สุราษฎร์ธานี - สถานการณ์น้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่สุราษฎร์ธานียังน่าเป็นห่วง ล่าสุดขยายพื้นที่เข้าท่วมอำเภอคีรีรัฐนิคม อีก 1 อำเภอ เจ้าหน้าที่เร่งอพยพราษฎรไปอยู่ในปลอดภัยแล้ว เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต
ความคืบหน้าเหตุน้ำป่าจากเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง และน้ำจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองยัน ในพื้นที่กิ่งอำเภอวิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี ได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ลุ่มริมสองฝั่งแม่น้ำคลองยัน ระดับน้ำสูงตั้งแต่ 1 เมตร จนถึง 2 เมตร พื้นที่ 5 หมู่บ้าน ตำบลตะกุกใต้ อำเภอวิภาวดี ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 60 ครัวเรือน ประมาณ 200 คน ทางราชการได้อพยพประชาชนพร้อมสิ่งของและสัตว์เลี้ยงไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว ตั้งแต่ช่วงค่ำที่ผ่านมาวานนี้ (12 พ.ค.)
ล่าสุดสถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง ตั้งแต่เวลาช่วงค่ำเป็นต้นมาจนถึงขณะนี้น้ำป่ายังได้ขยายเข้าท่วมพื้นที่ตำบลน้ำหัก อำเภอคีรีรัฐนิคม อีก 6 หมู่บ้าน จากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพชาวบ้านไปอยู่ในที่ปลอดภัย นอกจากนั้นน้ำยังได้ท่วมถนนสายหลักที่ใช้สัญจรระหว่างตัวอำเภอคีรีรัฐนิคม และกิ่งอำเภอวิภาวดี ช่วงบริเวณที่ทำการ อบต.น้ำหัก ระดับน้ำสูง 50 เซนติเมตร
ทำให้รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ส่วนถนนในหมู่บ้านต่างๆ ระดับน้ำสูงตั้งแต่ 80-120 เซนติเมตร รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียว เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ส่วนความเสียหายเจ้าหน้าที่กำลังเร่งทำการสำรวจ เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และตำรวจ สภ.วิภาวดี เร่งออกประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเตรียมรับมือน้ำป่าอีกระลอก หลังได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ว่าน้ำระลอกดังกล่าวจะเข้าถึงหมู่บ้านในเวลา 03.00 น คืนนี้ ซึ่งคาดว่าระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นจากเดิมอีกประมาณ 1 เมตร
ส่วนเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ออกประกาศเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง 149 จุด ให้เฝ้าระวังดินโคลนถล่ม น้ำป่าไหลหลาก และขอให้เฝ้าติดตามข่าวการพยากรณ์อากาศกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดด้วย