นครศรีธรรมราช – ผู้การฯ นครศรีธรรมราชสั่งตั้งกรรมการสอบกรณีตำรวจใช้ปืนเอชเค.ยิงสลุตรับ "สมชาย-เจ๊แดง"ทำพิธีบวงสรวงที่วัดเขาขุนพนม ระบุใช้ทรัพย์สินราชการในพิธีส่วนตัว ด้านแหล่งข่าวเผย สภ.พรหมคีรีตั้ง กก.สอบแล้ว ตำรวจชั้นประทวนมือยิงส่อแววรับผิดคนเดียว ทั้งที่ไปยิงเพราะนายสั่ง
ภายหลังจากที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยา พร้อมบรรดาคนในตระกูลชินวัตรสวมชุดขาวนมัสการศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช ทำพิธีบวงสรวงองค์จตุคามรามเทพที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จากนั้นได้เดินทางไปทำพิธีบวงสรวงสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชภายในวัดเขาขุนพนม อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช และเดินทางต่อไปนมัสการพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 18 พ.ค.2551 ที่ผ่านมา และมีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการเดินสายบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์สืบชะตาแก้เคล็ดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และสิ่งที่หลายฝ่ายให้ความสนใจนั้นในช่วงหนึ่งของการประกอบพิธีกรรม ที่วัดเขาขุนพนม ภายหลังจากพิธีบวงสรวง ก็ได้มีตำรวจชั้นประทวนแต่งเครื่องแบบ ใช้อาวุธปืน เอชเค.ยิงสลุตขึ้นฟ้าจำนวน 21 นัด ทำให้กลายเป็นประเด็นของการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
พล.ต.ต.กระจ่าง สุวรรณรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช(ผบก.ภ.จว.นศ.)เปิดเผยว่าหลังจากเกิดเรื่องนี้ขึ้นก็ได้ให้ผู้กำกับพรหมคีรีรายงานข้อเท็จจริงมาให้ทราบภายใน 1 สัปดาห์ ซึ่งคงต้องดูรายละเอียดว่าเป็นการยิงสลุตให้กับสมเด็จพระเจ้าตากสินหรือไม่อย่างไร ภายหลังจากรับรายงานจึงจะมีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงตามระเบียบที่มีอยู่
ต่อข้อถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการเดินทางไปทำพิธีบวงสรวงสมเด็จพระเจ้าตากสินเป็นการส่วนตัว แต่มีการใช้ทรัพย์สินของทางราชการในการยิงสลุตว่าจะเหมาะสมหรือไม่ พล.ต.ต.กระจ่าง กล่าวว่า ต้องดูในข้อเท็จจริง แต่ทราบว่ามีการใช้ปืนเอชเค.ยิงสลุตจริง ซึ่งไม่เกิน 1 อาทิตย์จะทราบผล ซึ่งในวันดังกล่าวความจริงตนเองก็ไปต้อนรับและติดตามนายสมชายและคณะ แต่ได้แยกตัวภายหลังร่วมพิธีไหว้ศาลหลักเมือง โดยตนติดภารกิจไปเป็นเจ้าภาพเผาศพจึงไม่ได้เดินทางไปที่วัดเขาขุนพนมด้วย อย่างไรก็ตามทั้งหมดคงต้องดูรายละเอียด และเท่าที่ทราบคนส่วนใหญ่นิยมในการจุดประทัดมากกว่า
ขณะที่ พ.ต.อ.เอิบ คงกล่ำ ผกก.สภ.พรหมคีรี เปิดเผยเพียงสั้นๆ ว่ายังไม่ได้มีการตั้งกรรมการสอบสวนเรื่องนี้ เพียงแต่ทางผู้การให้สอบข้อเท็จจริงและชี้แจงให้ทราบ และว่าการไปยิงสลุตนั้นถือเป็นเรื่องประเพณีที่ทางวัดขอให้ทางตำรวจไปช่วย
ขณะที่นายตำรวจระดับสูงรายหนึ่งเปิดเผยว่า การยิงสลุตทำได้เฉพาะยิงให้กับในหลวงในพิธีวันเฉลิมพระชนมพรรษา หรือเพื่อเป็นเกียรติยศ ไม่ใช่จะยิงให้ใครก็ได้ หากจะอ้างยิงสลุตถวายให้กับสมเด็จพระเจ้าตากสินก็จะต้องกระทำเฉพาะพิธีบวงสรวงองค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือการบวงสรวงกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ สามัญชนไม่มีสิทธิในพิธีถึงขนาดใช้อาวุธปืนยิงสลุต ยิ่งเป็นพิธีบวงสรวงส่วนตัวถือว่าไม่เป็นการสมควร ไม่มีใครปฏิบัติ อย่างไรก็ตามอาจจะเป็นข้ออ้างเป็นการยิงแก้บนหรือถวายแด่สมเด็จพระเจ้าตากสิน ก็ไม่สำคัญเท่ากับเหตุใดจึงนำของหลวงมาใช้ในพิธีส่วนตัว และเป็นอาวุธปืนที่ใช้ในราชการสงครามด้วย และตำรวจระดับชั้นประทวนไม่มีทางหาญกล้าที่จะเอาอาวุธปืนเอชเค.มาใช้งานในลักษณะเช่นนี้หากนายไม่สั่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด สภ.พรหมคีรีได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนนายตำรวจชั้นประทวนคนที่ยิงสลุตเพื่อเอาผิดแล้ว ทั้งที่การยิงสลุตในวันดังกล่าว มีตำรวจชั้นประทวนอีกนายที่ทราบเรื่องนี้ได้เปิดเผยว่านายตำรวจคนดังกล่าวได้รับคำสั่งจากเจ้านายให้ไปยิง โดยใช้กระสุนปืนจริงจำนวน 21 นัด เหตุที่มีการเลือกปืน เอชเค.เนื่องจากมีความแตกต่างจากปืนเอ็ม 16 โดยปืนเอชเค.จะมีเสียงดังและหนักแน่นมากกว่าปืนเอ็ม 16
นายตำรวจระดับสูงอีกนายซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ได้กล่าวในเรื่องนี้ว่าเท่าที่สอบถามนั้นได้ความว่าตำรวจชั้นประทวนคนดังกล่าวได้รับคำสั่งจากนายตำรวจระดับผู้บังคับบัญชานายหนึ่ง ให้มาทำการยิงสลุต 21 นัดตามคำขอของเจ้าอาวาส แต่เมื่อมีการสอบถามว่าเป็นข่าวได้หรือไม่ นายตำรวจคนดังกล่าวถึงกับตกใจและบอกว่าอย่าไปเป็นข่าวไม่อยากให้บานปลายไปมากกว่านี้ และไม่ขอเกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าขณะนี้ มีความพยายามในการปัดความรับผิดชอบจากนายตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการนำปืนเอชเคมายิงสลุต โดยพยายามโยนความผิดไปให้ผู้ยิง เนื่องจากไม่มีคำสั่งอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรและไม่มีการลงบันทึกประจำวันไว้ ซึ่งมีแนวโน้มว่าตำรวจชั้นประทวนคนดังกล่าวจะถูกลงโทษทางวินัยเพียงลำพัง
ขณะที่ผู้รู้เกี่ยวกับพิธีกรรมซึ่งปัจจุบันรับราชการอยู่ในหน่วยงานหนึ่ง ซึ่งคร่ำหวอดและเป็นที่รู้จักในสังคมนครศรีธรรมราช เกี่ยวกับขั้นตอนการประกอบพิธีกรรมตามคติพราหมณ์ เปิดเผยว่าการบวงสรวงดังกล่าวนั้น เท่าที่ติดตามดูน่าจะเป็นการบวงสรวงขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อ ย้อนกลับไปดูพงศาวดารต่างๆ ในสมัยโบราณจะเห็นได้ชัดว่าแม่ทัพนายกองก่อนที่จะทำการศึกหรือทำการใหญ่อย่างใดอย่างหนึ่งจะมีการประกอบพิธีกรรมในลักษณะเช่นนี้
"การยิงสลุตนั้นตั้งข้อสังเกตได้ 2 กรณี กรณีแรกคือการยิงสลุตเพื่อเป็นเกียรติกับผู้ที่ใหญ่ที่สุดในการทำพิธีกรรม และกรณีต่อมาคือการยิงสลุตเพื่อถวายพระเกียรติแด่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แต่ในการอย่างหลังนี้การประกอบพิธีกรรมที่ถูกที่ควรไม่ใช่เป็นลักษณะเช่นนี้ จะต้องมีการประกอบพิธีเฉพาะถวายเท่านั้นไม่ได้ประกอบพิธีเป็นการส่วนตัว และการยิงสลุตด้วยอาวุธปืนสงครามไม่ต้องพูดถึงว่ามันเหมาะควรหรือไม่ เพราะเท่าที่ดูแล้วการนี่เป็นการบวงสรวงส่วนตัว"
แหล่งข่าวคนเดิมกล่าวต่อว่า สิ่งที่น่ากลัวอีกเรื่องคือการทำลายโบราณสถานปราสาทหินที่ จ.บุรีรัมย์ ถ้าศึกษาต่อและไปถามผู้ในความเชื่อทางคติพราหมณ์ ยิ่งมีแท่นศิวลึงค์ในที่แห่งนั้นถูกทำลาย ยิ่งน่ากลัวว่าเป็นการทำพิธีทำลายอย่างแน่นอน พื้นที่ตรงนั้นอยู่บนที่สูงและตามคติเชื่อว่าผู้ที่ปราบยุคเข็ญให้กับโลกมนุษย์คืออวตารของพระนารายมาเป็นกษัตริย์ ในประเทศอินเดียจะมีความเชื่อลักษณะเช่นนี้ ทำนองเดียวกัน การทำลายลักษณะนี้ ข้อสังเกตคือการทำลายต้นตอของอวตารการปราบทุกเข็ญในโลกมนุษย์ใช่หรือไม่ ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องรีบสะสาง