กระบี่ - กองปราบปรามแกะรอยตามรวบพ่อใจบาปฆ่าลูกเมียหมกบ่อเขลอะ นาน 2 ปี
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (11 ก.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธร อ่าวลึก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ พล.ต.ต.พงศพัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.ปราบปราม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประยนต์ ลาเสือ รอง ผบก.ป พ.ต.อ.ฐิติราช หนองหาพิทักษ์ รอง ผบก.ป.พ.ต.อ.กิตติ สะเภาทอง ผกก.ฝป.8 พ.ต.อ.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ ผกก.ฝป.4 ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้า คดีฆ่า 2 แม่ลูกหมกบ่อพักอุจจาระ ที่ข้างบ้านเลขที่ 59 ม.3 ต.อ่าวลึกเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ โดยเจ้าหน้าที่ขุดพบโครงกระดูกทั้งสอง ที่ข้างบ้านเลขที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านของ นายประสิทธิ์ บุญคง อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ ดังกล่าวมาทำการสอบสวน
โดยมี พล.ต.ต.พศิน นกสกุล ผบก.ภ.จว.กระบี่ และ พ.ต.อ.วิจิตร ผลส่ง ผกก.สภ.อ่าวลึก และเจ้าหน้าที่วิทยาการจังหวัด ร่วมรายงานความคืบหน้าของคดี หลังจากเจ้าขุดพบโครงกระดูก เมื่อเย็นวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเป็นศพสองแม่ลูกที่หายตัวไป
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตัว นายประสิทธิ์ สามีผู้ตาย มาทำการสอบสวน ที่ สภ.อ่าวลึก โดย พล.ต.ต.พงศพัฒน์ ได้ทำการสอบสวนด้วยตัวเอง ในตอนแรก ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ จนกระทั่งถูกสอบเค้นหนักเข้าจน ผู้ต้องหาจึงให้การรับสารภาพอย่างหน้าตาเฉยว่า เป็นคนลงมือฆ่า ทั้งลูกชาย และภรรยา แต่ทำไปด้วยความโกรธ
ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังนั่งกินข้าวอยู่ในบ้าน พลางบ่นพึมพำเรื่องเงินที่ภรรยาฯผู้ตาย เอาไปให้แม่ที่จังหวัดอุดร แต่ภรรยาก็ได้ต่อว่ากลับ และใช้ไม้กวาดตีศีรษะ นายประสิทธิ์ ทำให้นายประสิทธิ์ โมโห จึงได้ใช้ไม้หน้า 3 ทุบตี ทั้งเมียและลูก จนเสียชีวิตต่อหน้าต่อตา ก่อนอุ้มศพภรรยาไปทิ้งในบ่อพักอุจจาระ ข้างบ้านเลขที่ 59 ม.3 ต.อ่าวลึกน้อย ซึ่งห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 150 เมตร
หลังจากนั้น ก็นำศพลูกชายไปใส่ถุงปุ๋ย และนำมาทิ้งลงในบ่อพักอุจระเช่นกัน และได้เอาฝามาปิดและเอาดินกลบอีกครั้ง ก่อนหลบหนีไปอยู่ที่บ้านญาติที่จังหวัดตรัง และได้บวชอยู่ประมาณ 10 วันก่อนกลับมาทางานที่อ่าวลึกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
กระทั่งจนเวลาผ่านไป 2 ปี เจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าทำการจับกุมตัวได้ในที่สุด เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำสารภาพร้อมทั้งขอขมาศพ ต่อหน้าพ่อแม่ ผู้ตาย ท่ามกลางไทยมุงนับ 100 คน
พล.ต.ต.พงศพัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2549 นางสมัย แพทย์จันลา อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 148 ม.2 ต.หมูหม่น อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.อ่าวลึก จ.กระบี่ว่า ลูกสาวของตนทราบชื่อ คือ นางลำใย แพทย์จันร์ลา อายุ 36 ปี และ ด.ช.พรเทพ บุญคง หลานชาย วัย 2 ขวบครึ่ง ได้หายตัวไป โดยก่อนเกิดเหตุลูกสาวของตน บอกว่าจะกลับไปเยี่ยมตนที่จังหวัดอุดร แต่พอถึงเวลาลูกสาวของตนก็ยังไม่กลับไปที่บ้านแต่อย่างใด จึงได้ตามลงมาที่ บ้านของลูกสาว ซึ่งมาอยู่กับสามี คือ นายประสิทธิ์ ที่ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ แต่ก็ไม่พบตัวลูกสาวแต่อย่างใด จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความดังกล่าว จนกระทั่งเวลาผ่านไป ประมาณ 2 ปี
ต่อมาวันที่ 15 มีนาคม 2551 นางสมัย ก็ได้เข้าร้องทุกข์กับ พล.ต.ต.พงศพัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.กองปราบปราม พร้อมเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง พร้อมทั้งระบุว่าลูกสาวและหลานสาวของตนน่าจะเสียชีวิตแล้ว หลังทราบเรื่องราวทั้งหมด พล.ต.ต.พงศพัฒน์ ก็สั่งการให้ พ.ต.อ.ประยนต์ ลาเสือ รอง ผบก.ป พ.ต.อ.กิตติ สะเภาทอง รอง ผบก.ผป.4 ส่งเจ้าหน้าชุดสืบสวน ที่ลงไปติดตามหาข่าว
จนกระทั่งทราบว่า นางลำใย และลูกชาย มาอยู่ที่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 3 ต.อ่าวลึกเหนือ ซึ่งเป็นบ้านพักของ นายประสิทธิ์ บุญคง สามี อายุ 36 ปี และทราบว่า ที่บริเวณข้างบ้านของนายประสิทธิ์ พบบ่อพักอุจจาระ ทรงกลม อยู่ 1 บ่อ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 70 เซนติเมตร มีร่องรายการฝังกลบ จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ วิทยาการจังหัดกระบี่ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชา เข้าทำการขุดบ่อดังกล่าว และตรวจพบโครงกระดูกในที่สุด
เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันขุดบ่อดังกล่าวลึกลงไปประมาณ 1 เมตร ปรากฏว่า ที่บริเวณก้นบ่อ พบกระสอบปุ๋ย ภายในกระสอบดังกล่าวพบโครงกระดูก พร้อมเศษเสื้อผ้าจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงนำขึ้นมาตรวจสอบ และพบว่าเป็นโครงกระดูกของเด็ก
จากนั้นเมื่อขุดลึกลงไปอีกประมาณ 1.5 เมตร ก็พบโครงกระดูกของผู้ใหญ่ พร้อมเศษชุดชั้นในสภาพเก่า 1 ตัวติดอยู่กับโครงกระดูก ที่กะโหลกศีรษะมีรอยยุบคล้ายถูกตีด้วยของแข็ง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้นำชิ้นส่วนกระดูกทั้งหมดไปล้างทำความสะอาด เพื่อส่งไปตรวจพิสูจน์ที่สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ กรุงเทพฯ เพื่อยืนยันดีเอ็นเอว่า เป็นลูกสาวและหลานชายของนางสมัย หรือไม่ เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ จึงจะทราบผล ก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ