สุราษฎร์ธานี - เกิดเหตุหนุ่มสุราษฎร์ธานี พลัดตกเขาขณะกำลังปีนขึ้นไปเก็บขี้ค้างคาวหลังสำนักสงฆ์สวนโมกข์นานาชาติ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่ช่วยเหลืออย่างทุลักทุเล รอดตายหวุดหวิด
ร.ต.ท.ประพันธ์ หนักแน่น ร้อยเวร สภ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งเหตุมีคนตกถ้ำและติดอยู่ในถ้ำได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบนภูเขาน้ำร้อน เขตสวนโมกข์นานาชาติ บ้านปากด่าน ม.6 ต.เลม็ด จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามตามลำดับชั้น ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานขอความช่วยเหลือไปยังเจ้าหน้าที่กู้มูลนิธิกุศลศรัทธาอ.ไชยา อ.ท่าฉาง อ.เมือง และ อ.คีรีรัฐนิคม กว่า 30 นาย รวมทั้งแพทย์ พยาบาลจากโรงพยาบาลไชยา เพื่อช่วยเหลือคนเจ็บ
ที่เกิดเหตุเป็นภูเขาสูง ตั้งอยู่ในเขตสวนโมกข์นานาชาติ ส่วนจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณถ้ำบนยอดเขา ต้องใช้เวลาเดินเท้าปีนเลาะป่าขึ้นไปประมาณ 30 นาที ที่เกิดเหตุเป็นถ้ำกว้างประมาณ 3 เมตร ลึกประมาณ 50 เมตร และกลางถ้ำลักษณะโค้งเรียว บริเวณปากถ้ำพบถังน้ำ 1 ใบ ภายในถังมีขวดน้ำอัดลมบรรจุน้ำมันก๊าดใช้สำหรับจุดไฟ จำนวน 2 ขวด เชือกไนลอน 2 เส้น และกะลามะพร้าวจำนวนหนึ่ง
ส่วนบริเวณก้นถ้ำพบคนเจ็บนอนส่งเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด ทราบชื่อ นายทยากร แย้มเลม็ด อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97 ม.2 ต.เลม็ด อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี สภาพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทา นุ่งกางเกงยีนขายาวสีน้ำเงิน ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก เป็นแผลฉกรรจ์ กระดูกสันหลังหัก แขนขวาหัก และขาหักทั้ง 2 ข้าง ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เวลาในการเตรียมอุปกรณ์ และหาวิธีการลงไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นถ้ำที่มีความลึก และหินปากถ้ำมีสภาพพุพัง เสี่ยงที่หินปากถ้ำจะถล่มตกลงไปในถ้ำได้ทุกเวลา
หลังจากมีการวางแผนการช่วยเหลือนานกว่า 3 ชั่วโมง ประกอบกับอุปกรณ์การช่วยเหลือที่มีอย่างจำกัด เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยจึงตัดสินใจใช้วิธีการโรยตัวด้วยเชือกไนลอนลงไปภายในถ้ำ เพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ โดยให้ผู้บาดเจ็บนอนในเปล ปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการดามคอ แขน และขา หลังจากนั้นได้ใช้ผ้าด้ายดิบผูกรัดรอบตัวคนเจ็บเอาไว้ ก่อนจะช่วยกันชักลากผู้บาดเจ็บขึ้นมาจากถ้ำ ซึ่งการช่วยเหลือเป็นไปอย่างทุลักทุเล จนกระทั่งสามารถนำผู้บาดเจ็บขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย ส่งโรงพยาบาลไชยา เพื่อรับการรักษาต่อไป
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายทยากร พร้อมเพื่อน 3 คนได้แอบลักลอบขึ้นไปบนถ้ำดังกล่าวทางอีกฝั่งของภูเขา เนื่องจากภูเขาดังกล่าวอยู่บริเวณสำนักสงฆ์สวนโมกข์นานาชาติ ซึ่งเป็นสถานที่ศึกษาธรรมะ และท่องเที่ยวเนื่องจากมีบ่อน้ำร้อน และน้ำเย็นชื่อดังของ อ.ไชยา ปกติทางสำนักสงฆ์จะไม่อนุญาตให้ชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวขึ้นไปบนภูเขาดังกล่าว
ปรากฏว่า เมื่อผู้บาดเจ็บไปถึงได้พยายามใช้อุปกรณ์และเชือกที่นำไปหาวิธีการโรยตัวลงไปเก็บขี้คางค้าวภายในถ้ำดังกล่าวเพื่อนำไปขายราคากิโลกรัมละ 4 บาท แต่ระหว่างที่โรยตัวจากปากถ้ำเกิดเชือกหลุดพลาดท่าตกลงไปทำให้รับบาดเจ็บดังกล่าว หลังจากเกิดเหตุเพื่อนที่ร่วมเดินทางไปด้วย ได้กลับลงมาแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ เพื่อให้มาช่วยเหลือคนเจ็บออกจากถ้ำดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บครั้งนี้มีเพียงเจ้าหน้าที่กู้ภัยจาก 4 อำเภอเท่านั้น โดยไม่มีหน่วยงานจากทางจังหวัด อำเภอ หรือท้องถิ่นเข้าร่วมช่วยเหลือแต่อย่างใด แม้ว่าก่อนหน้านี้ทางจังหวัดได้จัดให้ในพื้นที่อำเภอต่างๆ นำเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องทำการฝึกซ้อมแผน และเตรียมอุปกรณ์ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ต่างๆ จากหลายหน่วยงานก็ตาม