กระบี่ -ม็อบเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย บุก ธอส.ยื่อ 3 ข้อเสนอ แก้ไขปัญหา พร้อมปักหลักจนกว่าจะได้รับการแก้ไขตามข้อเสนอ
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (26 พ.ค.) ม็อบเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย สาขาภาคใต้ กว่า 200 คน ได้เดินทางมาชุมนุมประท้วงหน้า ที่ทำการธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขากระบี่ ซ.ร่วมจิตร่วมใจ ถ.มหาราช ต.ปากน้ำ อ.เมืองกระบี่ ยื่น 3 ข้อเสนอต่ธนาคาร โดยมี นายรัตนศักดิ์ เกสีสม ประธานเครือข่ายหนี้สินชาวนาประเทศไทย สาขาภาคใต้ และ นางภัชรัตน์ กูลชัย รองประธานเครือข่ายหนี้สินชาวนาประเทศไทย สาขาภาคใต้เป็นแกนนำ พร้อมใช้รถขยายเสียงปราศัยเรียกร้องข้อเสนอ ที่บริเวณหน้าธนาคาร
นายรัตนศักดิ์ เกสีสม ประธานเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย สาขาภาคใต้ กล่าวว่าการมาชุมนุมครั้งนี้ เพื่อต้องการความเป็นธรรมให้แก่สมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เนื่องจากที่ผ่านมา คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรได้เคยมีมติในการประชุมครั้งที่ 5/2550 วันที่ 20 กันยายน 2550เห็นชอบให้สถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เป็นนิติบุคคลตามมาตร 37/1 แต่เนื่องจากธนาคารอาคารเพิกเฉยมิได้ชะลอการดำเนินทางกฎหมายต่อเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯยังผลให้เกษตรกรต้องสูญเสียที่ดินทำกินหรือที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐาน จึงขอเรียกร้องให้ธนาคารยุติการดำเนินการกับสมาชิกดังต่อไปนี้
1.หยุดทำการฟ้องร้องดำเนินคดี 2.หยุดยึดทรัพย์ บังคับคดี ขายทอดตลาดหลักทรัพย์ ฟ้องขับไล่จากที่ดิน สืบทรัพย์ฟ้องล้มละลายอย่างเด็ดขาด 3.ห้ามขายหลักทรัพย์ที่ทางธนาคารซื้อไว้ไปยังบุคคลที่3 และให้เกษตรเจ้าของหลักทรัพย์อยู่โดยไม่เสียค่าชำระและค่าเช่า 4.จากข้อ 1, 2, 3 ชะลอการดำเนินการทุกกรณี อันส่งผลให้เกษตรกรสามชิกได้รับผลกระทบและต้องขายทรัพย์ค้ำประกันหนี้ให้กับกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ทางเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศขอให้ธนาคารปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และยึดถือตามกระบวนการจัดการหนี้ ภายใต้พระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตร พ.ศ.2542 และ พ.ศ.2544
ต่อมาเวลา 11.00 น.นายรัตนศักดิ์ เกสีสม ประธานเครือข่ายหนี้สินชาวนาประเทศไทย สาขาภาคใต้ และ นางภัชรัตน์ กูลชัย รองประธานเครือข่ายหนี้สินชาวนาประเทศไทย สาขาภาคใต้พร้อมด้วยตัวแทนเกษตรกรได้เข้ายื่นหนังสือให้กับ นางวรรณทณี เนาว์ศิริ ผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขากระบี่ เพื่อให้ดำเนินการช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรให้ได้ความยุติกรรมกลับมา และมีที่ทำกินที่อยู่อาศัย รวมทั้งที่ทำการเกษตรในการประกอบอาชีพต่อไป
ด้าน นางวรรณทณี เนาว์ศิริ ผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขากระบี่ กล่าวว่า ในเรื่องของความเดือดร้อนกลุ่มเกษตรที่มาชุมนุมนี้ในส่วนของธนาคารอาคารสงเคราะห์สาขากระบี่ เองนั้นคงไม่มีอำนาจในการตัดสินใจแต่อย่างใด เนื่องจากเรื่องดังกล่าวต้องให้ทางธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำนักงานใหญ่ประชุมคณะกรรมการการทำงาน ว่าผลการแก้ไขปัญหาจะออกมาอย่างไร ซึ่งตนเองไม่สามารถกำหนดเวลาได้ ดังนั้น ต้องยื่นเรื่องไปยังส่วนกลางเมื่อผลการประชุมออกมาเป็นอย่างไรจะแก้ไขความเดือดร้อนให้อย่างแน่นอน
นายรัตนศักดิ์ เกสีสม ประธานเครือข่ายหนี้สินชาวนาประเทศไทย กล่าวภายหลังการยื่นหนังสือให้ผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขากระบี่ กลุ่มผู้ประท้วงจะไม่มีการเคลื่อนย้ายไปไหนอย่างเด็ดขาดจะปักหลักอยู่กินนอน หน้าบริเวณธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขากระบี่ จนกว่า 3 ข้อเสนอจะได้รับการแก้ไข และจะมีกลุ่มเกษตรจาก 14 จังหวัดเดินทางมาสมทบอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะได้ข้อสรุปที่ทางกลุ่มเครือข่าย และสมาชิกได้รับความพอใจต่อไป
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (26 พ.ค.) ม็อบเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย สาขาภาคใต้ กว่า 200 คน ได้เดินทางมาชุมนุมประท้วงหน้า ที่ทำการธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขากระบี่ ซ.ร่วมจิตร่วมใจ ถ.มหาราช ต.ปากน้ำ อ.เมืองกระบี่ ยื่น 3 ข้อเสนอต่ธนาคาร โดยมี นายรัตนศักดิ์ เกสีสม ประธานเครือข่ายหนี้สินชาวนาประเทศไทย สาขาภาคใต้ และ นางภัชรัตน์ กูลชัย รองประธานเครือข่ายหนี้สินชาวนาประเทศไทย สาขาภาคใต้เป็นแกนนำ พร้อมใช้รถขยายเสียงปราศัยเรียกร้องข้อเสนอ ที่บริเวณหน้าธนาคาร
นายรัตนศักดิ์ เกสีสม ประธานเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย สาขาภาคใต้ กล่าวว่าการมาชุมนุมครั้งนี้ เพื่อต้องการความเป็นธรรมให้แก่สมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เนื่องจากที่ผ่านมา คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรได้เคยมีมติในการประชุมครั้งที่ 5/2550 วันที่ 20 กันยายน 2550เห็นชอบให้สถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เป็นนิติบุคคลตามมาตร 37/1 แต่เนื่องจากธนาคารอาคารเพิกเฉยมิได้ชะลอการดำเนินทางกฎหมายต่อเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯยังผลให้เกษตรกรต้องสูญเสียที่ดินทำกินหรือที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐาน จึงขอเรียกร้องให้ธนาคารยุติการดำเนินการกับสมาชิกดังต่อไปนี้
1.หยุดทำการฟ้องร้องดำเนินคดี 2.หยุดยึดทรัพย์ บังคับคดี ขายทอดตลาดหลักทรัพย์ ฟ้องขับไล่จากที่ดิน สืบทรัพย์ฟ้องล้มละลายอย่างเด็ดขาด 3.ห้ามขายหลักทรัพย์ที่ทางธนาคารซื้อไว้ไปยังบุคคลที่3 และให้เกษตรเจ้าของหลักทรัพย์อยู่โดยไม่เสียค่าชำระและค่าเช่า 4.จากข้อ 1, 2, 3 ชะลอการดำเนินการทุกกรณี อันส่งผลให้เกษตรกรสามชิกได้รับผลกระทบและต้องขายทรัพย์ค้ำประกันหนี้ให้กับกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ทางเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศขอให้ธนาคารปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และยึดถือตามกระบวนการจัดการหนี้ ภายใต้พระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตร พ.ศ.2542 และ พ.ศ.2544
ต่อมาเวลา 11.00 น.นายรัตนศักดิ์ เกสีสม ประธานเครือข่ายหนี้สินชาวนาประเทศไทย สาขาภาคใต้ และ นางภัชรัตน์ กูลชัย รองประธานเครือข่ายหนี้สินชาวนาประเทศไทย สาขาภาคใต้พร้อมด้วยตัวแทนเกษตรกรได้เข้ายื่นหนังสือให้กับ นางวรรณทณี เนาว์ศิริ ผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขากระบี่ เพื่อให้ดำเนินการช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรให้ได้ความยุติกรรมกลับมา และมีที่ทำกินที่อยู่อาศัย รวมทั้งที่ทำการเกษตรในการประกอบอาชีพต่อไป
ด้าน นางวรรณทณี เนาว์ศิริ ผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขากระบี่ กล่าวว่า ในเรื่องของความเดือดร้อนกลุ่มเกษตรที่มาชุมนุมนี้ในส่วนของธนาคารอาคารสงเคราะห์สาขากระบี่ เองนั้นคงไม่มีอำนาจในการตัดสินใจแต่อย่างใด เนื่องจากเรื่องดังกล่าวต้องให้ทางธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำนักงานใหญ่ประชุมคณะกรรมการการทำงาน ว่าผลการแก้ไขปัญหาจะออกมาอย่างไร ซึ่งตนเองไม่สามารถกำหนดเวลาได้ ดังนั้น ต้องยื่นเรื่องไปยังส่วนกลางเมื่อผลการประชุมออกมาเป็นอย่างไรจะแก้ไขความเดือดร้อนให้อย่างแน่นอน
นายรัตนศักดิ์ เกสีสม ประธานเครือข่ายหนี้สินชาวนาประเทศไทย กล่าวภายหลังการยื่นหนังสือให้ผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขากระบี่ กลุ่มผู้ประท้วงจะไม่มีการเคลื่อนย้ายไปไหนอย่างเด็ดขาดจะปักหลักอยู่กินนอน หน้าบริเวณธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขากระบี่ จนกว่า 3 ข้อเสนอจะได้รับการแก้ไข และจะมีกลุ่มเกษตรจาก 14 จังหวัดเดินทางมาสมทบอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะได้ข้อสรุปที่ทางกลุ่มเครือข่าย และสมาชิกได้รับความพอใจต่อไป
