ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ชี้ สมุนไพรไทยมีดีเร่งวิจัยพัฒนาใช้รักษาโรคหนุนลดค่าใช้จ่าย และพัฒนาเพื่อการส่งออกซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าราว 5 หมื่นล้าน/ปี ล่าสุดลงนามความร่วมมือหนุนคณะพยาบาลศาสตร์ มอ.พัฒนาภูมิปัญหาการแพทย์แผนไทยรักษาโรคแทนแผนปัจจุบัน แก้ปัญหาพฤติกรรมเสี่ยงการเจ็บป่วย และเตรียมตั้งคณะแพทย์แผนไทยรองรับการ ก่อนพัฒนาก้าวสู่ศูนย์กลางทางวิชาการทางการพยาบาลแบบองค์รวมที่ผสมผสานภูมิปัญญาตะวันออก ในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ในปี 2555
วันนี้ (13 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ห้องประชุม 1 สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) วิทยาเขตหาดใหญ่ โดย นายสุพล อารีย์กุล รองอธิการบดี ฝ่ายวิจัยและบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ลงนามความร่วมมือกับ นพ.ลือชา วนรัตน์ อธิการบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ในการลงนามความร่วมมือด้านการเรียนการสอน พัฒนาบุคลากร บริการวิชาการ ค้นคว้าวิจัย และกิจกรรมอื่นๆ โดยมี รศ.ดร.ลดาวัลย์ ประทีปชัยกูร คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ มอ. และนพ.เทวัญ ธานีรัตน์ ผู้อำนวยการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เป็นพยานในพิธีลงนาม
นพ.ลือชา วนรัตน์ อธิการบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้เริ่มฟื้นฟูการแพทย์แผนไทยมาร่วม 20 ปีที่ผ่านมา โดยกว่า 10 ปีได้เน้นความสนใจมาทดแทนการรักษาการแพทย์แผนปัจจุบัน พบว่าบางครั้งการรักษามีผลข้างเคียงต่อผู้ป่วย ทั้งนี้ ปัญหาสุขภาพของผู้ป่วยส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ซึ่งการแพทย์แผนไทยเป็นศาสตร์ ที่สามารถปรับเปลี่ยนใช้ได้สอดคล้องกับชีวิตประจำวัน อีกทั้งประเทศไทยโดยเฉพาะภาคใต้มีอุดมสมบูรณ์ด้วยสมุนไพรที่สามารถนำมาศึกษาวิจัย และเลือกใช้ในรักษาโรคได้หลายชนิด
“ปัจจุบันคนไทยมีแนวโน้มที่จะจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลต่อปีสูงขึ้นเรื่อยๆ การสนับสนุนให้พัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะทำให้ประเทศหันมาพึ่งตนเอง โดยนำภูมิปัญญาตะวันออกมาใช้การรักษาโรค เพราะมีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่า มีความคุ้มค่า และมีผลข้างเคียงน้อย เพราะสมุนไพรไม่ใช้โทษยกเว้นว่ามีการใช้ที่ไม่ถูกต้อง และกว่าจะนำมาใช้ได้นั้นผ่านการทดลองด้วยขั้นตอนมากมาย” นพ.ลือชา กล่าวต่อและว่า
ความก้าวหน้าของสมุนไพรไทยในขณะนี้ กำลังพัฒนาสู่การส่งออกในระยะเริ่มต้น ซึ่งตลาดสมุนไพรไทยมีมูลค้าสูงประมาณ 40,000-50,000 ล้านบาท/ปี ขณะเดียวกัน ก็มีการนำเข้าจากประเทศจีนและอินเดียวด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในอนาคตมีสมุนไพรอีกหลายตัวที่น่าสามารถส่งออกจำหน่ายต่างประเทศและมีอนาคตที่สดใส
ด้าน รศ.ดร.ลดาวัลย์ ประทีปชัยกูร คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ เปิดเผยว่า ในส่วนของ มอ. ซึ่งได้รับการสนับสนุนความร่วมมือจากกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุขมาด้วยดีตั้งแต่ 3 ปีก่อน จนถึงปัจจุบันได้รับการสนับสนุนวิทยากรในการจัดประชุมอบรมและอาจารย์พิเศษระดับบัญฑิตศึกษา จากกรมแพทย์แผนไทยอย่างต่อเนื่อง
โดยในปีที่ผ่านมา คณะพยาบาลศาสตร์ ได้มีความร่วมมือกับกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุขแล้วในหลายด้าน ได้แก่ การเรียนการสอน การจัดโครงการคาราวานส่งเสริมสุขภาพด้วยการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือกในระดับภูมิภาค และความร่วมมือพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมยะยะสั้น 3 เดือน
ในปี 2551 นี้ ได้พัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมระยะสั้นเสร็จสิ้นแล้ว คือ หลักสูตรประกาศนียบัตรครูโยคะเพื่อสุขภาพ และอยู่ระหว่างการร่างหลักสูตรฝึกอบรมสมาธิบำบัด รวมถึงจะมีการตั้งคณะแพทย์แผนไทยรองรับการขยายตัวของศาสตร์ด้านในในอนาคต ทั้งนี้ เป้าหมายสูงสุดคณะพยาบาลศาสตร์มีวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนาความก้าวหน้า สู่การเป็นศูนย์กลางทางวิชาการทางการพยาบาลในภูมิภาคเอเซียอาคเนย์ในปี 2555 โดยเน้นการพยาบาลแบบองค์รวมที่ผสมผสานภูมิปัญญาตะวันออก