สุราษฎร์ธานี- สถานการณ์น้ำป่าถล่มพื้นที่ 2 อำเภอ ที่สุราษฎร์ธานี ยังน่าเป็นหวง ล่าสุด ฝนยังไม่หยุดตกขยายพื้นที่ท่วมเพิ่มอีก 1 อำเภอ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว ด้านผู้ประสบภัยผวาหนักหวั่นดินโคลนถล่ม เผยสาเหตุภัยพิบัติจากป่าต้นน้ำไม้ถูกบุกรุกแผ้วถางจำนวนมาก
จากกรณีมีฝนตกหนักในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ติดต่อกันนานเป็นวันที่ 5 ส่งผลให้น้ำป่าจากเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง และจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองยัน พื้นที่ อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี ได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ลุ่มริมสองฝั่งแม่น้ำคลองยัน ระดับน้ำสูง ตั้งแต่ 1 เมตร จนถึง 2 เมตร พื้นที่ 5 หมู่บ้าน ต.ตะกุกใต้ อ.วิภาวดี และ ต.น้ำหัก อ.คีรีรัฐนิคม อีก 6 หมู่บ้าน มีราษฎรได้รับความเดือดร้อนกว่า 200 ครัวเรือน ประมาณ 1,200 คน เจ้าหน้าที่ได้อพยพประชาชน พร้อมสิ่งของ และสัตว์เลี้ยงไปอยู่ในที่ปลอดภัย ถนนหลายสายยังคงถูกตัดขาด
ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา น้ำป่าอีกระลอกได้พัดถล่มเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรพื้นที่ 2 อำเภอ ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเป็นกว่า 2 เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจ อส.และหน่วยกู้ภัยเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเบื้องต้นมีพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายไปแล้วกว่า 2,000 ไร่
ขณะที่ในพื้นที่ยังมีฝนตกหนักต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 จังหวัด เร่งประกาศเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ระวังดินโคลนถล่มน้ำป่าไหลหลาก และติดตามการพยากรณ์อากาศกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด
ล่าสุด ช่วงบ่ายวันนี้ (13 พ.ค.) น้ำได้ขยายเข้าท่วมพื้นที่หมู่ 2 ต.เสวียต อ.ท่าฉาง ราษฎรได้รับผลกระทบจำนวน 20 หลังคาเรือน ส่วนที่บ้านปากลาง ม.3 ต.ตะกุกใต้ สถานการณ์น้ำยังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับ 1 เมตร 50 เซนติเมตร และมีแนวโน้มลดระดับลงอย่างช้าๆ
ทั้งนี้ เนื่องจากมีปริมาณน้ำสะสมจำนวนมาก หากฝนไม่ตกซ้ำในคืนนี้ คาดว่า สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติบ่ายวันพรุ่งนี้ (14 พ.ค.) ด้านความช่วยเหลือ ปภ.จังหวัด ร่วมกับกาชาดจังหวัด และอบต.นำข้าวสาร อาหารแห้ง พร้อมน้ำดื่มออกแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยใน อ.คีรีรัฐนิคม และ อ.วิภาวดี เบื้องต้นแล้ว
ด้าน นางยวิษฐา แย้มมณี ผู้ประสบภัย กล่าวว่า สถานการณ์ยังคงน่าวิตก เกรงจะเกิดดินโคลนถล่มเนื่องจากบนต้นน้ำมีการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าจำนวนมาก ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งมีวัตถุตกลงมาจากฟ้า ค้างที่ยอดต้นยางพารา หมู่ 3 บ้านยาง อ.คีรีรัฐนิคม ชาวบ้านแตกตื่นไปมุงดู เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เป็นเครื่องวัดปริมาณน้ำฝนของกรมอุตุนิยมวิทยา
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ประกาศให้ 2 อำเภอเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว