พิจิตร – ผู้ว่าฯ พิจิตรออกประกาศเตือนภัย 4 อำเภอเขตรอยต่อจังหวัดเพชรบูรณ์ ระวังน้ำป่าไหลหลาก สั่งการท้องถิ่นจัดเวรยามเฝ้าระวังพร้อมรับมือสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกำชับ จนท.-อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนเตรียมพร้อมเผชิญเหตุตลอดเวลา
รายงานจากจังหวัดพิจิตรแจ้งว่า วันนี้ (18 พ.ค.) นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้ออกประกาศเตือนภัยชาวบ้าน ในพื้นที่ 4 อำเภอของ จ.พิจิตร ที่มีพื้นที่ติดกับเทือกเขาเพชรบูรณ์ ได้แก่ อ.สากเหล็ก, อ.วังทรายพูน, อ.ทับคล้อ ,อ.ดงเจริญ ให้ระวังน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมที่อยู่อาศัย และพื้นที่ทำการเกษตร เนื่องจากขณะนี้มีคำเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า พื้นที่ภาคเหนือจะมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ถึงร้อยละ 70 ของพื้นที่ และจะยังมีฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยเฉพาะพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก จ.สุโขทัย จ.พิจิตร จ.เพชรบรูณ์
ทั้งนี้ พื้นที่ทั้ง 4 อำเภอนั้น มักจะเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเป็นประจำเวลาที่มีฝนตกหนัก โดยจะมีน้ำป่าไหลหลากลงมาจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ อย่างรุนแรงและรวเร็ว ทำตั้งตัวไม่ทัน ซึ่งจากการประกาศเตือนภัยดังกล่าว ขณะนี้ได้มีการกระจายข่าวผ่านทางหอกระจายข่าวประจำหมู่บ้านและสถานีวิทยุชุมชนเพื่อเตือนภัยแล้ว รวมทั้งให้ผู้นำชุมชนจัดเวรยามเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำฝนตลอด 24 ชั่วโมงด้วย
นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน และหน่วยกู้ภัยของจังหวัดเตรียมพร้อมห้ามเจ้าหน้าที่ลาหยุดงาน หรือออกนอกพื้นที่อย่างเด็ดขาด ทั้งนี้เผื่อเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากจะได้เข้าช่วยเหลือราษฎรได้อย่างทันท่วงที
รายงานจากจังหวัดพิจิตรแจ้งว่า วันนี้ (18 พ.ค.) นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้ออกประกาศเตือนภัยชาวบ้าน ในพื้นที่ 4 อำเภอของ จ.พิจิตร ที่มีพื้นที่ติดกับเทือกเขาเพชรบูรณ์ ได้แก่ อ.สากเหล็ก, อ.วังทรายพูน, อ.ทับคล้อ ,อ.ดงเจริญ ให้ระวังน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมที่อยู่อาศัย และพื้นที่ทำการเกษตร เนื่องจากขณะนี้มีคำเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า พื้นที่ภาคเหนือจะมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ถึงร้อยละ 70 ของพื้นที่ และจะยังมีฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยเฉพาะพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก จ.สุโขทัย จ.พิจิตร จ.เพชรบรูณ์
ทั้งนี้ พื้นที่ทั้ง 4 อำเภอนั้น มักจะเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเป็นประจำเวลาที่มีฝนตกหนัก โดยจะมีน้ำป่าไหลหลากลงมาจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ อย่างรุนแรงและรวเร็ว ทำตั้งตัวไม่ทัน ซึ่งจากการประกาศเตือนภัยดังกล่าว ขณะนี้ได้มีการกระจายข่าวผ่านทางหอกระจายข่าวประจำหมู่บ้านและสถานีวิทยุชุมชนเพื่อเตือนภัยแล้ว รวมทั้งให้ผู้นำชุมชนจัดเวรยามเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำฝนตลอด 24 ชั่วโมงด้วย
นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน และหน่วยกู้ภัยของจังหวัดเตรียมพร้อมห้ามเจ้าหน้าที่ลาหยุดงาน หรือออกนอกพื้นที่อย่างเด็ดขาด ทั้งนี้เผื่อเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากจะได้เข้าช่วยเหลือราษฎรได้อย่างทันท่วงที