ผู้จัดการรายวัน - รัฐบาลเข็นมาตรการอุ้มรากหญ้า หมอเลี้ยบเผยแถลงหลังประชุม ครม.วันนี้ กระทรวงการคลังไม่พ้นลดภาษี ลือลดภาษีดีเซลเหลือ 0% ส่วนที่ได้ข้อสรุปไปก่อนหน้าคือลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน E85 เหลือ 50 สต./ลิตร แน่นอน พร้อมหาแนวทางคลอดคูปองช่วยคนจน เสียงอ่อย เศรษฐกิจครึ่งปีหลังน่าเป็นห่วง
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (15 ก.ค.) กระทรวงการคลังจะร่วมกับกระทรวงคมนาคมและกระทรวงพลังงาน เสนอมาตรการบรรเทาภาระของประชาชนยามค่าครองชีพสูงขึ้น เป็นลักษณะบูรณาการของหลายๆ กระทรวง ซึ่งเชื่อว่า จะมีพลังและได้ผลเป็นอย่างมาก สามารถทำให้ประชาชนรู้สึกว่า ความทุกข์ที่มีลดน้อยลง โดยกลุ่มเป้าหมายนั้น จะเป็นกลุ่มที่มีรายได้น้อยเป็นหลัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ากลุ่มอื่นๆจะไม่ได้รับประโยชน์ เพราะบางมาตรการจะมีผลดีต่อประชาชนโดยทั่วไปด้วย
ทั้งนี้ มาตรการต่างๆ ที่จะประกาศออกมานั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังมากนัก แม้จะมีมาตรการทางภาษีร่วมอยู่ด้วย โดยที่ชัดเจนและได้ข้อสรุปมาตรการทางภาษีคือการลดภาษีสรรพสามิตสำหรับก๊าซโซฮอล์ อี 85 จาก 2.5795 บาท/ลิตร ลงมาเหลือ 0.50 บาท/ลิตร ช่วยทำให้ประชาชนสามารถมีความหวัง และเพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์และความเดือดร้อนในภาวะเงินเฟ้อเพิ่ม และค่าครองชีพที่สูงขึ้นในปัจจุบัน
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันทุกตัวในวันนี้โดยเฉพาะดีเซลอาจเหลือ 0 สตางค์ต่อลิตร นพ.สุรพงษ์กล่าวเพียงว่า มาตรการทางภาษีที่จะออกมา จะไม่เกี่ยวข้องกับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ที่โดยหลักการก็ไม่สามารถปรับลดได้ในภาวการณ์ปัจจุบันเช่นเดียวกัน
"พรุ่งนี้ (15 ก.ค.) ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี จะร่วมกับรัฐมนตรีประจำกระทรวงที่เกี่ยวข้อง แถลงมาตรการช่วยเหลือประชาชน" รมว.คลังกล่าว
ในส่วนของกระทรวงการคลังนอกจากเรื่องภาษีแล้ว นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า ยังมี โครงการแจกคูปองช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยนั้น ก็เป็นแนวคิดที่ต้องการจะช่วยเหลือคนยากจน ซึ่งได้มีการหารือร่วมกันกับหลายๆ ฝ่ายมาเป็นระยะเวลาถึง 3 สัปดาห์แล้ว และจะมีการหารือกับที่ประชุมคณะรัฐมนตรีด้วย เชื่อว่ามาตรการที่จะประกาศออกมา จะสามารถเป็นคำตอบและสร้างความชัดเจนได้พอสมควร ช่วยผ่อนคลายการเข้าสู่ปัญหาเงินฝืดในอนาคตได้
นพ.สุรพงษ์กล่าวถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง แม้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรกจะเติบโตได้ถึง 6% แต่มีความน่าเป็นห่วง รัฐบาลจึงต้องออกมาตรการระยะสั้นเร็วขึ้นกว่าเดิม
***เดินหน้า "ร้าน 30 บาททุกชิ้น"
นพ.สุรพงษ์กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดงาน "มหกรรมมั่นใจไทยแลนด์ ดีแน่ ถูกแน่ เพื่อคนไทย" ระหว่างวันที่ 17 – 20 กรกฎาคมนี้ ที่เมืองทองธานี ว่า งานดังกล่าวจัดขึ้น เพื่อเป็นแหล่งพบกันระหว่างผู้ประกอบการรายย่อย ให้มีแหล่งจำหน่ายสินค้า ขณะที่ประชาชนผู้บริโภคจะได้มีสถานที่ซื้อสินค้าราคาเหมาะสม โดยภายในงานจะมีการนำร้านค้า 30 บาททุกชิ้น หรือ ร้าน 30 บาทช็อปมาร่วมงาน ซึ่งหลังจากจัดงานเสร็จแล้ว ได้มอบหมายให้กรมธนารักษ์ เตรียมหารือกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ปรับปรุงพื้นที่ใต้ทางด่วน จัดตั้งร้าน 30 บาทช็อป เพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยมีสถานที่จำหน่ายสินค้า และหากเอกชนรายใดต้องการสานต่อแนวคิดของรัฐบาลก็สามารถทำได้ โดยรัฐบาลจะคิดค่าเช่าพื้นที่ในราคาถูก.
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (15 ก.ค.) กระทรวงการคลังจะร่วมกับกระทรวงคมนาคมและกระทรวงพลังงาน เสนอมาตรการบรรเทาภาระของประชาชนยามค่าครองชีพสูงขึ้น เป็นลักษณะบูรณาการของหลายๆ กระทรวง ซึ่งเชื่อว่า จะมีพลังและได้ผลเป็นอย่างมาก สามารถทำให้ประชาชนรู้สึกว่า ความทุกข์ที่มีลดน้อยลง โดยกลุ่มเป้าหมายนั้น จะเป็นกลุ่มที่มีรายได้น้อยเป็นหลัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ากลุ่มอื่นๆจะไม่ได้รับประโยชน์ เพราะบางมาตรการจะมีผลดีต่อประชาชนโดยทั่วไปด้วย
ทั้งนี้ มาตรการต่างๆ ที่จะประกาศออกมานั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังมากนัก แม้จะมีมาตรการทางภาษีร่วมอยู่ด้วย โดยที่ชัดเจนและได้ข้อสรุปมาตรการทางภาษีคือการลดภาษีสรรพสามิตสำหรับก๊าซโซฮอล์ อี 85 จาก 2.5795 บาท/ลิตร ลงมาเหลือ 0.50 บาท/ลิตร ช่วยทำให้ประชาชนสามารถมีความหวัง และเพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์และความเดือดร้อนในภาวะเงินเฟ้อเพิ่ม และค่าครองชีพที่สูงขึ้นในปัจจุบัน
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันทุกตัวในวันนี้โดยเฉพาะดีเซลอาจเหลือ 0 สตางค์ต่อลิตร นพ.สุรพงษ์กล่าวเพียงว่า มาตรการทางภาษีที่จะออกมา จะไม่เกี่ยวข้องกับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ที่โดยหลักการก็ไม่สามารถปรับลดได้ในภาวการณ์ปัจจุบันเช่นเดียวกัน
"พรุ่งนี้ (15 ก.ค.) ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี จะร่วมกับรัฐมนตรีประจำกระทรวงที่เกี่ยวข้อง แถลงมาตรการช่วยเหลือประชาชน" รมว.คลังกล่าว
ในส่วนของกระทรวงการคลังนอกจากเรื่องภาษีแล้ว นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า ยังมี โครงการแจกคูปองช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยนั้น ก็เป็นแนวคิดที่ต้องการจะช่วยเหลือคนยากจน ซึ่งได้มีการหารือร่วมกันกับหลายๆ ฝ่ายมาเป็นระยะเวลาถึง 3 สัปดาห์แล้ว และจะมีการหารือกับที่ประชุมคณะรัฐมนตรีด้วย เชื่อว่ามาตรการที่จะประกาศออกมา จะสามารถเป็นคำตอบและสร้างความชัดเจนได้พอสมควร ช่วยผ่อนคลายการเข้าสู่ปัญหาเงินฝืดในอนาคตได้
นพ.สุรพงษ์กล่าวถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง แม้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรกจะเติบโตได้ถึง 6% แต่มีความน่าเป็นห่วง รัฐบาลจึงต้องออกมาตรการระยะสั้นเร็วขึ้นกว่าเดิม
***เดินหน้า "ร้าน 30 บาททุกชิ้น"
นพ.สุรพงษ์กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดงาน "มหกรรมมั่นใจไทยแลนด์ ดีแน่ ถูกแน่ เพื่อคนไทย" ระหว่างวันที่ 17 – 20 กรกฎาคมนี้ ที่เมืองทองธานี ว่า งานดังกล่าวจัดขึ้น เพื่อเป็นแหล่งพบกันระหว่างผู้ประกอบการรายย่อย ให้มีแหล่งจำหน่ายสินค้า ขณะที่ประชาชนผู้บริโภคจะได้มีสถานที่ซื้อสินค้าราคาเหมาะสม โดยภายในงานจะมีการนำร้านค้า 30 บาททุกชิ้น หรือ ร้าน 30 บาทช็อปมาร่วมงาน ซึ่งหลังจากจัดงานเสร็จแล้ว ได้มอบหมายให้กรมธนารักษ์ เตรียมหารือกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ปรับปรุงพื้นที่ใต้ทางด่วน จัดตั้งร้าน 30 บาทช็อป เพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยมีสถานที่จำหน่ายสินค้า และหากเอกชนรายใดต้องการสานต่อแนวคิดของรัฐบาลก็สามารถทำได้ โดยรัฐบาลจะคิดค่าเช่าพื้นที่ในราคาถูก.