น้ำมันแพง – มรสุม ดันราคาสัตว์น้ำตลาดสดนครตรังเพิ่ม

ตรัง – ปัญหาราคาน้ำมันแพงบวกกับช่วงเกิดมรสุมในพื้นที่ภาคใต้ ส่งผลให้ราคาสัตว์น้ำในตลาดสดเทศบางนครตรังมีการปรับตัวสูงขึ้น

จากภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนในยุคปัจจุบัน ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง รวมไปถึงผู้ประกอบการจำหน่ายอาหารทะเล ที่ประสบปัญหาเรือประมงงดออกทะเล เนื่องจากราคาน้ำมันแพง และปัญหาของคลื่นลมในช่วงมรสุม จนส่งผลให้ราคาอาหารทะเล ในตลาดสดเทศบาลนครตรัง มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดิมสูงพอสมควร

นางวันนา เอกรัตนกาล ผู้ประกอบการจำหน่ายอาหารทะเล ในตลาดสดเทศบาลนครตรัง กล่าวว่า ขณะนี้ราคาอาหารทะเลในท้องตลาด มีการปรับขึ้นราคาจากเดิมอีกกิโลกรัมละ 10 บาท โดยเฉพาะปลากะพง ขณะนี้อยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 160 บาท จากเดิมกิโลกรัมละ 150 บาท ปลาทู อยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 50 บาท จากเดิมกิโลกรัมละ 40 บาท ปลาจาระเม็ด อยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 150 บาท จากเดิมกิโลกรัมละ 140 บาท ปลาดาบเงิน อยู่ที่กิโลกรัมละ 60 บาท จากเดิมกิโลกรัมละ 50 บาท ปลาสำลี อยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 240 บาท จากเดิมกิโลกรัมละ 230 บาท

ในส่วนของเนื้อปูก็มีการปรับขึ้นราคาเช่นกัน โดยอยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 280 บาท จากเดิมกิโลกรัมละ 260 บาท หรือปรับเพิ่มขึ้นกิโลกรัมละ 20 บาท อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นราคาอาหารทะเลในขณะนี้ ทำให้ยอดการจำหน่ายลดลงจากเดิมถึง 50 % ซึ่งจากเดิมขายได้วันละกว่า 10,000 บาท แต่ปัจจุบันขายได้เพียงแค่วันละ 5,000-7,000 บาทเท่านั้น

นางวันนา กล่าวอีกว่า การปรับขึ้นราคาอาการทะเล มาจากค่าขนส่งที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งหากไม่มีการปรับขึ้นราคาอาหารทะเล ก็จะทำให้ผู้ประกอบการอยู่ไม่ได้ เพราะอาหารทะเลนั้น เดิมทีรับมาจากอำเภอกันตัง จังหวัดตรัง แต่ขณะนี้ส่วนใหญ่แล้วจะรับอาหารทะเลมาจากต่างจังหวัด เช่น จังหวัดสงขลา และจังหวัดระนอง เนื่องจากเรือประมงในอำเภอกันตังนั้น ได้มีการหยุดออกจับสัตว์น้ำไปแล้วจำนวนมาก ทำให้อาหารทะเลที่รับมาจากอำเภอกันตัง เกิดความขาดแคลน

ส่วนยอดการจำหน่ายอาหารทะเลที่ลดลง เป็นผลกระทบมาจากสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ จึงทำให้ประชาชนต้องมีการประหยัด และผู้บริโภคหันไปบริโภคอาหารสำเร็จรูป เช่น ซื้อแกงถุงมารับประทานเพิ่มมากขึ้น