ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – แกนนำพันธมิตรฯสงขลา ชี้กระแสการเมืองยังทำให้ประชาชนสนใจติดตามสถานการณ์บ้านเมืองอย่างใกล้ชิด ซึ่งหลายคนร่วมลงชื่อเดินทางไปสนับสนุนการชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ 3 วันในปลายสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกันก็เร่งทำความเข้าใจต่อกระแสข่าวที่โจมตีในจุดยืนของพันธมิตรฯ ซึ่งคาดกว่าหากข้อสับสนคลี่คลายกระแสของการร่วมต่อต้านระบอบทักษิณ จะพุ่งแรงขึ้นอีกรอบแน่นอน
วันนี้ (4 มิ.ย.) นายสุมิตร นวลมณี หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯสงขลา เปิดเผยว่า ขณะนี้พันธมิตรฯสงขลา พร้อมที่จะสนับสนุนประชาชนเดินทางไปร่วมชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสัปดาห์นี้ ซึ่งประชาชนได้แจ้งชื่อขอร่วมเดินทาง ณ กองอำนวยการพันธมิตรฯลานรถไฟหาดใหญ่ทุกวันรวมยอดถึงขณะนี้ร้อยรายแล้ว โดยจะเริ่มเดินทางในวันพฤหัสฯที่ 5 มิ.ย.เพื่อร่วมปักหลักกับพี่น้องทั่วประเทศ ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์เป็นเวลา 3 วัน
“ตอนนี้ประชาชนที่กลับมาจากชุมนุมใหญ่ เตรียมตัวจะกลับขึ้นไปร่วมชุมนุมอีกรอบ หลังจากที่เคลียร์ธุระส่วนตัวแล้ว โดยจะคอยเป็นแกนนำในการดูแลผู้ร่วมชุมนุมรายใหม่ที่ประสงค์จะเดินทางไปด้วยกันซึ่งมีสมทบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยพันธมิตรฯได้รับเงินบริจาคจากประชาชนในแต่ละวันมาเป็นค่าใช้จ่ายเดินทางไป-กลับให้กับผู้ที่มาลงชื่อร่วมชุมนุมเพื่อสนับสนุนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ปักหลักชุมนุมกรุงเทพฯ อีกทางหนึ่ง” นายสุมิตรกล่าว
สำหรับลานประวัติศาสตร์การเมือง หน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ กลุ่มพันธมิตรฯสงขลา ยังถือเป็นศูนย์รวมความเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยยังคงถ่ายทอดสดช่อง NEWS1 ของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV และถ่ายทอดเสียงผ่านสถานีวิทยุกรรมกร FM 102.75 MHz ตลอด 24 ชั่วโมงย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 แล้ว ซึ่งควบคู่กับการชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ
ตลอดทั้งวันก็จะมีประชาชนแวะเวียนเข้ามารับชม ส่วนบรรยากาศกลางคืนหลังเลิกงานแล้วก็จะมีประชาชนมาร่วมชมเป็นจำนวนมาก และอยู่จนกว่าแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะขึ้นเวทีปราศรัยเสร็จ หรือได้ฟังนักวิชาการฝีปากกล้าร่วมแฉเบื้องหลังการทุจริตจึงจะทยอยกลับบ้านเพื่อพักผ่อน
ด้านนายเอกชัย อิสระทะ โฆษกพันธมิตรฯสงขลา เปิดเผยว่า จุดยืนของพันธมิตร จ.สงขลานั้นอยู่เคียงข้างกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คือร่วมขจัดระบอบทักษิณที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประเทศไทยในการทุจริต คอร์รัปชั่น รวมถึงต่อต้านรัฐบาลซึ่งเป็นนอมินีที่พยายามรับใช้และช่วยเหลือระบอบทักษิณให้ฟื้นอีกครั้ง
ดังนั้น แม้ว่านายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรีจะลาออก หรือญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 จะตกไป แต่ภารกิจของพันธมิตรก็จะไม่สำเร็จ เพราะยังไม่สามารถล้มระบอบทักษิณได้จึงต้องยืนหยัดที่จะสู้ต่อไป รวมถึงการโหมกระแสริบบิ้นสีขาว ทำให้ประชาชนบางส่วนสับสนไปตามกระแสข่าว
จุดนี้เองที่อาจทำให้ประชาชนที่ไม่ได้ติดตามข่าวสารโดยตลอด เกิดความสับสน อีกทั้งสื่อสาธารณะบางส่วนไม่ได้เสนอข่าวครอบคลุมทั้งหมด แต่เลือกเสนอตามกระแสและบางประเด็น พันธมิตรฯจึงต้องชี้แจงให้ประชาชนมีความเข้าใจ ยกเว้นประเด็นปัญหาเศรษฐกิจ ที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนถ้วนหน้าจากการไม่แก้ไขปัญหาของรัฐบาลเอง
“อย่างไรก็ตามสถานการณ์ใน จ.สงขลา ประชาชนส่วนใหญ่ตื่นตัวที่จะติดตามการเมืองอย่างใกล้ชิด และเข้าใจในจุดยืนของพันธมิตรฯ แต่ก็ยังเป็นห่วงที่อื่นๆ ซึ่งต้องทำความเข้าใจ และหากทุกคนรับรู้ข้อมูลข่าวสารได้เท่าๆ กัน กระแสของพันธมิตรฯก็จะกลับมาแรงขึ้นอีกครั้ง” นายเอกชัย กล่าว
วันนี้ (4 มิ.ย.) นายสุมิตร นวลมณี หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯสงขลา เปิดเผยว่า ขณะนี้พันธมิตรฯสงขลา พร้อมที่จะสนับสนุนประชาชนเดินทางไปร่วมชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสัปดาห์นี้ ซึ่งประชาชนได้แจ้งชื่อขอร่วมเดินทาง ณ กองอำนวยการพันธมิตรฯลานรถไฟหาดใหญ่ทุกวันรวมยอดถึงขณะนี้ร้อยรายแล้ว โดยจะเริ่มเดินทางในวันพฤหัสฯที่ 5 มิ.ย.เพื่อร่วมปักหลักกับพี่น้องทั่วประเทศ ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์เป็นเวลา 3 วัน
“ตอนนี้ประชาชนที่กลับมาจากชุมนุมใหญ่ เตรียมตัวจะกลับขึ้นไปร่วมชุมนุมอีกรอบ หลังจากที่เคลียร์ธุระส่วนตัวแล้ว โดยจะคอยเป็นแกนนำในการดูแลผู้ร่วมชุมนุมรายใหม่ที่ประสงค์จะเดินทางไปด้วยกันซึ่งมีสมทบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยพันธมิตรฯได้รับเงินบริจาคจากประชาชนในแต่ละวันมาเป็นค่าใช้จ่ายเดินทางไป-กลับให้กับผู้ที่มาลงชื่อร่วมชุมนุมเพื่อสนับสนุนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ปักหลักชุมนุมกรุงเทพฯ อีกทางหนึ่ง” นายสุมิตรกล่าว
สำหรับลานประวัติศาสตร์การเมือง หน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ กลุ่มพันธมิตรฯสงขลา ยังถือเป็นศูนย์รวมความเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยยังคงถ่ายทอดสดช่อง NEWS1 ของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV และถ่ายทอดเสียงผ่านสถานีวิทยุกรรมกร FM 102.75 MHz ตลอด 24 ชั่วโมงย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 แล้ว ซึ่งควบคู่กับการชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ
ตลอดทั้งวันก็จะมีประชาชนแวะเวียนเข้ามารับชม ส่วนบรรยากาศกลางคืนหลังเลิกงานแล้วก็จะมีประชาชนมาร่วมชมเป็นจำนวนมาก และอยู่จนกว่าแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะขึ้นเวทีปราศรัยเสร็จ หรือได้ฟังนักวิชาการฝีปากกล้าร่วมแฉเบื้องหลังการทุจริตจึงจะทยอยกลับบ้านเพื่อพักผ่อน
ด้านนายเอกชัย อิสระทะ โฆษกพันธมิตรฯสงขลา เปิดเผยว่า จุดยืนของพันธมิตร จ.สงขลานั้นอยู่เคียงข้างกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คือร่วมขจัดระบอบทักษิณที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประเทศไทยในการทุจริต คอร์รัปชั่น รวมถึงต่อต้านรัฐบาลซึ่งเป็นนอมินีที่พยายามรับใช้และช่วยเหลือระบอบทักษิณให้ฟื้นอีกครั้ง
ดังนั้น แม้ว่านายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรีจะลาออก หรือญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 จะตกไป แต่ภารกิจของพันธมิตรก็จะไม่สำเร็จ เพราะยังไม่สามารถล้มระบอบทักษิณได้จึงต้องยืนหยัดที่จะสู้ต่อไป รวมถึงการโหมกระแสริบบิ้นสีขาว ทำให้ประชาชนบางส่วนสับสนไปตามกระแสข่าว
จุดนี้เองที่อาจทำให้ประชาชนที่ไม่ได้ติดตามข่าวสารโดยตลอด เกิดความสับสน อีกทั้งสื่อสาธารณะบางส่วนไม่ได้เสนอข่าวครอบคลุมทั้งหมด แต่เลือกเสนอตามกระแสและบางประเด็น พันธมิตรฯจึงต้องชี้แจงให้ประชาชนมีความเข้าใจ ยกเว้นประเด็นปัญหาเศรษฐกิจ ที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนถ้วนหน้าจากการไม่แก้ไขปัญหาของรัฐบาลเอง
“อย่างไรก็ตามสถานการณ์ใน จ.สงขลา ประชาชนส่วนใหญ่ตื่นตัวที่จะติดตามการเมืองอย่างใกล้ชิด และเข้าใจในจุดยืนของพันธมิตรฯ แต่ก็ยังเป็นห่วงที่อื่นๆ ซึ่งต้องทำความเข้าใจ และหากทุกคนรับรู้ข้อมูลข่าวสารได้เท่าๆ กัน กระแสของพันธมิตรฯก็จะกลับมาแรงขึ้นอีกครั้ง” นายเอกชัย กล่าว