สตูล – เรือประมงสตูลไม่กล้าออกหากินห่างชายฝั่ง เกรงคลื่นลมมรสุมทำเรืออับปาง ขณะที่ลูกค้าโวยราคาสัตว์น้ำขาดตลาดแถมยังมีราคาแพง
วันนี้ (13 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคลื่นลมในทะเลอันดามัน ด้านจังหวัดสตูลระยะนี้ยังคงมีความรุนแรงของลมมรสุม ทำให้คลื่นมีความสูง 2-3 เมตร เรือประมงพื้นบ้านและเรือประมงชายฝั่งยังคงนำเรือจอดเทียบท่า เพื่อรอดูความแรงลม ในขณะที่เรือประมงบางลำนำเรือออกหาปลาไม่ห่างจากฝั่งมากนัก เพราะเกรงลมมรสุมในระยะนี้
ขณะที่ราคาอาหารสัตว์น้ำ จากการสำรวจราคาสัตว์น้ำในตลาดนัดบีบี เขตเทศบาลตำบลคลองขุด อ.เมือง จ.สตูล พบว่า ระยะนี้ก็มีราคาสูงขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากปัญหาลมมรสุมในทะเลทำให้เรือประมงไม่กล้าออกหาปลาจอดเทียบท่ากันเต็มลำคลอง ประกอบกับปัจจัยการผลิตอย่างน้ำมันก็มีราคาสูงขึ้น ทำให้ราคาอาหารทะเลในตลาดสูงตามไปด้วย
ด้าน นางเสริมศรี บัวเพ็ชร อายุ 59 ปี แม่ค้าขาย กุ้ง ปลาหมึก อยู่ 680 ม.4 ต.เทศบาลตำบลคลองขุด อ.เมือง จ.สตูล เปิดเผยว่า ช่วงนี้หน้ามรุสม ชาวประมงออกหากุ้งและปลาหมึกได้น้อยจึงทำให้กุ้งและปลาหมึกขาดตลาด และอยู่ในช่วงเศรษฐ์กิจข้าวของแพง จึงทำให้ราคา กุ้งปลาหมึกขึ้นไปด้วย
จากเดิมที่ขายกุ้งกิโลกรัมละ 40-150 บาท และปัจจุบันนี้ขายกิโลกรัมละ 80-180 บาท และปลาหมึกเดิมที่ขายไว้ 60-80 บาท และปัจจุบัน ขาย 80-100 บาท ทำให้ลูกค้าลดลงและได้กำไรเพียงวันละ 200-300 บาท บางวันมาขายแต่ก็ยังไม่หลุดค่าเช่าสถานที่ ลูกค้าในช่วงนี้ก็เลือกบริโภคมากขึ้นจะหันไปบริโภคเฉพาะ หรือซื้อเท่าที่จำเป็นกินต่อมื้อเท่านั้น บางรายชอบทำกับข้าวเองก็เปลี่ยนมาเป็นซื้อแกงถุง ที่ไม่ต้องยุ่งยากแทน
นางปรีดา นาคกล่ำ อายุ 46 ปีแม่ค้าขายปลาในตลาดนัด กล่าวว่า ตนทำอาชีพค้าขายปลาทูและอาหารทะเลมา 7 ปี และ ถือว่าปีนี้แย่สุดๆ การค้าขายไม่ดีพอสมควรเพราะพิษเศรษฐ์กิจน้ำมันแพงลูกค้าลดลงต่างจากเมื่อก่อนอย่างมาก ลูกค้าประจำก็ห่างเหินจากที่ขายได้วันละ 100 กิโลกรัม ตอนนี้เหลือเพียงแค่ 60 กิโลกรัมเท่านั้นเอง และลูกค้าประจำบางรายต่างต่อรองราคาให้ลดลงอีก เพราะราคาปลาทูในเมื่อก่อนที่ขายเพียงกิโลกรัมละ 18-25 บาท
พอเศรษฐกิจแย่ ตนจึงเพิ่มราคาปลาทูขึ้นในราคากิโลกรัมละ 30-40 บาท เพราะถือว่าการขึ้นราคานี้จะได้กำไรไม่มากนัก แต่พอช่วยค่าน้ำมันรถพ่วงที่ตนกับสามีนำไปรับปลาทูและอาหารทะเลที่ท่าเรือใน จ.สตูล ที่นำมาขายตามตลาดนัดใน จ.สตูล
