xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯ ระนองสนธิกำลังบุกยึดคืนป่าสงวนฯ หลังตรวจพบถูกนายทุนรุกหลายร้อยไร่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ระนอง - ผู้ว่าราชการจังหวัดระนองสนธิกำลังนับร้อยนายบุกยึดคืนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติหลังถูกนายทุนบุกรุกหลายร้อยไร่ พร้อมคาดโทษเจ้าหน้าที่รับผิดชอบปล่อยปละละเลยนับ 10 ปี ไม่เคยลงพื้นที่

นางกาญจนาภา กี่หมัน ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พร้อมด้วย นายพิชัย ปรีชาพรประเสริฐ นายอำเภอเมือง นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร ป้องกันจังหวัด พ.อ.สรรเสริญ คล้ายแก้ว รอง ผบ.ฉก.เสือดำ และ พ.ต.ท.ชัยสิทธิ์ สิทธิชัย รอง ผกก.สภ.เมือง นำกำลังทหารหน่วยเฉพาะกิจเสือดำ ตำรวจภูธร, ตชด.ที่ 415, อส., เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รน.8 (บ่อน้ำร้อน) และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว ราว 100 นาย เดินทางโดยรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ 7 คัน รถยูนิม็อกของทหาร 3 คันไปตามถนนลูกรังขึ้นเขาลงห้วยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง
 
เพื่อเข้าไปยังพื้นที่หมู่ที่ 1 บ้านห้วยหลุง ต.หาดส้มแป้น อ.เมืองระนอง หลังพบนายทุนบุกรุกแผ้วถางป่า ในเขตป่าสงวนแห่งชาติละอุ่น-ราชกรูด หลายร้อยไร่ ซึ่งเป็นป่าไม้ต้นน้ำที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของจังหวัดระนอง เพื่อปลูกต้นยางพารา ปาล์มน้ำมัน และกาแฟ

เมื่อไปถึงได้กระจายกำลังออกเป็นชุดๆ เพื่อตรวจสอบพื้นที่พร้อมจับพิกัดทางดาวเทียม (GPS) พบว่ามีการแผ้วถางป่าหลายสิบแปลงๆ ละไม่ต่ำกว่า 20-50 ไร่ เป็นจุด ๆ ตลอดแนวป่า บางแปลงพบมีการกานไม้ขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 50-100 เซ็นติเมตรเพื่อให้ยืนต้นตายจำนวน 60 ต้น ซึ่งเป็นไม้ที่มีค่าทั้งสิ้น เช่น ไม้ยางป่า ไม้ตะเคียนทอง เป็นต้น
 
บางแปลงมีการปลูกยางพารา และปาล์มน้ำมันแล้ว มีการสร้างบ้านที่พักแบบถาวร บางแปลงมีการแผ้วถางเตรียมสร้างสำนักสงฆ์ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจยึดพื้นที่ทั้งหมด พร้อมทั้งให้ทหารหน่วยเฉพาะกิจเสือดำ และ อส.ตั้งศูนย์ปฏิบัติการตรึงกำลังไว้ในพื้นที่ พร้อมสอบสวนหาผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ พื้นที่ที่มาตรวจยึดในวันนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เมื่อมองเข้าไปในป่าลึกยังเห็นร่องรอยการบุกรุกอีกมากโดยใช้เวลาตรวจสอบกว่า 2 ชั่วโมง

นางกาญจนาภา กล่าวว่า ไม่ทราบว่าเจ้าหน้าป่าไม้ที่รับผิดชอบอยู่กันได้อย่างไร ตนขับรถมาเจอโดยบังเอิญก่อนหน้านี้เพียงหนึ่งวันขณะสำรวจเพื่อเปิดเส้นทางทัวร์ป่า เห็นพื้นที่ป่าถูกบุกรุก และต้นไม้ถูกกานให้ยืนต้นตายแล้วแทบน้ำตาไหล แค้นใจและอับอายขายหน้ามากๆ ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สอบสวนหาผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้ เชื่อว่าผู้ที่บุกรุกป่าได้ขนาดนี้ไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดา ต้องเป็นนายทุน และคนมีสีอย่างแน่นอน ขอให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่รับผิดชอบดำเนินการให้เรียบร้อยภายใน 7 วัน แล้วรายงานผลให้ทราบด้วย

นางกาญจนาภา กล่าวด้วยว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่รับผิดชอบบอกว่าเข้ามาดูพื้นที่เมื่อ 10 ปีก่อน แต่นี้มันปี 51 แล้ว ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมามีการบุกรุกไปแล้วไม่รู้เท่าไหร่ บางแปลงมีการปลูกยางพารา ปลูกปาล์มน้ำมัน และกาแฟจนได้รับผลผลิตแล้ว มีการปล่อยปละละเลยกันมานานมากจึงจำเป็นต้องจัดการขั้นเด็ดขาด ถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไปจะไม่มีป่าไม้ไว้ให้ลูกหลานได้ดู

นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร ป้องกันจังหวัดระนอง กล่าวว่า พบว่ามีพื้นที่ถูกบุกรุกเป็นระยะทางประมาณ 17 กิโลเมตร ไปต่อเขตตำบลปากทรง อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร โดยจะมีการบุกรุกเป็นจุด ๆ โดยผู้บุกรุกจะแผ้วถางไม้เล็กๆ ออกก่อน แล้วจะปลูกพืชเศรษฐกิจลงไปใต้ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ จากนั้นก็จะกานต้นไม้ใหญ่ให้ยืนต้นตายไปเอง โดยจะไม่โค่นลงมา ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 3 วัน ในการเดินเท้าสำรวจพื้นที่ทั้งหมดพร้อมจับพิกัดทางดาวเทียมจึงจะทราบว่ามีจำนวนเท่าไหร่
 

ส่วนผู้กระทำความผิดที่จับกุมได้ส่วนใหญ่จะเป็นแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า ที่นายทุนจ้างให้มาแผ้วถางป่าและเฝ้าสวน ซึ่งจะต้องสอบสวนขยายผลหาตัวนายทุนและผู้ว่าจ้างมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้



กำลังโหลดความคิดเห็น