ตรัง – ปลัดดีเด่นจังหวัดตรังได้เสียชีวิตแล้วหลังถึงมือหมอ ซึ่งกระสุนปืนได้ทะลุผ่านแกนสมอง จนเส้นเลือดใหญ่บางส่วนขาด ทำให้เลือดไหลไม่หยุด และได้ทำลายแกนสมอง สาเหตุมาจากการทำงานที่อาจจะเก็บเล็กผสมน้อยไว้นาน
จากกรณีที่ นายสุรสีห์ เจริญพิทักษ์พร อายุ 42 ปี ปลัดอำเภอดีเด่นจังหวัดตรัง ประจำปี 2550 เจ้าพนักงานปกครอง 7 ที่ทำการปกครองจังหวัดตรัง และเลขานุการนายกเหล่ากาชาดจังหวัดตรัง ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ชนิดออโตเมติก อาวุธปืนพกส่วนตัวจ่อขมับยิงตัวเองเพื่อหวังจบชีวิต ภายในห้องนอนบ้านพัก เลขที่ 100/23 ซอย 6 หมู่บ้านวรารมย์ ถนนตรัง-ปะเหลียน ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 เทศบาลตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 11 มิถุนายน 2551
ล่าสุด นายแพทย์สมนึก เชื้อทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตรัง เปิดเผยว่า นายสุรสีห์ เจริญพิทักษ์พร ได้เสียชีวิตแล้วอย่างสงบ ภายในห้อง I.C.U.โรงพยาบาลตรัง หลังจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมองและวิศัลยีแพทย์ โรงพยาบาลตรัง นำโดย นายแพทย์จตุรงค์ เทพาหุดี และ นายแพทย์สงการนต์ กันมุณี เร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน หลังจากรับเข้ารักษาอาการที่โรงพยาบาลตรัง ซึ่งกระสุนปืนได้ทะลุผ่านแกนสมอง จนเส้นเลือดใหญ่บางส่วนขาด ทำให้เลือดไหลไม่หยุด และได้ทำลายแกนสมอง ซึ่งถือเป็นศูนย์บังคับบัญชาทุกส่วนของร่างกาย จึงถือว่าอาการที่รับเข้ารักษานั้นรุนแรงมากๆ โดยที่ความดันโลหิตอยู่ที่ 30-50 มาตลอด และทีมแพทย์ได้พยายามเยื้อชีวิตอย่างถึงที่สุดแล้ว แต่ก็ไม่สามารถทำได้
นายไชยยศ ธงไชย ปลัดจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า โดยปกติแล้ว นายสุรสีห์ ผู้ตาย มีนิสัยที่เป็นคนจริงจัง มุ่งมั่นในการทำงาน และทำงานเก่งมาก รวมทั้งก็เป็นบุคคลที่เรียนเก่ง และเมื่อได้รับมอบหมายงานจากทางจังหวัด หรืองานที่นายสุรสีห์ เป็นคนขันอาสารับทำด้วยตนเอง ก็จะตั้งใจทำงาน และงานทุกอย่างจะต้องออกมาดีที่สุด จึงได้รับมอบหมายให้เป็นแม่งานใหญ่ๆ ในงานที่ทำมาโดยตลอด ดังนั้น การที่ นายสุรสีห์ คิดสั้นปลิดชีพตัวเองในครั้งนี้ น่าจะมีสาเหตุมาจากการทำงาน ที่อาจจะเก็บเล็กผสมน้อยไว้ โดยไม่ยอมปรึกษาหรือบอกเล่าให้ใครรับทราบ
สำหรับกรณีที่มีการร้องเรียน และให้มีการเปิดเผยถึงเรื่องรายได้และรายจ่าย ในการจัดงานกาชาดจังหวัดตรัง ปี 2551 ที่ผ่านมานั้น เชื่อว่าน่าจะไม่ใช่เรื่องกดดันอะไร เพราะผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดตรัง ได้มีการออกมาชี้แจงเรื่องทั้งหมดไปแล้ว ส่วนกรณีที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีการเรียกเงินที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ให้การสนับสนุนในการจัดงานกาชาดกลับคืนนั้น คาดว่า น่าจะไม่ใช่เป็นชนวนให้เกิดการคิดสั้นอย่างแน่นอน
พ.ต.ท.เธียร บาลทิพย์ รองผู้กำกับการ ฝ่ายสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองตรัง เปิดเผยว่า จากการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ในช่วงที่เกิดเหตุ นายสุรสีห์ ผู้ตาย ได้อาศัยอยู่ภายในบ้านที่เกิดเหตุ กับแฟนสาวเพียง 2 คน และในช่วงที่แฟนสาวตื่นขึ้นมาในตอนเช้า แล้วเปิดประตูห้องเข้าไปดู ก็พบว่า นายสุรสีห์ ได้นอนจมกองเลือดอยู่บนเตียงนอนแล้ว โดยมีอาวุธปืนที่ใช้ในการสังหารตัวเองตกอยู่ข้างกาย จากนั้น แฟนสาวจึงได้นำปืนกระบอกดังกล่าวไปวางไว้ที่โต๊ะหน้าบ้าน แต่ในขณะที่เกิดเหตุแฟนสาวยืนยันว่า ไม่ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอย่างใด
จากนั้นแฟนสาวก็ได้รีบช่วยปั๊มหัวใจก่อนที่จะโทรศัพท์บอกให้เพื่อนร่วมงาน ซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันรับทราบ แล้วรีบประสานรถโรงพยาบาลตรัง มารับตัวไปรักษาต่อจนเสียชีวิตดังกล่าว โดยที่แฟนสาวได้พบจดหมายลาตาย 1 ฉบับ ที่ นายสุรสีห์ เขียนไว้ก่อนที่จะลงมือก่อเหตุ ซึ่งใจความสำคัญในจดหมายบอกไว้ว่า ปัญหาที่ทำให้ นายสุรสีห์ ต้องคิดสั้นในครั้งนี้คือ งานที่ทำอยู่ แต่คงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดได้ในขณะนี้ และกำลังอยู่ในกระบวนการสืบสวนสอบสวนต่อไป
สำหรับศพ นายสุรสีห์ นั้น ได้ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดนิคมประทีป (วัดโคกหล่อ) ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง และจะมีพิธีรดน้ำศพในวันที่ 12 มิถุนายน 2551 เวลา 16.00 น.ณ วัดเดียวกัน
จากกรณีที่ นายสุรสีห์ เจริญพิทักษ์พร อายุ 42 ปี ปลัดอำเภอดีเด่นจังหวัดตรัง ประจำปี 2550 เจ้าพนักงานปกครอง 7 ที่ทำการปกครองจังหวัดตรัง และเลขานุการนายกเหล่ากาชาดจังหวัดตรัง ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ชนิดออโตเมติก อาวุธปืนพกส่วนตัวจ่อขมับยิงตัวเองเพื่อหวังจบชีวิต ภายในห้องนอนบ้านพัก เลขที่ 100/23 ซอย 6 หมู่บ้านวรารมย์ ถนนตรัง-ปะเหลียน ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 เทศบาลตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 11 มิถุนายน 2551
ล่าสุด นายแพทย์สมนึก เชื้อทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตรัง เปิดเผยว่า นายสุรสีห์ เจริญพิทักษ์พร ได้เสียชีวิตแล้วอย่างสงบ ภายในห้อง I.C.U.โรงพยาบาลตรัง หลังจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมองและวิศัลยีแพทย์ โรงพยาบาลตรัง นำโดย นายแพทย์จตุรงค์ เทพาหุดี และ นายแพทย์สงการนต์ กันมุณี เร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน หลังจากรับเข้ารักษาอาการที่โรงพยาบาลตรัง ซึ่งกระสุนปืนได้ทะลุผ่านแกนสมอง จนเส้นเลือดใหญ่บางส่วนขาด ทำให้เลือดไหลไม่หยุด และได้ทำลายแกนสมอง ซึ่งถือเป็นศูนย์บังคับบัญชาทุกส่วนของร่างกาย จึงถือว่าอาการที่รับเข้ารักษานั้นรุนแรงมากๆ โดยที่ความดันโลหิตอยู่ที่ 30-50 มาตลอด และทีมแพทย์ได้พยายามเยื้อชีวิตอย่างถึงที่สุดแล้ว แต่ก็ไม่สามารถทำได้
นายไชยยศ ธงไชย ปลัดจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า โดยปกติแล้ว นายสุรสีห์ ผู้ตาย มีนิสัยที่เป็นคนจริงจัง มุ่งมั่นในการทำงาน และทำงานเก่งมาก รวมทั้งก็เป็นบุคคลที่เรียนเก่ง และเมื่อได้รับมอบหมายงานจากทางจังหวัด หรืองานที่นายสุรสีห์ เป็นคนขันอาสารับทำด้วยตนเอง ก็จะตั้งใจทำงาน และงานทุกอย่างจะต้องออกมาดีที่สุด จึงได้รับมอบหมายให้เป็นแม่งานใหญ่ๆ ในงานที่ทำมาโดยตลอด ดังนั้น การที่ นายสุรสีห์ คิดสั้นปลิดชีพตัวเองในครั้งนี้ น่าจะมีสาเหตุมาจากการทำงาน ที่อาจจะเก็บเล็กผสมน้อยไว้ โดยไม่ยอมปรึกษาหรือบอกเล่าให้ใครรับทราบ
สำหรับกรณีที่มีการร้องเรียน และให้มีการเปิดเผยถึงเรื่องรายได้และรายจ่าย ในการจัดงานกาชาดจังหวัดตรัง ปี 2551 ที่ผ่านมานั้น เชื่อว่าน่าจะไม่ใช่เรื่องกดดันอะไร เพราะผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดตรัง ได้มีการออกมาชี้แจงเรื่องทั้งหมดไปแล้ว ส่วนกรณีที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีการเรียกเงินที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ให้การสนับสนุนในการจัดงานกาชาดกลับคืนนั้น คาดว่า น่าจะไม่ใช่เป็นชนวนให้เกิดการคิดสั้นอย่างแน่นอน
พ.ต.ท.เธียร บาลทิพย์ รองผู้กำกับการ ฝ่ายสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองตรัง เปิดเผยว่า จากการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ในช่วงที่เกิดเหตุ นายสุรสีห์ ผู้ตาย ได้อาศัยอยู่ภายในบ้านที่เกิดเหตุ กับแฟนสาวเพียง 2 คน และในช่วงที่แฟนสาวตื่นขึ้นมาในตอนเช้า แล้วเปิดประตูห้องเข้าไปดู ก็พบว่า นายสุรสีห์ ได้นอนจมกองเลือดอยู่บนเตียงนอนแล้ว โดยมีอาวุธปืนที่ใช้ในการสังหารตัวเองตกอยู่ข้างกาย จากนั้น แฟนสาวจึงได้นำปืนกระบอกดังกล่าวไปวางไว้ที่โต๊ะหน้าบ้าน แต่ในขณะที่เกิดเหตุแฟนสาวยืนยันว่า ไม่ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอย่างใด
จากนั้นแฟนสาวก็ได้รีบช่วยปั๊มหัวใจก่อนที่จะโทรศัพท์บอกให้เพื่อนร่วมงาน ซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันรับทราบ แล้วรีบประสานรถโรงพยาบาลตรัง มารับตัวไปรักษาต่อจนเสียชีวิตดังกล่าว โดยที่แฟนสาวได้พบจดหมายลาตาย 1 ฉบับ ที่ นายสุรสีห์ เขียนไว้ก่อนที่จะลงมือก่อเหตุ ซึ่งใจความสำคัญในจดหมายบอกไว้ว่า ปัญหาที่ทำให้ นายสุรสีห์ ต้องคิดสั้นในครั้งนี้คือ งานที่ทำอยู่ แต่คงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดได้ในขณะนี้ และกำลังอยู่ในกระบวนการสืบสวนสอบสวนต่อไป
สำหรับศพ นายสุรสีห์ นั้น ได้ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดนิคมประทีป (วัดโคกหล่อ) ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง และจะมีพิธีรดน้ำศพในวันที่ 12 มิถุนายน 2551 เวลา 16.00 น.ณ วัดเดียวกัน