“สมกียรติ” แฉ “พ่อยี้ห้อย” แอบตีกลับญัตติแก้ไข รธน.ก่อนลูกหาบแห่ถอนชื่อเพียงหนึ่งวัน เชื่อหวังตบตา ปชช.-พันธมิตรฯ ให้ยุติการชุมนุม ชี้ 21 เดือน คตส.สุดชอกช้ำ พบผิดในระบอบแม้วถึง 12 แต่เอาผิดส่งฟ้องศาลได้เพียงคดีเดียว
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย
วันนี้ (2 มิ.ย.) เวลา 22.00 น. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปราศรัยบนเวทีบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยย้ำถึงการต่อสู้กับระบอบทักษิณ ที่คาดว่าจะยืดเยื้อและยาวนาน ขณะเดียวกันยังตำหนิการให้สัมภาษณ์ของนักวิชาการบางคน ที่ออกมากล่าวหาผู้ชุมนุมถูกจูงจมูกมาร่วมชุมนุม ซึ่งไม่เป็นความจริง พี่น้องประชาชนที่มาเข้าร่วมต่างพร้อมใจกันมาด้วยความสมัครใจ ไม่มีใครไปจูงจมูกหรือว่าจ้างมา
กราต่อสู้ของเราในวันนี้ยังไม่ชนะ นักวิชาการ นักการเมือง หรือแม้แต่ข้าราชการ บอกเราชนะ รัฐบาลยอมถอยโดยการให้ ส.ส.ถอนรายชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ หวังให้การชุมนุมของพันธมิตรฯสิ้นสุด แต่เอาเข้าจริงเรากลับถูกหลอกให้หลงดีใจ เนื่องจากก่อนที่ ส.ส.จะไปขอถอนรายชื่อในวันที่ 29 พฤษภาคม ปรากฏว่า นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้แอบส่งญัตติดังกล่าวกลับให้ ส.ส.ไปแก้ไข อ้างดำเนินการมาผิดฟอร์ม
“การกระทำเช่นนี้ถือเป็นการโกหกหลอกหลวงให้ประชาชนหลงเชื่อ ประชาชนคิดว่าชนะ แต่ความจริงไม่ใช่ เป็นเล่ห์กลที่รัฐบาลสร้างขึ้นมา หวังให้การชุมนุมของพันธมิตรฯยุติ จากนั้นก็หมกเม็ดยื่นญัตติดังกล่าวกลับเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ อีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นนายชัย ชิดชอบ ปรานสภาฯ ต้องชี้แจงว่าแอบส่งเรื่องคืนจริงหรือไม่ พร้อมกันนั้นต้องตอบให้ได้ว่า ทำอย่างนั้นทำไม” นายสมเกียรติ กล่าว
นายสมเกียรติ ยังกล่าวถึงการทำงานของ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ที่เหลืออีก 28 วันจะหมดวาระ โดยระบุว่าตลอดระยะเวลา 21 เดือน คตส.มีผลงานการตรวจสอบออกมาทั้งหมด 12 คดี แต่สามารถส่งฟ้องศาลได้เพียงคดีเดียว คือ คดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ ซึ่งก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีคำพิพากษาอออกมา ส่วนคดีที่เหลือพบผิดแต่เอาผิดไม่ได้ สรุป 12 คดี ระบอบทักษิณโกงไปเกือบ 182,580 ล้านบาทเลยทีเดียว
นอกจากนี้ นายสมเกียรติยังกล่าวถึงการชุมนุมของพี่น้องเกษตรกรบริเวณทำเนียบรัฐบาล โดยมองว่า เป็นเพราะรัฐบาลไม่สนใจแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน เร่งทำแต่ประโยชน์เอื้อพวกพ้อง พี่น้องเหล่านี้ก็ไม่แตกต่างอะไรกับพันธมิตรฯ ดังนั้นจะต้องมาร่วมมือกัน ไม่ต้องสนใจว่าจะถูกอำนาจรัฐกลั่นแกล้ง เนื่องจากพ ผบ.ทบ.และผบ.ตร.ปฎิเสธจะไช้ความรุนแรงเข้าปราบปรามพันธมิตรฯ โดยเฉพาะตำรวจกลัวอดีต “โอ๋ สืบ 6” ซ้ำรอย กระทืบประชาชนบริสุทธิ์จนโดนโยกย้ายกันระนาวมาแล้ว
