นครศรีธรรมราช – พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางลงใต้แก้ปัญหาความยากจนให้ความช่วยเหลือชาวไร่ ชาวนา รวมทั้งลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา แนะไม่ต้องรองบรัฐบาล ให้เอกชน ชุมชน เข้ามามีส่วนร่วม
วันนี้ (15 ก.ค.) ที่โรงแรมทวินโลตัส อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเป็นประธานในการสัมมนาสมัชชาประชาชนเพื่อการพัฒนาประเทศ โดยมีผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยเข้าร่วมการสัมมนากว่า 20 คน ก่อนการสัมมนา พลเอกชวลิต ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ว่า ที่เดินทางมานั้นจะไปยังพื้นที่ ต.ควนชะลิก อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช มาติดตามเรื่องปัญหาความยากจนและให้ความช่วยเหลือโดยเฉพาะชาวนา และชาวไร่ และโดยเฉพาะนาข้าวนั้นส่งเสริมให้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพฟื้นชีวิตให้กับดิน ส่วนใหญ่ช่วงนี้ตนเองจะเดินทางไปติดตามเกี่ยวกับเรื่องนี้ เรื่องของความยากจนถือเป็นเรื่องสำคัญ
พลเอกชวลิต กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังจะเดินทางไปยัง จ.พัทลุง เพื่อติดตามเรื่องของการพัฒนาทะเลสาบสงขลา ความเป็นจริงนั้นพูดถึงกันนานแล้ว ในอดีตที่ผ่านมานั้น ต่างก็พูดกันไปคนละทางสภาพัฒน์ทำ สมัยตนนั้นใช้คนในพื้นที่เป็นหลักในการดำเนินการ เรื่องของความต้องการแนวทางการทำงาน ทุกวันนี้เมื่อพวกเราไม่อยู่จะมีปัญหาและไม่ได้รับการพัฒนา งบประมาณก็ไม่ได้ เมื่อปี 2545 ตนได้เริ่มมาทำเรื่องนี้จะเป็นเรื่องหนึ่ง และสิ่งที่สำคัญ คือ การเพ่งเล็งในเรื่องของชีวิตความเป็นอยู่
“เรื่องรัฐบาลนั้นคงไม่ต้องพูดถึง เรื่องเหล่านี้เราคงต้องร่วมกันจัดการกับประชาชนเองดีกว่า สรุปง่ายๆ ได้ว่าเราพยายามช่วยเหลือรัฐบาล หรือทุกคนที่มาทำหน้าที่บริหารบ้านเมือง ส่วนที่จะมาทุ่มเทให้กับชาวบ้านดีกว่า”
ต่อข้อถามหากดำเนินการเช่นนี้จำเป็นต้องใช้งบในการพัฒนาจากรัฐบาล พลเอกชวลิต กล่าวว่า ไม่จำเป็นองค์กรในการดำเนินงานนั้นมีมากเช่นเอกชน ชุมชน มีกองทุนของเขามีการดำเนินงานของเขา เท่าที่เราจะทำได้ตามความรู้ความสามารถตามประสบการ งบประมาณอีกส่วนภาคเอกชนมาช่วยเยอะวันนี้หรือในอนาคตจะเห็นว่างบประมาณของรัฐนั้นน้อยลง งบปีนี้ 1.85 ล้านล้านบาท ก็ไม่พอ วันนี้ความคิดของการดึงภาคเอกชนเข้ามาทำงานมีมากขึ้นส่วนตัวนั้นถือว่าเป็นเอกชนเช่นกัน
“วันนี้ไปไหนมาไหนต้องบอกให้พวกเราคนไทยนั้นรักแผ่นดิน แผ่นดินจะมีคุณค่ามากขึ้นวันนี้เช่นกันเรากำลังแก้ปัญหาใหญ่เรื่องนากุ้งร้าง ทำให้กลับมา ส่วนทุนอาหรับนั้นทราบว่าส่วนใหญ่นั้นไปแถวแอฟริกา ส่วนบ้านเรานั้นไม่น่าวิตกวันนี้ชาวนาชาวไร่ยังไม่ที่ดินทำกินเลย”
วันนี้ (15 ก.ค.) ที่โรงแรมทวินโลตัส อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเป็นประธานในการสัมมนาสมัชชาประชาชนเพื่อการพัฒนาประเทศ โดยมีผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยเข้าร่วมการสัมมนากว่า 20 คน ก่อนการสัมมนา พลเอกชวลิต ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ว่า ที่เดินทางมานั้นจะไปยังพื้นที่ ต.ควนชะลิก อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช มาติดตามเรื่องปัญหาความยากจนและให้ความช่วยเหลือโดยเฉพาะชาวนา และชาวไร่ และโดยเฉพาะนาข้าวนั้นส่งเสริมให้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพฟื้นชีวิตให้กับดิน ส่วนใหญ่ช่วงนี้ตนเองจะเดินทางไปติดตามเกี่ยวกับเรื่องนี้ เรื่องของความยากจนถือเป็นเรื่องสำคัญ
พลเอกชวลิต กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังจะเดินทางไปยัง จ.พัทลุง เพื่อติดตามเรื่องของการพัฒนาทะเลสาบสงขลา ความเป็นจริงนั้นพูดถึงกันนานแล้ว ในอดีตที่ผ่านมานั้น ต่างก็พูดกันไปคนละทางสภาพัฒน์ทำ สมัยตนนั้นใช้คนในพื้นที่เป็นหลักในการดำเนินการ เรื่องของความต้องการแนวทางการทำงาน ทุกวันนี้เมื่อพวกเราไม่อยู่จะมีปัญหาและไม่ได้รับการพัฒนา งบประมาณก็ไม่ได้ เมื่อปี 2545 ตนได้เริ่มมาทำเรื่องนี้จะเป็นเรื่องหนึ่ง และสิ่งที่สำคัญ คือ การเพ่งเล็งในเรื่องของชีวิตความเป็นอยู่
“เรื่องรัฐบาลนั้นคงไม่ต้องพูดถึง เรื่องเหล่านี้เราคงต้องร่วมกันจัดการกับประชาชนเองดีกว่า สรุปง่ายๆ ได้ว่าเราพยายามช่วยเหลือรัฐบาล หรือทุกคนที่มาทำหน้าที่บริหารบ้านเมือง ส่วนที่จะมาทุ่มเทให้กับชาวบ้านดีกว่า”
ต่อข้อถามหากดำเนินการเช่นนี้จำเป็นต้องใช้งบในการพัฒนาจากรัฐบาล พลเอกชวลิต กล่าวว่า ไม่จำเป็นองค์กรในการดำเนินงานนั้นมีมากเช่นเอกชน ชุมชน มีกองทุนของเขามีการดำเนินงานของเขา เท่าที่เราจะทำได้ตามความรู้ความสามารถตามประสบการ งบประมาณอีกส่วนภาคเอกชนมาช่วยเยอะวันนี้หรือในอนาคตจะเห็นว่างบประมาณของรัฐนั้นน้อยลง งบปีนี้ 1.85 ล้านล้านบาท ก็ไม่พอ วันนี้ความคิดของการดึงภาคเอกชนเข้ามาทำงานมีมากขึ้นส่วนตัวนั้นถือว่าเป็นเอกชนเช่นกัน
“วันนี้ไปไหนมาไหนต้องบอกให้พวกเราคนไทยนั้นรักแผ่นดิน แผ่นดินจะมีคุณค่ามากขึ้นวันนี้เช่นกันเรากำลังแก้ปัญหาใหญ่เรื่องนากุ้งร้าง ทำให้กลับมา ส่วนทุนอาหรับนั้นทราบว่าส่วนใหญ่นั้นไปแถวแอฟริกา ส่วนบ้านเรานั้นไม่น่าวิตกวันนี้ชาวนาชาวไร่ยังไม่ที่ดินทำกินเลย”
