ศูนย์ข่าวภูเก็ต -คชก.ช่วยเหลือผู้เลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไมที่ราคาตกต่ำ จากที่ไม่สามารถส่งออกไปยังตลาดอเมริกาได้ ทำโครงการรับจำนำกุ้ง 10,000 ตันจนถึง มิ.ย.ปีหน้า มอบให้อคส.และธกส.เป็นผู้ดำเนินการ เผยเกษตรกรเข้าร่วมโครงการเพียบ
นายอนุรักษ์ พงศ์ประศาสน์ หัวหน้าสำนักงานการค้าภายในจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงการแก้ปัญหาราคากุ้งตกต่ำว่า ภายหลังจากที่ราคากุ้งขาวแวนนาไมตกต่ำในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากมีปัญหาในการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐอเมริกา ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งฯ ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลจัดโครงการรับจำนำกุ้งขึ้น เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรฯ คชก.ได้มีมติเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2551 อนุมัติให้ดำเนินการแก้ไขปัญหากุ้งขาวแวนนาไมปี 2551 ด้วยวิธีการรับจำนำกุ้งขาวแวนนาไมจากเกษตรกร โดยองค์การคลังสินค้า (อคส.) เป็นผู้ออกตั๋วรับจำนำ และให้เกษตรกรนำตั๋วมาขึ้นเงินกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) โดยมีเป้าหมายรับจำนำกุ้งจำนวน 10,000 ตัน
กุ้งขนาด 40 ตัว/กก.รับจำนำ 160 บาท กุ้งขนาด 50 ตัว/กก. รับจำนำ 140 บาท กุ้งขนาด 60 ตัว/กก.รับจำนำ 130 บาท กุ้งขนาด 70 ตัว/กก.ราคา 115 บาท และกุ้งขนาด 80 ตัว/กก.รับจำนำ 105 บาท ซึ่งราคาที่รับจำนำในปีนี้ราคาจะสูงกว่าปีที่แล้ว ซึ่งจะรับจำนำในช่วงเดือนมิถุนายน-2551-มิถุนายน 2552 ระยะเวลาไถ่ถอน 4 เดือน นับจากเดือนที่รับจำนำ
นายอนุรักษ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีห้องเย็นเข้าร่วมโครงการแล้ว 7 แห่ง ใน 3 จังหวัด คือ สมุทรสาคร 5 แห่ง ระยอง 1 แห่ง และสงขลา 2 แห่ง โดยเกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการจะต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเป็นผู้เพาะเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไม กับกรมประมงและเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ รวมทั้งต้องขึ้นทะเบียนเป็นลูกค้าของ ธ.ก.ส.และแจ้งขอกู้เงิน
ขณะนี้มีเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไว ได้แจ้งความประสงค์นำกุ้งจำนำแล้วจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2551 ที่จังหวัดสมุทรสาคร 497 ราย จำนวน 3,746 ตัน จ.สงขลา 125 ราย จำนวน 896 ตันและระยอง 38 ราย จำนวน 270 ตัน ซึ่งมีจำนวนสูงกว่าปีที่แล้วมาก โดยปีที่แล้วทั้งปีจำนำเพียง 3,000 กว่าตันเท่านั้น
ทั้งนี้ เนื่องจากในปีนี้เกษตรกรมีปัญหาเรื่องราคาที่ตกต่ำ โดยเฉพาะในเกษตรกรผู้เลี้ยงในฝั่งอ่าวไทย ส่วนเกษตรกรของภูเก็ตได้แจ้งความประสงค์จะเข้าร่วมโครงการแล้ว 4 ราย จำนวน 40.5 ตัน เนื่องจากราคากุ้งในภูเก็ตจะสูงกว่าในฝั่งอ่าวไทย ทำให้ปัญหาเรื่องราคาตกต่ำมีน้อยกว่า
นายอนุรักษ์ พงศ์ประศาสน์ หัวหน้าสำนักงานการค้าภายในจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงการแก้ปัญหาราคากุ้งตกต่ำว่า ภายหลังจากที่ราคากุ้งขาวแวนนาไมตกต่ำในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากมีปัญหาในการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐอเมริกา ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งฯ ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลจัดโครงการรับจำนำกุ้งขึ้น เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรฯ คชก.ได้มีมติเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2551 อนุมัติให้ดำเนินการแก้ไขปัญหากุ้งขาวแวนนาไมปี 2551 ด้วยวิธีการรับจำนำกุ้งขาวแวนนาไมจากเกษตรกร โดยองค์การคลังสินค้า (อคส.) เป็นผู้ออกตั๋วรับจำนำ และให้เกษตรกรนำตั๋วมาขึ้นเงินกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) โดยมีเป้าหมายรับจำนำกุ้งจำนวน 10,000 ตัน
กุ้งขนาด 40 ตัว/กก.รับจำนำ 160 บาท กุ้งขนาด 50 ตัว/กก. รับจำนำ 140 บาท กุ้งขนาด 60 ตัว/กก.รับจำนำ 130 บาท กุ้งขนาด 70 ตัว/กก.ราคา 115 บาท และกุ้งขนาด 80 ตัว/กก.รับจำนำ 105 บาท ซึ่งราคาที่รับจำนำในปีนี้ราคาจะสูงกว่าปีที่แล้ว ซึ่งจะรับจำนำในช่วงเดือนมิถุนายน-2551-มิถุนายน 2552 ระยะเวลาไถ่ถอน 4 เดือน นับจากเดือนที่รับจำนำ
นายอนุรักษ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีห้องเย็นเข้าร่วมโครงการแล้ว 7 แห่ง ใน 3 จังหวัด คือ สมุทรสาคร 5 แห่ง ระยอง 1 แห่ง และสงขลา 2 แห่ง โดยเกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการจะต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเป็นผู้เพาะเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไม กับกรมประมงและเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ รวมทั้งต้องขึ้นทะเบียนเป็นลูกค้าของ ธ.ก.ส.และแจ้งขอกู้เงิน
ขณะนี้มีเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไว ได้แจ้งความประสงค์นำกุ้งจำนำแล้วจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2551 ที่จังหวัดสมุทรสาคร 497 ราย จำนวน 3,746 ตัน จ.สงขลา 125 ราย จำนวน 896 ตันและระยอง 38 ราย จำนวน 270 ตัน ซึ่งมีจำนวนสูงกว่าปีที่แล้วมาก โดยปีที่แล้วทั้งปีจำนำเพียง 3,000 กว่าตันเท่านั้น
ทั้งนี้ เนื่องจากในปีนี้เกษตรกรมีปัญหาเรื่องราคาที่ตกต่ำ โดยเฉพาะในเกษตรกรผู้เลี้ยงในฝั่งอ่าวไทย ส่วนเกษตรกรของภูเก็ตได้แจ้งความประสงค์จะเข้าร่วมโครงการแล้ว 4 ราย จำนวน 40.5 ตัน เนื่องจากราคากุ้งในภูเก็ตจะสูงกว่าในฝั่งอ่าวไทย ทำให้ปัญหาเรื่องราคาตกต่ำมีน้อยกว่า
