ระนอง - อิทธิพลมืดคุกคามเจ้าหน้าที่ป่าไม้ระนอง ใช้อาก้ายิงถล่มหน่วยป้องกันรักษาป่าระนอง 2 (ราชกรูด) กว่า 10 นัด รองอธิบดีกรมป่าไม้ รุดให้กำลังใจ ด้านผู้ว่าฯจี้ตำรวจเร่งหาตัวมือปืนมาลงโทษให้ได้
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (26 พ.ค.) นายสมศักดิ์ เนติรังษีวัชรา รองอธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมด้วยนายสุรพงศ์ ทองเลี่ยมนาค ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 16 ได้เดินทางไปยังที่ทำการหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รน.2 ราชกรูด หมู่ที่ 3 ต.ราชกรูด อ.เมือง จ.ระนอง เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ป่าไม้ หลังจากที่ถูกมือปืนใช้อาวุธสงคราม ชนิดอาก้า ยิงถล่มที่ทำการหน่วยกว่า 10 นัด เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น.คืนวันที่ 24 พฤษภาคม 2551
จากการสอบตรวจที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบรอยกระสุนปืนที่ฝาผนังปูนสำนักงาน 3 จุด ซึ่งความแรงของกระสุนได้ทะลุฝาผนังไปยังฝาผนังอีกด้านหนึ่ง นอกจากนี้ยังพบบริเวณบันไดคอนกรีต 3 จุด และที่เสาไฟฟ้าส่องแสงสว่าง 1 จุด พบหัวกระสุนตกอยู่ 2 หัว และพบปลอกกระสุนปืนอาก้าจำนวน 4 ปลอกตกริมถนนลาดยางสายราชกรูด-พะโต๊ะ หน้าที่ทำการหน่วยซึ่งห่างจากตัวอาคารประมาณ 70 เมตร แต่โชคดีที่กระสุนไม่ถูกเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติหน้าที่เวรยามอยู่ในที่ทำการ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวถือว่าเกินกว่าเหตุ ไม่ใช่การยิงข่มขู่ แต่เป็นการยิงกราดเข้ามาหมายจะเอาชีวิตเจ้าหน้าที่ ส่วนสาเหตุยังไม่สามารถสรุปได้ในขณะนี้ คงมีอะไรที่สลับซับซ้อนมากกว่าที่ได้รับทราบ ซึ่งพนักงานสอบสอบกำลังสอบสวนอยู่ คงจะทราบในไม่ช้านี้ ซึ่งคาดว่าคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงมาจากบนถนนหน้าที่ทำการ โดยนั่งอยู่บนท้ายรถกระบะ เมื่อยิงเสร็จก็ขับหลบหนีไป ซึ่งตนได้รายงานให้อธิบดีป่าไม้ ปลัดกระกระทรวง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทราบตามลำดับชั้นแล้ว ซึ่งผู้ใหญ่มีความเป็นห่วงในความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าทุกคน ขอให้ระมัดระวังตัวให้มากในระยะนี้
โดยขณะนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้หารือร่วมกับกองทัพบกแล้ว และกำลังจะมีการลงนามในข้อตกลงในเร็วๆ นี้ ซึ่งทางกองทัพบกจะสนับสนุนทั้งอาวุธและกำลังพลในการปฏิบัติหน้าที่
นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า นับจากนี้ไป กรมป่าไม้ได้ออกแผนเฉพาะกิจเป็นการเร่งด่วน เพื่อออกตรวจสอบพื้นที่ป่าไม้ในพื้นที่จังหวัดระนองทั้งหมดทั้งป่าสงวนแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เพื่อไม่ให้ถูกครหาว่าเลือกปฏิบัติ โดยจะเน้นจับกุมพื้นที่ที่ถูกนายทุนและผู้มีอิทธิพลบุกรุก
นายสมนึก ตรีชัย เจ้าพนักงานป่าไม้ 5 ทำหน้าที่หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ รน. 2 ราชกรูด กล่าวว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ของหน่วยไม่เคยมีปัญหาความขัดแย้งกับใครที่เป็นบุคคลภายนอก หรือภายในหน่วยเอง เชื่อว่าสาเหตุมาจากการปฏิบัติหน้าที่จับกุมผู้บุกรุกป่าสงวนสงวนแห่งชาติอย่างแน่นอน ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2551 ได้ไปตรวจยึดพื้นที่ป่ามาแปลงหนึ่งเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ มีการปลูกยางพารา และกานโคนต้นไม้ให้ยืนต้นตายไปกว่า 140 ต้น อยู่ในซอยค่ายลูกเสือระนอง หมู่ที่ 4 ต.ราชกรูด อ.เมือง ซึ่งต่อมาทราบว่าเป็นของคนมีสีคนหนึ่ง แต่จะเป็นสาเหตุหรือไม่ ตนไม่สามารถยืนยันได้ต้องปล่อยให้เจ้าหน้าที่สอบสวนต่อไป
นายจักรกฤษ คงเคว็จ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รน. 2 กล่าวว่า คืนเกิดเหตุตนกำลังปฏิบัติหน้าที่เวรยามอยู่ในอาคารที่ทำการ จู่ๆ ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นไม่น้อยกว่า 10 นัด หลังเสียงปืนสงบลงจึงใช้ไปฉายออกมาส่องดูไม่พบเห็นสิ่งผิดปกติใด แต่ในใจคิดว่า ทหารที่ตั้งด่านอยู่ห่างจากที่ทำการประมาณ 500 เมตร ไล่ยิงรถบรรทุกพม่าหลบหนีเข้าเมืองที่แหกด่าน
แต่เมื่อเดินกลับเข้ามาดูในที่ทำการที่ฝาผนังมีรอยทะลุ 1 จุด จึงขับจักรยานยนต์ไปสอบถามทหารที่ด่านว่าไล่ยิงรถบรรทุกพม่าหรือเปล่ากระสุนพลาดไปถูกฝาผนังที่ทำการของหน่วย แต่ทหารบอกว่าไม่ได้ไล่ยิงใคร จากนั้นตนจึงขับรถไปแจ้งตำรวจที่ สภ.ราชกรูด ให้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่ามีรอยกระสุนหลายแห่ง จึงมั่นใจมีผู้ตั้งใจยิงเข้ามาในที่ทำการของหน่วยอย่างแน่นอน
ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 08.30 น.นางกาญจนาภา กี่หมัน ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.นรินทร์ บุษยวิทย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง โดยได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหาสาเหตุการยิงที่ทำการหน่วยป้องกันรักษาป่า ให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะเป็นการกระทำที่อุกอาจมาก ใช้อาวุธสงครามยิงสถานที่ราชการ แสดงว่าผู้ที่กระทำ หรืออยู่เบื้องหลังเป็นผู้มีอิทธิพล ตนยอมไม่ได้ พร้อมทั้งได้กล่าวให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าทุกคน
ต่อมาเวลา 15.00 น.วันเดียวกันนายสมศักดิ์ เนติรังษีวัชรา รองอธิบดีกรมป่าไม้ ได้เข้าหารือกับนางกาญจนาภา กี่หมัน ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ที่ศาลากลางจังหวัดระนอง เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น