก็ตาม น.ส.วิภารัตน์ ประทุม นักศึกษาที่ใช้บริการรถไฟ กล่าวว่า การให้บริการรถไฟชั้น 3 ฟรีนั้นจะสามารถช่วยเหลือประชาชนได้ทุกกลุ่มทั้งผู้มีรายได้น้อย นักศึกษา หรือแม้แต่ชนชั้นกลางรวมถึงข้าราชการ และหากเป็นไปได้อยากให้รัฐบาลขยายระยะเวลาออกไปอีกไม่ใช้แค่ 6 เดือน เพราะอย่างน้อยรถไฟเป็นบริการสาธารณที่มุ่งเน้นให้บริการประชาชนเป็นหลักอยู่แล้วมากกว่าที่จะแสวงหากำไร จึงควรกำหนดเป็นมาตรการระยะยาว

ในขณะที่ นางศรีสุดา ขาวอินทร์ อาชีพข้าราชการมองว่า ประชาชนจะสามารถประหยัดเงินในการเดินทางได้อีกส่วนหนึ่งแม้จะไม่มาก แต่ในยุคข้าวยากหมากแพงเงินทุกบาททุกสตางค์มีค่า การเดินทางแต่ละครั้งสามารถนำเงินส่วนนี้ไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในการเดินทางซึ่งจะช่วยได้มากโดยเฉพาะหากเดินทางหลายๆ คนในครอบครัวเดียวกัน และเชื่อว่าแม้จะโดยสารรถไฟชั้น 3 ฟรีแต่จำนวนผู้โดยสารรถไฟชั้น 3 ไม่น่าจะเพิ่มขึ้นเพราะกลุ่มผู้ที่ใช้บริการรถไฟชั้น 3 นั้นเป็นกลุ่มเดิมคือผู้มีรายได้น้อย ส่วนผู้ที่พอมีฐานะก็น่าจะใช้บริการรถไฟชั้น 1 และชั้น 2 เหมือนเดิม

ในขณะที่ นายพรเทพ ทองฤทธิ์ กลับมองว่า นี่คือยาแรงที่รัฐบาลฉีดให้กับประชาชน ซึ่งอาจจะช่วยให้หายเจ็บในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้นแต่ในความเป็นจริงแล้วโรคร้ายที่มีสาเหตุมาจากพิษเศรษฐกิจ ยังคงดำรงอยู่กับทุกๆ คนโดยเฉพาะประชาชนระดับรากหญ้า ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ และเมื่อต้องเผชิญกับสภาพความเป็นจริงในอีก 6 เดือนข้างหน้าซึ่งยาที่รัฐบาลฉีดหมดฤทธิ์
 

ถามว่าประชาชนจะรับกับความเป็นจริงได้หรือไม่ มาตรการบริการรถไฟชั้น 3 ฟรีหากมองเผินๆ นี่คือสิ่งที่ประชาชนจะได้รับประโยชน์โดยตรงและทันที แต่ถามว่าหากอีก 6 เดือนข้างหน้าหากรัฐบาลยังไม่สามารถแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจได้อะไรจะเกิดขึ้นหากประชาชนออกมารวมตัวเรียกร้องของฟรีหรือเรียกร้องให้มาตรการนี้คงอยู่ต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น