ศูนย์ข่าวภูเก็ต- ตัวแทนภาคประชาชนของจังหวัดภูเก็ต ทั้ง ส.ส. ส.ว. และผู้บริหารจังหวัดภูเก็ต ร่วมหารือหาแนวทางการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะการผลักดันโครงการเมกะโปรเจกต์ และแนวทางการพัฒนาพื้นที่รูปแบบพิเศษ ขณะที่กรรมาธิการท่องเที่ยว ส.ว. เตรียมลงมารับฟังปัญหาท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน
นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังร่วมประชุมหารือถึงแนวทางการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตร่วมกับร้อยโทภูมิศักดิ์ หงส์หยก ส.ว.ระบบสรรหา นางธันรัศม์ อัจฉริยะฉาย ส.ว.ภูเก็ตและประธานคณะกรรมาธิการท่องเที่ยววุฒิสภา นายทศพร เทพบุตร นายเรวัติ อารีรอบ ส.ส.ระบบเขตเลือกตั้ง และนางเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ ส.ส.ระบบสัดส่วน ซึ่งมีขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อหาแนวทางการพัฒนาจังหวัดภูเก็ต
โดยเฉพาะในเรื่องการผลักดันโครงการเมกกะโปรเจคท์ มารองรับการท่องเที่ยว และโครงการที่จะมาแก้ไขปัญหา อาทิ ปัญหาขยะ การพัฒนาระบบขนส่งมวลชน ตลอดจนแนวทางการจัดหางบประมาณมาดำเนินการ รวมถึงการกำหนดทิศทางรูปแบบการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตว่า ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่ได้มีการพบปะระหว่างตัวแทนภาคประชาชนทั้ง ส.ส. ส.ว.และทีมผู้บริหารจังหวัด ได้หารือกันในหลายๆ เรื่องและเป็นปัญหาเร่งด่วน รวมทั้งเรื่องยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด และกลุ่มจังหวัด
ที่ผ่านมาเราพยายามผลักดันโครงการแผนงานต่างๆ ที่เกินศักยภาพของจังหวัด หมายถึงในกรอบวงเงินปกติและงบประมาณกลุ่มยุทธศาสตร์จังหวัด ทราบว่าปีนี้ สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณให้ไม่เกิน 150 ล้านบาท แต่จังหวัดภูเก็ตมีรายได้เข้าประเทศปีละเกือบแสนล้าน ฉะนั้นงบที่จะมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดไม่พออยู่แล้ว เราจึงได้มาหารือเรื่องที่เป็นปัญหาเร่งด่วน
เช่น ปัญหาขยะ การเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคม การแก้ไขปัญหาจราจร การทำศูนย์ประชุมนานาชาติ โครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต หรือระบบขนส่งมวลชน ถือว่าเป็นเมกกะโปรเจกต์ที่ทุกภาคส่วนทั้งภาค ส.ส. ส.ว. และข้าราชการจะต้องช่วยกัน เพื่อให้มีเป้าหมายเดียวกันในการผลักดันโครงการในทุกเวที
รวมไปถึงเรื่องหารกำหนดรูปแบบการบริหารจังหวัดภูเก็ตจะให้เป็นอย่างไร โดยมีการเสนอว่าควรตั้งคณะทำงาน ศึกษาว่ารูปแบบที่จะทำให้จังหวัดภูเก็ตเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือพื้นที่พิเศษ
นอกจากนี้ได้หารือกันถึงการดึงรายได้ภาษีที่ควรจะเป็นของจังหวัดกลับมาสู่ภูเก็ตเช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และอื่นๆ ตรงนี้จะเป็นการผลักดันในการเพิ่มงบประมาณ และเพิ่มรายได้มาสู่จังหวัดด้วย
ด้านร้อยโทภูมิศักดิ์ หงส์หยก ส.ว.ระบบสรรหา กล่าวว่า ตัวแทนของจังหวัดภูเก็ตที่มาจากการเลือกตั้งและจากการแต่งตั้ง ทั้ง ส.ส. ส.ว. และเลขานุการรัฐมนตรี มีความเห็นว่าการที่จะแก้ปัญหาปัญหาจังหวัดภูเก็ตให้เป็นเอกภาพ ควรจะมีการรับฟังข้อมูลจาก ผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งตรงกับ ความต้องการของผู้ว่าราชการจังหวัดที่ จะขอให้ตัวแทนภาคประชาชน ส.ส. ส.ว. ให้การสนับสนุนตามที่จะสนับสนุนได้ จึงได้มาพูดคุยกันในเรื่องโครงการและแนวทางการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ตซึ่งมีอยู่แล้ว แต่การผลักดันให้เป็นรูปธรรมนั้น จะต้องมีการประสานงาน ให้เป็นเอกภาพทั้งในส่วนของตัวแทน และผู้บริหารในระดับจังหวัด
ฉะนั้น ควรที่จะมีการพูดคุยกันและต้องมองว่าเรื่องบประมาณตามแผนงานงบพิเศษ เพื่อจะให้ได้โครงการมาแก้ปัญหาและแหล่งรายได้นั้น จำเป็นต้องมีเงิน โดยเรื่องงบได้หารือกันว่าทำอย่างไรจะได้รับการสนับสนุนในเรื่องงบประมาณที่เหมาะสม เพราะเท่าที่ดูพบว่าภูเก็ตเสียเปรียบพื้นที่อื่น ในเรื่องประชากร ระบบงาน การที่จะไปชี้แจงให้ส่วนกลางเข้าใจอันนี้จึงต้องประสานกัน และเรามองว่าการจะให้ภูเก็ต เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือพื้นที่ปกครองรูปแบบพิเศษอันไหนที่จะทำให้เกิดประสิทธิภาพประสิทธิผลได้ดี และง่ายตามระเบียบข้อบังคับที่มีอยู่เราก็จะเลือกตามแนวทางนั้นและก็โครงการต่างๆที่วางไว้ทำอย่างไรที่จะทำให้ประสบผลสำเร็จ
ขณะเดียวกันประชาชนทุกภาคส่วนควรสนับสนุน ซึ่งจะทำให้เกิดอำนาจการต่อรองรวมทั้งแนวทางการชี้แจงที่มีประสิทธิภาพต่อรัฐบาลได้ ซึ่งคงจะต้องมีการพูดคุยกันอีกในหลายวาระ
ด้านนางธันยรัศม์ อัจฉริยะฉาย ส.ว. เลือกตั้ง จ.ภูเก็ต กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมาธิการท่องเที่ยว ทำงานควบคู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะได้ติดตามนโยบายรัฐบาล และศึกษาปัญหาและอุปสรรคด้านการท่องเที่ยว โดยการแก้ไขปัญหานั้น จะดำเนินการในภาพรวมจะมีการออกสัญจรและจัดประชุมเชิงปฏิบัติการในจังหวัดที่เป็นหัวเมืองและมีปัญหาด้านการท่องเที่ยว ด้วยการเชิญผู้ประกอบการภาครัฐและองค์กรท้องถิ่น มาพูดคุยว่ามีปัญหาในการพัฒนาอย่างไร
โดยจริงๆ แล้ว เรื่องการท่องเที่ยวภาคเอกชนจะรุดหน้ากว่าทางภาครัฐ และจะรับทราบปัญหาที่ภาครัฐไม่สามารถเข้ามาช่วยเหลือได้ เช่น จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามามาก ทำให้ระบบสาธารณูปโภครองรับไม่เพียง อย่างที่สนามบินนานาชาติภูเก็ต มีนักท่องเที่ยว ร้องเรียนเข้ามาถึงความล่าช้าในการให้บริการตรวจคนเข้าเมือง ทำให้นักท่องเที่ยวไม่ประทับใจ
นอกจากนี้ การเดินทางจากสนามบินไปยังที่พักแต่ละแห่งที่ใช้เวลาในการเดินทางนาน ฉะนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับการประกาศเป็นเมืองนานาชาติของจังหวัดภูเก็ต เราก็จะต้องไปผลักดัน หรือเก็บขอมูลปัญหานำไปเสนอแนะให้รัฐบาลแก้ไข คิดว่าในเบื้องต้นจะลงมารับฟังปัญหาในพื้นที่จังหวัดฝั่งอันดามัน จากนั้นไปเกาะสมุยและไปยังภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พัทยา และเกาะช้าง จังหวัดตราด โดยจะดูภาพรวมทั้งประเทศไม่เฉพาะจังหวัดภูเก็ต
นางธันยรัศม์ ยังกล่าวว่า ในส่วนของปัญหาภูเก็ตนั้น หลายฝ่ายมีความเห็นตรงกันว่าถึงเวลาแล้วที่ จ.ภูเก็ต ต้องมีศูนย์ประชุมนานาชาติ เพราะเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มาประชุมและพักผ่อน ฉะนั้น ได้มีการผลักดันไปหลายครั้งแต่ยังไม่มีข้อสรุปในฐานะที่ตนดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการท่องเที่ยววุฒิสภา ก็จะไปช่วยผลักดันเพิ่มเติม เพราะอยากจะให้โครงการนี้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด
นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังร่วมประชุมหารือถึงแนวทางการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตร่วมกับร้อยโทภูมิศักดิ์ หงส์หยก ส.ว.ระบบสรรหา นางธันรัศม์ อัจฉริยะฉาย ส.ว.ภูเก็ตและประธานคณะกรรมาธิการท่องเที่ยววุฒิสภา นายทศพร เทพบุตร นายเรวัติ อารีรอบ ส.ส.ระบบเขตเลือกตั้ง และนางเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ ส.ส.ระบบสัดส่วน ซึ่งมีขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อหาแนวทางการพัฒนาจังหวัดภูเก็ต
โดยเฉพาะในเรื่องการผลักดันโครงการเมกกะโปรเจคท์ มารองรับการท่องเที่ยว และโครงการที่จะมาแก้ไขปัญหา อาทิ ปัญหาขยะ การพัฒนาระบบขนส่งมวลชน ตลอดจนแนวทางการจัดหางบประมาณมาดำเนินการ รวมถึงการกำหนดทิศทางรูปแบบการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตว่า ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่ได้มีการพบปะระหว่างตัวแทนภาคประชาชนทั้ง ส.ส. ส.ว.และทีมผู้บริหารจังหวัด ได้หารือกันในหลายๆ เรื่องและเป็นปัญหาเร่งด่วน รวมทั้งเรื่องยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด และกลุ่มจังหวัด
ที่ผ่านมาเราพยายามผลักดันโครงการแผนงานต่างๆ ที่เกินศักยภาพของจังหวัด หมายถึงในกรอบวงเงินปกติและงบประมาณกลุ่มยุทธศาสตร์จังหวัด ทราบว่าปีนี้ สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณให้ไม่เกิน 150 ล้านบาท แต่จังหวัดภูเก็ตมีรายได้เข้าประเทศปีละเกือบแสนล้าน ฉะนั้นงบที่จะมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดไม่พออยู่แล้ว เราจึงได้มาหารือเรื่องที่เป็นปัญหาเร่งด่วน
เช่น ปัญหาขยะ การเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคม การแก้ไขปัญหาจราจร การทำศูนย์ประชุมนานาชาติ โครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต หรือระบบขนส่งมวลชน ถือว่าเป็นเมกกะโปรเจกต์ที่ทุกภาคส่วนทั้งภาค ส.ส. ส.ว. และข้าราชการจะต้องช่วยกัน เพื่อให้มีเป้าหมายเดียวกันในการผลักดันโครงการในทุกเวที
รวมไปถึงเรื่องหารกำหนดรูปแบบการบริหารจังหวัดภูเก็ตจะให้เป็นอย่างไร โดยมีการเสนอว่าควรตั้งคณะทำงาน ศึกษาว่ารูปแบบที่จะทำให้จังหวัดภูเก็ตเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือพื้นที่พิเศษ
นอกจากนี้ได้หารือกันถึงการดึงรายได้ภาษีที่ควรจะเป็นของจังหวัดกลับมาสู่ภูเก็ตเช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และอื่นๆ ตรงนี้จะเป็นการผลักดันในการเพิ่มงบประมาณ และเพิ่มรายได้มาสู่จังหวัดด้วย
ด้านร้อยโทภูมิศักดิ์ หงส์หยก ส.ว.ระบบสรรหา กล่าวว่า ตัวแทนของจังหวัดภูเก็ตที่มาจากการเลือกตั้งและจากการแต่งตั้ง ทั้ง ส.ส. ส.ว. และเลขานุการรัฐมนตรี มีความเห็นว่าการที่จะแก้ปัญหาปัญหาจังหวัดภูเก็ตให้เป็นเอกภาพ ควรจะมีการรับฟังข้อมูลจาก ผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งตรงกับ ความต้องการของผู้ว่าราชการจังหวัดที่ จะขอให้ตัวแทนภาคประชาชน ส.ส. ส.ว. ให้การสนับสนุนตามที่จะสนับสนุนได้ จึงได้มาพูดคุยกันในเรื่องโครงการและแนวทางการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ตซึ่งมีอยู่แล้ว แต่การผลักดันให้เป็นรูปธรรมนั้น จะต้องมีการประสานงาน ให้เป็นเอกภาพทั้งในส่วนของตัวแทน และผู้บริหารในระดับจังหวัด
ฉะนั้น ควรที่จะมีการพูดคุยกันและต้องมองว่าเรื่องบประมาณตามแผนงานงบพิเศษ เพื่อจะให้ได้โครงการมาแก้ปัญหาและแหล่งรายได้นั้น จำเป็นต้องมีเงิน โดยเรื่องงบได้หารือกันว่าทำอย่างไรจะได้รับการสนับสนุนในเรื่องงบประมาณที่เหมาะสม เพราะเท่าที่ดูพบว่าภูเก็ตเสียเปรียบพื้นที่อื่น ในเรื่องประชากร ระบบงาน การที่จะไปชี้แจงให้ส่วนกลางเข้าใจอันนี้จึงต้องประสานกัน และเรามองว่าการจะให้ภูเก็ต เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือพื้นที่ปกครองรูปแบบพิเศษอันไหนที่จะทำให้เกิดประสิทธิภาพประสิทธิผลได้ดี และง่ายตามระเบียบข้อบังคับที่มีอยู่เราก็จะเลือกตามแนวทางนั้นและก็โครงการต่างๆที่วางไว้ทำอย่างไรที่จะทำให้ประสบผลสำเร็จ
ขณะเดียวกันประชาชนทุกภาคส่วนควรสนับสนุน ซึ่งจะทำให้เกิดอำนาจการต่อรองรวมทั้งแนวทางการชี้แจงที่มีประสิทธิภาพต่อรัฐบาลได้ ซึ่งคงจะต้องมีการพูดคุยกันอีกในหลายวาระ
ด้านนางธันยรัศม์ อัจฉริยะฉาย ส.ว. เลือกตั้ง จ.ภูเก็ต กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมาธิการท่องเที่ยว ทำงานควบคู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะได้ติดตามนโยบายรัฐบาล และศึกษาปัญหาและอุปสรรคด้านการท่องเที่ยว โดยการแก้ไขปัญหานั้น จะดำเนินการในภาพรวมจะมีการออกสัญจรและจัดประชุมเชิงปฏิบัติการในจังหวัดที่เป็นหัวเมืองและมีปัญหาด้านการท่องเที่ยว ด้วยการเชิญผู้ประกอบการภาครัฐและองค์กรท้องถิ่น มาพูดคุยว่ามีปัญหาในการพัฒนาอย่างไร
โดยจริงๆ แล้ว เรื่องการท่องเที่ยวภาคเอกชนจะรุดหน้ากว่าทางภาครัฐ และจะรับทราบปัญหาที่ภาครัฐไม่สามารถเข้ามาช่วยเหลือได้ เช่น จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามามาก ทำให้ระบบสาธารณูปโภครองรับไม่เพียง อย่างที่สนามบินนานาชาติภูเก็ต มีนักท่องเที่ยว ร้องเรียนเข้ามาถึงความล่าช้าในการให้บริการตรวจคนเข้าเมือง ทำให้นักท่องเที่ยวไม่ประทับใจ
นอกจากนี้ การเดินทางจากสนามบินไปยังที่พักแต่ละแห่งที่ใช้เวลาในการเดินทางนาน ฉะนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับการประกาศเป็นเมืองนานาชาติของจังหวัดภูเก็ต เราก็จะต้องไปผลักดัน หรือเก็บขอมูลปัญหานำไปเสนอแนะให้รัฐบาลแก้ไข คิดว่าในเบื้องต้นจะลงมารับฟังปัญหาในพื้นที่จังหวัดฝั่งอันดามัน จากนั้นไปเกาะสมุยและไปยังภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พัทยา และเกาะช้าง จังหวัดตราด โดยจะดูภาพรวมทั้งประเทศไม่เฉพาะจังหวัดภูเก็ต
นางธันยรัศม์ ยังกล่าวว่า ในส่วนของปัญหาภูเก็ตนั้น หลายฝ่ายมีความเห็นตรงกันว่าถึงเวลาแล้วที่ จ.ภูเก็ต ต้องมีศูนย์ประชุมนานาชาติ เพราะเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มาประชุมและพักผ่อน ฉะนั้น ได้มีการผลักดันไปหลายครั้งแต่ยังไม่มีข้อสรุปในฐานะที่ตนดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการท่องเที่ยววุฒิสภา ก็จะไปช่วยผลักดันเพิ่มเติม เพราะอยากจะให้โครงการนี้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด